หออิตาลีในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 เซี่ยงไฮ้
ใน 195 ประเทศทั่วโลก มีถึง 189 ประเทศและ 57 องค์การระหว่างประเทศมาร่วมงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 ที่นครเซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดงานฯ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้รวมเวลา 25 วัน มีนักท่องเที่ยวกว่า 5.6 ล้านคนเข้าชมงาน เฉลี่ยแล้ววันหนึ่งๆ มีผู้เข้าชมประมาณ 3 แสนคน ซึ่งนับว่าไม่น้อยทีเดียว ซึ่งรายการในวันนี้จะพาท่านไปชมหออิตาลีในงานเวิลด์เอ็กซ์โปเซี่ยงไฮ้ และเมืองมิลานของประเทศอิตาลีจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2015 ฉะนั้น หออิตาลีจึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับประเทศอิตาลีกันเสียหน่อย อิตาลี (อิตาลี: Italia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอิตาลี (อิตาลี: Repubblica Italiana) เป็นประเทศในทวีปยุโรปทางตอนใต้ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิตาลีที่มีรูปทรงคล้ายรองเท้าบู้ต และมีเกาะ 2 เกาะใหญ่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ เกาะซิซิลี และ เกาะซาร์เดนญา และพรมแดนตอนเหนือมีเทือกเขาแอลป์ กั้นกับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และสโลวีเนีย ประเทศอิตาลีเป็นประเทศสมาชิกก่อตั้งของสหภาพยุโรป เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ นาโต และกลุ่มจี 8
ประเทศอิตาลีมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 3 แสนตารางกิโลเมตร ถูกล้อมรอบด้วยทะเลในทุกๆ ด้านยกเว้นด้านเหนือ โดยในเทือกเขาทางภาคเหนือมีภูเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป คือภูเขามองต์ บรังก์ (อิตาลี: Monte Bianco) ซึ่งส่วนหนึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เทือกเขาที่สำคัญอีกแห่งคือ เทือกเขาแอพเพนไนน์ (อิตาลี: Appennini) พาดผ่านตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ อิตาลีมีแม่น้ำที่ยาวที่สุดชื่อแม่น้ำโป (Po) และนอกจากนี้ยังมีแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านกรุงโรม
ประชาชนในประเทศอิตาลีเรียกว่า "ชาวอิตาเลียน" ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยจักรวรรดิโรมันโบราณ จำนวนประชากรของประเทศอิตาลีในปัจจุบันมีกว่า 60 ล้านคน (ณ ปี 2008) โดยอาศัยอยู่ในกรุงโรมประมาณ 2.5 ล้านคน และอีก 1.5 ล้านคนอยู่ในมิลาน ศาสนาที่ผู้คนส่วนใหญ่ในอิตาลีนับถือคือ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งชาวอิตาเลี่ยนจำนวนมากถึง 87.8% เป็นโรมันคาทอลิกโดยพฤตินัย
สาธารณรัฐอิตาลีสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนปี 1946 ด้วยเหตุนี้ วันหออิตาลีในงานเวิลด์เอ็กซ์โปครั้งนี้จึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 2 มิถุนายนตามวันชาติ หออิตาลีมีพื้นที่ 3,600 ตารางเมตร และมีคำขวัญว่า "เมืองของมนุษย์" (City of Man) การออกแบบของหอได้แรงบันดาลใจจาก "การละเล่นไม้" (pick-up sticks) ซึ่งเป็นการละเล่นของเด็กในนครเซี่ยงไฮ้ ทั้งหอประกอบด้วยส่วนการแสดงอเนกประสงค์ (functional modules) ที่เป็นอิสระ 20 ชิ้น เป็นตัวแทน 20 แคว้นของอิตาลี แต่ละชิ้นสามารถถอดออกจากได้และนำมาประติประต่อกันใหม่ได้เหมือนการเล่นก่อท่อนไม้
แบบจำลองประตูโรงละครโอลิมปิกในเมืองวีเชนซา ในหออิตาลี
นายเบเนียมิโน ควินทีเอรี หัวหน้าผู้แทนรัฐบาลอิตาลีประจำงานเวิลด์เอ็กซ์โปกล่าวว่า ต้องการจะจัดแสดงความเป็นอิตาลีที่มีความหลากหลายต่อชาวโลก ก่อนอื่นในเรื่องของสถาปัตยกรรม ก็ต้องการจะให้หอแสดงของอิตาลีเป็นตัวอย่างที่จะสามารถให้ผู้คนจินตนาการถึงตรอกซอกซอยและสภาพแวดล้อมในเมืองของอิตาลีได้ ไปจนถึงวิถีชีวิตแบบอิตาเลียน (Living the Italian Way) ส่วนรายการแสดงต่างๆ ก็ล้วนสอดคล้องกับประเด็นหลักของงานครั้งนี้ที่ว่า "เมืองที่ดีกว่า ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น"
ด้านนอกกำแพงประตูของหออิตาลีมีการแกะสลักตัวอักษรภาษาจีนแบบนูนขนาดยักษ์ใหญ่คำว่า "ฝู" (Fu) ซึ่งแปลว่า "วาสนา" ตลอดจนชื่อและคำขวัญของหออิตาลีด้วยภาษาประเทศต่างๆ ถือได้ว่าเป็นการเชิญชวนประชาชนทุกประเทศให้มาเที่ยวหออิตาลี
ด้านขวาจองห้องโถงเป็นแบบจำลองประตูโรงละครโอลิมปิกในเมืองวีเชนซา (Olympic Theater in Vicenza) จำลองมาในมาตราส่วน 1:2 ซึ่งเป็นถาปัตยกรรมโบราณที่มีมาตั้งแต่ปี 1585 เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของอิตาลี
จากนั้นมีห้องแสดง 5 ห้อง จัดแสดงผลงานยอดเยี่ยมของอิตาลีในด้านต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ศิลปะสมัยใหม่ ศิลปหัตถกรรม สถาปัตยกรรม นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี และอาหารการกิน
รองเท้าแฮนด์เมดยี่ห้อเฟอร์รากาโม ในหออิตาลี
นางผาง ฉ่ง นักท่องเที่ยวจากเมืองอู๋ซีของจีนเล่าว่า รู้สึกว่าหออิตาลีทำได้ดีมาก ได้รวมรวมสิ่งของวัฒนธรรมของประเทศอิตาลีมาเข้าด้วยกัน เมื่อเข้าชมแล้ว จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับอิตาลีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การแสดงบางรายการยังสามารถเข้าสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
เมื่อพูดถึงอิตาลีแล้ว จะทำให้นึกถึงยุคเรอเนซองส์ เพราะในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 อิตาลีได้ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูศิลปวิทยาการของอารยธรรมกรีกและโรมัน ในหออิตาลีมีการจำลองภาพวาดฝาผนังในโบสถ์ ผลงานของจิออร์จิโอ วาซารี (Giorgio Vasari) นักเขียนภาพในยุคเรอเนซองส์ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงโดยวงดนตรีซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงจากโรงละครมิลานด้วย
เมื่อพูดถึงอิตาลีแล้ว จะทำให้นึกถึงอีกอย่างหนึ่ง คือ แฟชั่นโชว์ของอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "มิลาน" เมืองแห่งแฟชั่นที่มีชื่อเสียงก้องโลก และเป็นแหล่งรวมเสื้อผ้าแบรนด์สุดหรูหราของโลก ฉะนั้น ในช่วงจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 184 วัน จึงมีการจัดแสดงแฟชั่นโชว์แบรนด์ระดับโลก เช่น ดีแอนด์จี (D&G) ปราดา (Prada) และเวอร์ซาเช (Versace) ตลอดจนรองเท้าแฮนด์เมดอย่างยี่ห้อเฟอร์รากาโม (Ferragamo) สินค้าราคาแพงเหล่านี้ล้วนสะดุดตาสะดุดใจผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพูดถึงอิตาลีแล้ว ยังทำให้นึกถึงพิซซาด้วย จริงๆ แล้วอาหารอิตาลีมีมากกว่านี้ เพราะอาณาเขตแบ่งออกเป็นแคว้นใหญ่ๆ 12 แคว้น เสมือนอาหารจีนก็มี 8 สำนัก ทั้งอาหารกวางตุ้ง อาหารแต้จิ่ว อาหารเซี่ยงไฮ้ อาหารเสฉวน อาหารตงเป่ย เป็นต้น ส่วนอาหารอิตาลีนั้นก็ไม่แพ้กัน มีทั้งอาหารแป้ง ชีส แฮม ของหวาน กาแฟ และไวน์ นักท่องเที่ยวที่มาชมหออิตาลีสามารถชิมอาหารอิตาลีขนานแท้ได้ที่ร้านอาหารคาราวักกิโอ (Caravaggio) ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ซึ่งปรุงโดยพ่อครัวชาวอิตาเลี่ยนขนานแท้ อย่างไรก็ตาม ชาวจีนยังอาจจะไม่ค่อยคุ้นปากกับอาหารอิตาลีมากเท่าไร ฉะนั้น ผู้ประกอบการอาหารอิตาลียังต้องทำการวิจัยอีกเยอะว่า จะเจาะตลาดจีนมากกว่านี้ได้อย่างไร
การแสดงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในหออิตาลี
ก่อนจะลาจากหออิตาลีไป ยังมีห้องแสดงอีกห้องหนึ่งที่ไม่ควรพลาด นั้นก็คือ ห้องแสดงเมืองมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่ง นักท่องเที่ยวจะสามารถสูดดมกลิ่นอายของงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2015 ล่วงหน้าได้ เพราะเมืองมิลานจะเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งต่อไป เท่าที่ทราบ ประเด็นหลักของานเวิลด์เอ็กซ์โป 2015 ที่เมืองมิลานชื่อว่า "หล่อเลี้ยงโลก มอบพลังงานแก่ชีวิต" (Feeding the Planet, Energy for Life) ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับอาหารเป็นหลัก
และในวันหออิตาลี ซึ่งตรงกับวันที่ 2 มิถุนายน ภาคภาษาอิตาเลี่ยนสถานีวิทยุซีอาร์ไอจะทำการถ่ายทอดสดด้วย
แมกกี้ ชุง (Maggie Cheung) ดาราภาพยนตร์ชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ชมหออิตาลีในงานเวิลด์เอ็กซ์โป เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2010
(LING)