ภายในอาคารจัดแสงสีที่เปลี่ยนอยู่ตลอด
ความโดดเด่นของฉากจำลองนี้ คือ ภาพฝาผนังแบบเปอร์สเปกทีฟ ที่มองดูแล้วคล้ายถนนทอดลึกยาวเข้าไป และการตกแต่งท้องฟ้าที่ดูเหมือนจริงมาก
ที่เหลืออีกห้าห้องนั้นจัดแสดงเทคนิกและประวัติการถ่ายทำภาพยนตร์อะนิเมชั่น ภาพยนตร์สำหรับเด็ก การศึกษาวิทยาศาสตร์ของภาพยนตร์ พร้อมการพากษ์เสียงภาพยนตร์ ข่าว และสารคดี สำหรับห้องที่เก้านั้นนำเสนอผลงานของภาพยนตร์จากฮ่องกงและมาเก๊า และห้องสุดท้ายของส่วนแรกนี้แสดงภาพยนตร์ของไต้หวัน
ในอีก 10 ห้องที่เหลือนั้น จัดแสดงกรรมวิธีการถ่ายทำภาพยนตร์ การกำกับศิลป์ เทคนิกภาพพิเศษ การตกแต่งสเปเชียลเอฟเฟ็ก การสร้างสเปเชียลเอฟเฟ็กด้วยระบบดิจิตอล การบันทึกเสียง การตัดต่อ ขั้นตอนการล้างฟิล์ม การใส่อะนิเมชั่นในภาพยนตร์ และภาพยนตร์ในรูปแบบใหม่ๆ ต่างๆ
โรงถ่ายร้านค้าในนครเซี่ยงไฮ้
ห้องที่ผู้ชมทุกคนชื่นชอบกันมากเป็นพิเศษ ก็คือ ห้องเทคนิกภาพพิเศษ ที่มีการจัดแสดงการถ่ายทำฉากในรถไฟ แต่รถไฟจอดนิ่งอยู่กับที่ มีเพียงฉากที่หน้าต่างเท่านั้นที่เลื่อนไป โดยแสดงไว้ทั้งแบบโบราณที่ใช้ฉากภาพเลื่อน และแบบสมัยใหม่ที่หน้าต่างรถไฟเป็นจอดิจิตอล ทำให้เรารู้ว่าฉากการต่อสู้อันดุเดือดบนรถไฟที่เราดูบ่อยๆ นั้น ล้วนถ่ายทำในโรงถ่ายที่ตัวรถไฟจอดนิ่งสนิทอยู่กับที่เช่นนี้ทั้งนั้น
นอกจากนี้ยังมีการจำลองการถ่ายทำการขับขี่มอเตอร์ไซด์ โดยใช้เทคนิกบูลสกรีน หรือฉากสีฟ้า ซึ่งสามารถซ้อนฉากจริงเข้าไปกับตัวคนและรถได้เลย ซึ่งเทคนิกนี้ได้เปิดให้ผู้ที่มาเที่ยวชม ได้ทดลองสวมบทบาทนักแสดงไปทำการขี่มอเตอร์ไซด์ผาดโผนในจอภาพยนตร์ ทั้งที่จริงแล้วตัวรถตั้งอยู่กับที่ เพียงแค่เอียงไปมาได้ และมีพัดลมเป่าหน้าให้ผมและเสื้อผ้าปลิวเท่านั้น ทุกคนจึงเข้าฉากกันอย่างสนุกสนาน รวมถึงฉากพรมวิเศษที่ลอยอยู่บนฟ้าด้วย ซึ่งก็ใช้เทคนิกการถ่ายทำแบบเดียวกัน
ห้องสเปเชียลเอฟเฟ็กด้วยระบบดิจิตอล ที่แสดงการตัดต่อโดยใช้คอมพิวเตอร์ ก้ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีการอธิบายให้เห็นทั้งความสามารถของนักแสดงและความก้าวหน้าของระบบดิจิตอล เช่นฉากสู้รบที่ต้องมีทหารนับหมื่นนับแสนหรือฉากแบบสโลว์โมชั่นขณะถูกยิงด้วยธนู ว่าทำออกมาให้ดูเหมือนจริงได้อย่างไร ซึ่งอธิบายด้วยภาพทีละเฟรม รวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนไหว แสดงให้เห็นการแสดงของตัวละคร และการประกอบเข้าด้วยกันของภาพในคอมพิวเตอร์