ตั้งแต่มาเก๊ากลับคืนสู่มาตุภูมิเป็นเวลา 10 ปีมานี้ เศรษฐกิจได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสังคมมีความมั่นคง ได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยเป็นเวลานานปี ช่วงปี 2002 ถึง 2008 อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของ GDP ในมาเก๊าสูงถึงร้อยละ 20.5 ส่วน GDP เฉลี่ยต่อคนได้ล้ำเกินสิงคโปร์ บรูไนและญี่ปุ่น บุคคลวงการต่าง ๆ ของมาเก๊าชี้ว่า เศรษฐกิจของมาเก๊าได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วก็เพราะว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางและมีแรงกระตุ้นจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจของมาตุภูมิ
ปี 2003 การระบาดของโรคซาร์สเป็นเหตุให้ตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศซบเซา ซึ่งได้ทำลายเศรษฐกิจมาเก๊าอย่างรุนแรง รัฐบาลส่วนกลางได้เปิดเสรีให้ชาวแผ่นดินใหญ่ทั่วไปเข้าไปเที่ยวมาเก๊าอย่างสะดวกสบายโดยไม่จำเป็นต้องจัดทัวร์แบบหมู่คณะ เพื่อกอบกู้กิจการท่องเที่ยวของมาเก๊าที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต นายอาน ตุ้ง เหลียง อธิบดีกรมการท่องเที่ยวของเขตบริหารพิเศษมาเก๊ากล่าวทบทวนว่า
"หลังโรคซาร์สระบาดแล้ว รัฐบาลส่วนกลางได้วางนโยบายส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงและมาเก๊า เปิดเสรีให้ชาวแผ่นดินใหญ่ทั่วไปท่องเที่ยวมาเก๊า ซึ่งทำให้มาเก๊ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น"
อันที่จริง การเปิดเสรีให้ชาวแผ่นดินใหญ่ทั่วไปเข้าไปเที่ยวมาเก๊าอย่างสะดวกสบายเพียงเป็นเนื้อหาข้อหนึ่งในความตกลงว่าด้วยการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างแผ่นดินใหญ่กับมาเก๊า หรือ CEPA ที่ได้ลงนามกันเมื่อ ปี 2003 ต่อมา แผ่นดินใหญ่กับมาเก๊าได้ทยอยกันลงนามในความตกลงอีกหลายฉบับ ตามความตกลงCEPA จะปรับภาษีศุลกากรของสินค้าที่ผลิตในมาเก๊าให้เป็นศูนย์ขณะเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ นายซู เทียน ผิง อธิบดีกรมเศรษฐกิจมาเก๊าเห็นว่า การลงนามในความตกลง CEPA ได้กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเก๊า
"การลงนามในความตกลงCEPAได้สร้างหลักประกันให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจของมาเก๊า"
หอการค้าจีนที่มาเก๊ามีสมาชิก 1,500 ราย และได้จัดตั้งสำนักงานสาขาในหลายประเทศ นายหม่า โหย่งหลี่ รองประธานหอการค้าฯเห็นว่า หลังกลับคืนสู่จีนแล้ว เศรษฐกิจของมาเก๊ามีอิทธิพลมากขึ้นในสากลอย่างเห็นได้ชัด
"10ปีมานี้ มาเก๊ากับแผ่นดินใหญ่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้นทุกวัน รัฐบาลส่วนกลางได้วางนโยบายพิเศษต่อมาเก๊า เช่น ความตกลงCEPA นิคมอุตสาหกรรมข้ามแดน เป็นต้น ฐานะทางเศรษฐกิจของมาเก๊าได้ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ในสากล ชาวต่างแดนจำนวนมากชอบทำธุรกิจกับชาวมาเก๊า หรือผ่านชาวมาเก๊าเข้าไปลงทุนที่แผ่นดินใหญ่"
กล่าวสำหรับชาวมาเก๊าแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ได้ยกระดับสูงขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาดีใจมาก นายเจิ้งปิ่งคุน ที่ทำงานในบริษัททัวร์แห่งหนึ่งกล่าวว่า
"ชีวิตความเป็นอยู่ของเราได้รับการปรับปรุงดีขึ้นกว่าเดิม เวลาีนี้ หางานทำง่าย รัฐบาลเขตบริหารพิเศษให้เงินช่วยเหลือต่างๆแก่คนทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น ภรรยาของผมทำงานในโรงงาน รับเงินเดือนประมาณ 2,000เหรียญมาเก๊า รัฐบาลให้เงินช่วยเหลืออีก2,000 เหรียญ ถ้าใครได้เงินเดือนไม่ถึง 4,000 เหรียญฯ รัฐบาลจะเพิ่มให้ "
แหล่งข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน ชาวมาเก๊าต่างมีหลักประกันทางด้านต่างๆ เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาลและสวัสดิการทางสังคม การที่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าจัดสรรงบประมาณใช้ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นการใหญ่ก็เพราะว่า เศรษฐกิจมาเก๊าได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว GDP ของมาเก๊าได้เพิ่มจาก 47,300ล้านเหรียญมาเก๊าของเมื่อปี1999 ขึ้นเป็น171,870 ล้านเหรียญมาเก๊าของเมื่อปี2008 GDP เฉลี่ยต่อคนของชาวมาเก๊าอยู่อันดับต้นๆของเอเชีย แม้จำนวนประชากรได้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม
นายเหอ โฮ่ว หัว ผู้ว่าการคนแรกของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าที่ใกล้จะพ้นตำแหน่งกล่าวว่า การที่เศรษฐกิจมาเก๊าสร้างมหัศจรรย์เช่นนี้ สาเหตุสำคัญคือ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของมาตูภูมิ นายเหอโฮ่วหัวกล่าวว่า
"การสนับสนุนจากมาตุภฒิ และเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของมาตุภูมิ ย่อมจะกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจของมาเก๊า"