วันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ นครเซี่ยงไฮ้เริ่มเปิดงานเวิลด์เอ็กซ์โปปี 2010 ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก อาคารศาลาไทยก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวพร้อมกัน เมื่อเร็วๆนี้ นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานอำนวยการอาคารศาลาไทยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า จนถึงปัจจุบัน อาคารศาลาไทยเปิดมากว่า 3 เดือนแล้ว มีนักท่องเที่ยวมากพอสมควร เฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 3.5-3.8 หมื่นคน รวมแล้วมากกว่า 3.2 ล้านคนแล้ว
ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรอาคารศาลาไทย （Thailand Pavilion） ซึ่งตั้งอยู่ โซน B-03 โดยมีนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานอำนวยการอาคารศาลาไทย เฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก โอกาสเดียวกันนี้ ได้ทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์ไทย การจัดแสดงนิทรรศการทั้ง 3 ห้อง ร้านศิลปาชีพ 904 ขายของที่ระลึก และร้านอาหารไทยโดยครัวการบินไทย
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบการเข้าร่วมจัดแสดงของอาคารศาลาไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 บนพื้นที่ 3,117 ตารางเมตร ภายใต้แนวความคิด "Thainess: Sustainable Ways of Life : ความเป็นไทย วิถีแห่งความยั่งยืนของชีวิต" ได้นำเสนอเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมไทยผ่านทางอาคารศาลาไทย (Thailand Pavilion) ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่น และใช้มังกรพันเกี้ยวกับพญานาค มาเป็นสื่อความสัมพันธ์ไทย-จีนที่แน่นแฟ้นต่อกัน นอกจากนี้มีการจัดแสดงนาฏศิลป์ไทยในศาลาจตุรมุข และภายในอาคารศาลาไทยมีการจัดแสดงนิทรรศการ โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการนำเสนอ "ประเทศไทย" และแสดง "ความเป็นไทย" ให้นานาประเทศได้รู้จัก โดยแบ่งการแสดงนิทรรศการออกเป็น 3 ห้อง ดังนี้
ห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ 1 "จากต้นสายแหล่งกำเนิด" จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านสายน้ำที่สื่อถึงเรื่องราวหลากหลายของวิถีชีวิตคนไทยจากทั่วทุกภาคของประเทศ ผ่านจอ LED 4 ด้านและจอภาพใต้น้ำ
ห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ 2 "เกิดร้อยพันหลายวิถี" เป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยพัฒนาการของบ้านเมืองไทย เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความสัมพันธ์อันยาวนานของไทย-จีน โดยมีตัวแทนหุ่นยนต์ยักษ์ไทยชื่ออินทรชิต ยักษ์จีนชื่อลั่นถัน และน้องไท ซึ่งเป็นมาสคอตของอาคารศาลาไทยเป็น ผู้เล่าเรื่อง
ห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ 3 "หลอมรวมชีวีสู่วิถีความเป็นไทย" นำเสนอเรื่องราวความเป็นไทยที่อยู่บนวิถีแห่งความพอเพียง โดยนำเสนอด้วยเทคนิคเสมือนจริง 4 มิติ ที่ผู้เข้าชมจะได้รับอรรถรสของภาพ กลิ่น เสียง และสัมผัส ซึ่งนับได้ว่าเป็นไฮไลท์ของอาคารศาลาไทย และเป็นที่ชื่นชอบของผู้เข้าชม ซึ่งแต่ละห้องจะใช้เวลาประมาณ 4 นาที ฉะนั้นผู้เข้าชมจะใช้เวลาชมอาคารศาลาไทยประมาณ 15 นาที ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับจำนวนคนได้มาก
อาคารศาลาไทย เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้รับความนิยมและความสนใจเข้าเยี่ยมชมจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ติดอันดับ 1 ใน 7 อาคารยอดนิยมจากกว่า 200 ประเทศ
(Ton/Ping)
