เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีที่กรุงปักกิ่ง เพื่อพิจารณาและกำหนดแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ กำหนดเป้าหมายการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของจีนในปี 2020 และเสนอมาตรการ นโยบายและปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง
ที่ประชุมเห็นว่า การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศอย่างครบถ้วน เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมของจีนและสิทธิผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนจีน เกี่ยวข้องกับความผาสุขของประชาชนและการพัฒนาในระยะยาวของจีน ในฐานะเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบ จีนเสนอให้กระชับความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจัง ร่วมกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และจะยืนหยัดกรอบอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพิธีสารเกียวโต ปฏิบัติตามหลักการ "มีหน้าที่ร่วมกันแต่มีความแตกต่างกัน" ปฏิบัติตามโรดแมปบาหลีอย่างเข้มงวด ส่งเสริมให้ปฏิบัติตามข้อตกลง 2 ฉบับดังกล่าวอย่างทั่วด้านและต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาการลดและถ่ายโอนเทคโนโลยีและเงินทุน เพื่อผลักดันการประชุมโคเปนเฮเกนให้ประสบผลคืบหน้า
ที่ประชุมชี้ว่า เมื่อเร็วๆนี้ สหประชาชาติจัดการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ นายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีจีนเป็นตัวแทนรัฐบาลจีน แสดงจุดยืนของจีนต่อประชาคมโลก โดยระบุอย่างชัดเจนว่า จีนจะใช้มาตรการสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ จุดยืนและข้อเสนอของจีน ได้รับความสนใจและความเห็นชอบจากประเทศต่างๆอย่างกว้างขวาง
ในการประชุมประจำของคณะรัฐมนตรีจีนครั้งนี้ ยังได้ให้ข้อแนะว่า เมื่อเผชิญกับการท้าทายอันล่อแหลมจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เราต้องปฏิบัติตามการพัฒนาตามหลักวิทยาศาสตร์ ใช้มาตรการและปฏิบัติการที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น เร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา พยายามควบคุมการปล่อยแก๊สเรือนกระจก สร้างสังคมที่ประหยัดทรัพยากรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมลงมติว่า จนถึงปี 2020 การปล่อยคาร์บอนต่อหน่วยจีดีพีหรือมวลรวมการผลิตภายในประเทศจะลดลง 40%-45% เมื่อเทียบกับปี 2005 ให้ใช้เป้าหมายนี้เป็นดัชนีชี้วัดสำหรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจประชาชาติและสังคมระยะกลางกับระยะยาว โดยกำหนดวิธีคำนวณ ตรวจสอบ และพิจารณาที่เกี่ยวข้องขึ้นมาด้วย ที่ประชุมยังชี้ว่า จะพยายามพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ผลักดันการสร้างสถานีกำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังนิวเคลียร์ เป็นต้น เพื่อลดการใช้น้ำมันปิโตรเลียมให้น้อยลงประมาณ 15% ในปี 2020 นอกจากนี้ จีนจะส่งเสริมการปลูกป่าและควบคุมบริหารป่าไม้ ให้มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 40 ล้านเฮกตาร์เมื่อเทียบกับปี 2005 มีปริมาณไม้เพิ่มมากขึ้น 1,300 ล้านลูกบาศเมตร ทั้งนี้ นับว่าเป็นการใช้ปฏิบัติการอย่างจริงใจของรัฐบาลจีนตามสภาพที่เป็นจริงของประเทศ เป็นการใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจีนครั้งนี้ยังเน้นว่า จีนกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการสร้างสังคมพอกินพอใช้ และอยู่ในช่วงเร่งการพัฒนาชนบทให้เป็นเมืองและเป็นอุตสาหกรรม ฉะนั้น หน้าที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจึงหนักหนาสาหัส จีนมีประชากรจำนวนมากมาย ระดับการพัฒนาเศรษฐกิจยังค่อนข้างต่ำ ข้อขัดแย้งในโครงสร้างทางเศรษฐกิจยังค่อนข้างเด่น โครงสร้างพลังงานจะถือถ่านหินเป็นหลัก ความต้องการในการใช้พลังงานยังเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น การควบคุมการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจึงมีแรงกดดันใหญ่และจะเผชิญกับความยากลำบาก ถ้าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คงต้องใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ
ผิง