ผู้สื่อข่าว: สวัสดีค่ะ ท่านผู้ชมคะ ในโอกาสครบรอบ 60 ปีภาคภาษาไทยวันที่ 10 เมษายนพุทธศักราช 2553 วันนี้ภาคภาษาไทยซีอาร์ไอได้รับเกียรติจากท่านหนึ่ง ซึ่งท่านปฏิบัติงานที่ภาคภาษาไทยซีอาร์ไอมาเป็นเวลานานทีเดียว และขณะนี้แม้ว่าจะอยู่ในช่วงวัยที่เกษียณพ้นจากภาระหน้าที่ไปแล้วกว่า 20 ปี แต่ก็ยังมีความผูกพันกับภาคภาษาไทยซีอาร์ไอ และประเทศไทยประเทศจีนเป็นอย่างมากทีเดียว ท่านผู้นี้ก็คือคุณสวู่ เหนิงเฟย สวัสดีค่ะคุณสวู่ เหนิงเฟย อยากจะขอความกรุณาให้เล่าถึงงานที่ทําที่ภาคภาษาไทยซีอาร์ไอในช่วงที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่นั่นค่ะ
สวู่ เหนิงเฟย: คือว่าผมเข้าทํางานภาคภาษาไทย พี่ชายผมแนะนําให้ผมเข้ามาทํางานในภาคภาษาไทย พี่ชายผมเป็นคนแรกที่มาทํางานภาคภาษาไทย ก่อนที่จะมา ผมอยู่โรงเรียนผู้ทํางานปฏิวัติ เพราะเข้าโรงเรียนก็นับว่าเข้าร่วมงานปฏิวัติ ผมเข้าโรงเรียนมาปักกิ่งก็มาเรียนหนังสือเมื่อเดือนพฤษภาคม ก็นับว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมผมเป็นผู้ทํางาน เป็นข้าราชการปฏิวัติ เพราะฉะนั้น ผมจึงได้มีเกียรติเป็น"หลีซิวกั้นปู้" เพราะก่อนที่รัฐบาลตั้งขึ้น ทางภาคภาษาไทยต้องการขยายคน เพราะตอนแรกมีพี่ชายผมกับเพื่อนของพี่ชายผม ซึ่งอยู่โรงเรียนส่งคนมาทํางานในภาคภาษาไทย 2 คน ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ปักกิ่ง ผมไปทํางานที่อื่น ผมไม่ได้เจอะหน้ากับพี่ชายผม เพราะว่าผมมาเข้าโรงเรียนนี้ ผมก็เขียนจดหมายไปบอกพี่ชายผม บอกว่ามาเรียนหนังสือที่ปักกิ่งได้ ไม่เสียตังค์ ให้เขามา พอผมกลับมา พี่ชายผมเข้าโรงเรียนแล้ว แล้วทางโรงเรียนจัดส่งพี่ชายผมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งมาทํางานภาคภาษาไทย แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้เจอกัน พอหลังปี 1954 ถึงแนะนําผมมาเข้าภาคภาษาไทย ตอนนั้นคนก็เพิ่มขึ้น แล้วเริ่มจากนี้ ผมทํางานมาเกือบ 30 ปี คือปี 1954 ถึงปี 1988 ถึงจะไปอเมริกา ที่ผมไปอเมริกาก็เพราะว่าภรรยาผม ญาติพี่น้องไปอยู่อเมริกาหมด เขาต้องการไปเยี่ยมแม่ แล้วก็พาลูกสาวกับลูกชายไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่อเมริกา
ผู้สื่อข่าว: ไปอยู่อเมริกาอีก 20 กว่าปีแล้วกลับมาอยู่ที่จีน
สวู่ เหนิงเฟย: ก็ตอนที่ผมไปอยู่อเมริกา 20 กว่าปี ระยะนี้ทางเมืองจีนเขาจ่ายเงินให้ผมทุกเดือน เพราะผมปลดเกษียณแล้วถึงจะไป เขาจ่ายเงินเกษียณให้ ภรรยาผมเสียผมก็มาเมืองจีน
ผู้สื่อข่าว: พูดถึงการทํางานที่ภาคภาษาไทยซีอาร์ไอสมัยก่อน กระบวนหรือวิธีการทํางาน อย่างเช่น เรื่องของการแปลข่าว การนําออกไปอ่านสดๆ เลย หรือบางครั้งเห็นว่ามีมากกว่านั้นใช่ไหมคะ อย่างเช่นมีงานด่วนขึ้นมา ขณะที่อาบนํ้าอยู่ก็ต้องรีบจัดการให้เสร็จ แล้วก็มาหยิบฉบับภาษาจีนพร้อมกับแปลเป็นภาษาไทยอัตโนมัติไปเลย มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นขอความกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
สวู่ เหนิงเฟย: คือว่าตอนนั้นคนมีไม่กี่คน แล้วทุกคนใจมุ่งอยู่กับงานทั้งนั้น เพราะว่าเมื่อทํางานตอนนั้น ไม่ไปคิดถึงเรื่องอื่น ไม่เที่ยว ไม่ไปไหน อยู่กับงานทั้งวัน ชีวิตในสมัยหนุ่มตอนนั้นก็ไว้กับงานทั้งหมด ไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆ งานถึงแม้ไม่หนัก แต่ว่างานยุ่ง ทุกอย่างต้องทําเอง แล้วก็ไม่มีคนสอน ไม่มีครู ไม่มีอาจารย์ จบ ม.6 ไตรมิตรก็มาทํางาน จากคนไทยเป็นคนจีน ผมกลับเมืองไทยผมเป็นคนไทยได้ เพราะผมมีญาติพี่น้องเป็นคนไทยหมด ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีไม่ลําบาก