ในทศวรรษ 1980 คนจีนมองงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ซึ่งจัดขึ้นในยุโรปว่า เป็นงานแสดงสิ่งแปลกประหลาดโดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ นี่แสดงให้เห็นว่า งานเวิลด์ เอ็กซ์โปเน้นนวัตกรรมมาโดยตลอด ตั้งแต่งานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งแรกที่จัดขึ้นเมื่อ 159 ปีก่อนเป็นต้นมา งานเวิลด์ เอ็กซ์โปแต่ละครั้งล้วนเป็นเวทีแสดงนิวไฮเทคของโลก

เช่นเดียวกับงานเวิลด์ เอ็กซ์โปทุกครั้งในอดีต งานเวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ ปี 2010 ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศไฮเทคในทุกที่ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมอย่างลึกซึ้งเท่านั้น สิ่งที่สำคัญยิ่งคือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเกิดความสะดวกสบายและทันสมัยอย่างมาก

หากพูดถึงปัจจัยไฮเทค หอญี่ปุ่นไม่เป็นรองใคร เพราะเป็นหอนิทรรศการที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากที่สุดในงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ โดยใช้พลังลม แสงอาทิตย์ และน้ำฝนเป็นพลังงาน ผู้ออกแบบหอญี่ปุ่นเผยว่า หอญี่ปุ่นจะทำให้ผู้เข้าชมได้เห็นสภาพของเมืองที่ปลอดมลพิษในปี 2020

(เสียงดนตรีในหอญี่ปุ่น)

เสียงเพลงที่ท่านได้ฟังเมื่อครู่นี้ชื่อ "มู่ลี่ฮัว" แปลว่า "ดอกมะลิ" เพลงนี้เป็นที่รู้จักกันดี แต่ทราบไหมว่า เพลงนี้บรรเลงด้วยไวโอลินโดยหุ่นยนต์ญี่ปุ่นเครื่องหนึ่ง หุ่นยนต์เครื่องนี้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ มีดวงตาสีดำ ข้อนิ้วที่ยืดหยุนและลักษณะท่าทางอันงดงาม

ได้ยินเสียงเพลงที่บรรเลงโดยหุ่นยนต์แล้ว เชื่อไหมว่า ในอนาคตไม่ช้านี้ มนุษย์อาจจะสามารถพูดคุยกับหุ่นยนต์หรือสัตว์ได้ ผู้กำกับหอสารสนเทศแนะนำว่า การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ทุกอย่าง ในอนาคต มนุษย์อาจจะพูดคุยกับสัตว์ทุกชนิดได้ หิมะก็คงสามารถตกในทุกฤดูกาลได้

นิวไฮเทคที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ โรงภาพยนตร์จอยักษ์ในหอซาอุดิอาระเบีย เมื่อเข้าไปในหอนี้ ผู้ชมจะได้สัมผัสกับจอภาพยนตร์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่รอบตัวเรา และนำพาเราสู่ท้องฟ้า ดำดิ่งใต้ท้องทะเล ยืนอยู่กลางทะเลทราย ทำให้ผู้ชมประทับใจสุดสุด จนอาจลืมตัวว่า แท้จริงแล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันแน่ นายหวัง ผู้เข้าชมหอซาอุดิอาระเบียบอกว่า "เมื่อเราดูภาพยนตร์ในหอนี้เสร็จแล้ว ทุกคนปรบมือกันเนิ่นนาน ผมเคยชมหลายหอแล้ว หอนี้เป็นหอที่ผมประทับใจสุดสุด เพื่อนๆหลายคนก็รู้สึกเหมือนกัน บางคนดูหอนี้สองรอบแล้วยังไม่อยากออก"

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ชอบดูภาพยนตร์ไฮเทคส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว แต่ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ ก็มีผู้ชมอายุสูงจำนวนมากที่ยอมรอคิวหลายชั่วโมงเพื่อดูภาพยนตร์ไฮเทค ในหออเมริกาก็มีการฉายภาพยนตร์ 4มิติ เรื่อง "สวนดอกไม้" นายช่าย ถี่เฉียง วัย 70 ปีชาวเซี่ยงไฮ้ ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วบอกว่า "สนุกมาก ในหนังมีฟ้าร้องและฝนตก ในโรงหนังก็มีฝนตกจริงๆ ผู้สูงอายุสองคนกลัวจนต้องหนีออกไป คงไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน น่าขำจริงๆ"

ในหอจีนก็มีการแสดงผลงานนิวไฮเทคที่สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าชม นั่นก็คือ ภาพจำลอง "เชง หมิง ซ่าง เหอ ถู" ซึ่งยาว 128 เมตร กว้าง 6.5 เมตร ใหญ่กว่าภาพจริง 30 เท่า ภาพ"เชง หมิง ซ่าง เหอ ถู" ถือว่าเป็นโบราณวัตถุอันล้ำค่าของจีน ซึ่งแสดงให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ในเมืองหลวงสมัยราชวงศ์เป่ยซุ่งของจีน ส่วนภาพจำลองในหอจีนนี้นำเสนอโดยใช้นิวไฮเทค ในภาพนี้ มีน้ำไหล คนลงไปเดินในน้ำได้ ทำให้ผู้ชมเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยจริงๆ นับเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาของจีนโดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่

นอกจากนี้ ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ ยังมีการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง หอจีน และศูนย์วัฒนธรรมได้ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยพลังแสงอาทิตย์ขนาด 4.5 เมกะโวลต์ ซึ่งสามารถสนองความต้องการพลังงานโดยทั่วไป พร้อมทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆรวมถึง การทำความเย็นด้วยน้ำในแม่น้ำ และทำความร้อนด้วยความร้อนจากใต้พิภพ เป็นต้น

อันที่จริง เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่นำมาใช้ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้เท่านั้น หากยังได้ปรับใช้ในชีวิตจริงมาแล้ว ผลการสำรวจระบุว่า หลังจากอาคารในนครเซี่ยงไฮ้จำนวนหนึ่งได้ใช้พลังความร้อนจากใต้พิภพแล้ว การสิ้นเปลืองพลังงานลดลงปีละ 40%

สิ่งที่น่าชื่นชมอีกเรื่องหนึ่งคือ มีบริษัทเล็กแห่งหนึ่งบุกเบิกวิจัยเทคโนโลยีเกี่ยวกับถังชักโครกโดยเฉพาะ ซึ่งใช้น้ำเพียงขวดเดียวก็สามารถชักล้างได้สะอาด เทคโนโลยีดังกล่าวได้นำไปใช้ในหอสหประชาชาติแล้ว ในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้นำไปเผยแพร่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ก็จะเป็นคุณอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนา

ตัวอย่างเช่นนี้ยังมีอีกมากมาย เพราะว่า การประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ โลกทุกวันนี้ต้องอาศัยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง