ตอบ กวางเจาเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์จีน ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จีน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ การค้า ก็พบว่า การเปิดประตูของจีนไปสู่ต่างประเทศ กวางเจาก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2200 ปี เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเล เรื่องนี้ทำให้เมืองกวางเจา ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งมีความสำคัญ และมีเศรษฐกิจเติบโตมากตลอดมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของมณฑลกวางตุ้ง และนครกวางเจาก็คือการเปิดประเทศของจีนเมื่อ 30 ปีก่อน มณฑลกวางตุ้งก็เป็นที่หนึ่งซึ่งถ้าเราจำได้ การเปิดประเทศของจีนนอกจากเรื่องของการเปิดให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพต่างๆ มากขึ้น ในเรื่องของเศรษฐกิจก็มีการเปิดเสรีมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นสี่แห่งนั้นมีสามแห่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ก็คือ เซินเจิ้น จูไห่ และซัวเถา ปัจจุบันนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีการเติบโตอย่างมากมาย และแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายของจีนในเรื่องของการพัฒนาระบบสังคมนิยมในวิถีของจีน ถ้าเราได้ไปดูความสำเร็จในเขตพิเศษต่างๆ ก็จะเห็นว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้เป็นหัวจักรทางด้านเศรษฐกิจ ไม่เฉพาะแต่มณฑลกวางตุ่งเท่านั้น จะเป็นหัวจักรทางด้านเศรษฐกิจให้กับแผ่นดินจีนทั้งประเทศ นี่ก็เป็นความสำคัญของมณฑลกวางตุ้งในแง่ของเศรษฐกิจ และในบริบทของจีน
ทางด้านความสัมพันธ์กับประเทศไทย มณฑลกวางตุ้งมีความสำคัญมาก เพราะว่าเรามีการติดต่อค้าขายกันตลอด สิ่งที่มีความสำคัญมากกว่านั้นก็คือว่า คนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยมี 85% เป็นคนที่เดินทางไปจากมณฑลกวางตุ้งทั้งสิ้น คนเหล่านี้ก็ได้ไปตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ได้สืนสานเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ไทย–จีนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และเป็นตัวจักรขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย–จีนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย ผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญ และเป็นตัวบ่งบอกถึงความสำคัญของมณฑลกวางตุ้งทั้งในบริบทของการพัฒนาของจีน และในบริบทของความสัมพันธ์ไทย–จีน
ถาม ขอให้เปรียบเทียบไทย–กวางตุ้ง
ตอบ ถ้าให้เปรียบเทียบ ผมต้องเรียนตรงๆ ว่าเปรียบเทียบได้ยาก เพราะมณฑลกวางตุ้ง นครกวางเจาเป็นมณฑล และเมืองที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน แตกต่างกับหลายๆ มณฑลในแผ่นดินจีน ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือจะเห็นว่า คนในมณฑลแห่งนี้ส่วนใหญ่ก็ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง หลายๆ วัฒนธรรมของคนในมณฑลกวางตุ้งก็ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีภาษา วัฒนธรรม และศิลปะเป็นของตัวเอง ที่แตกต่างไปอย่างเห็นได้ชัดผมคิดว่าเทียบกับเมืองต่างๆ ในเมืองไทยได้ยาก เพราะว่ามณฑลกวางตุ้งมีขนาดเป็น 3 ใน 4 ของประเทศไทย แต่ประชากรตั้งร้อยล้าน นครกวางเจาชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นเมืองที่กว้างใหญ่มาก ถ้าเปรียบเทียบนครกวางโจวกับเมืองใดๆ ในประเทศไทยผมคิดว่ายาก แต่ว่าถ้าจะเปรียบเทียบคนในมณฑลกวางตุ้งกับคนไทย ผมคิดว่าเรามีความเหมือนกันหลายๆ อย่าง วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และพื้นฐานทางด้านความคิด ของเหล่านี้มีความเหมือนกัน ในแง่ภูมิประเทศ นครกวางโจวคล้ายๆ กับจังหวัดเชียงใหม่ ท่านจะเห็นว่าในนครกวางเจามีภูเขาใหญ่เขียวชอุ่มอยู่กลางนครอยู่ลูกหนึ่ง เป็นภูเขาที่ให้ทั้งบรรยากาศ และให้อากาศบริสุทธิ์ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ขณะที่รอบๆ ภูเขาตอนนี้มีการพัฒนามากมาย มีเมืองใหม่ๆ ศูนย์การค้า และแหล่งธุรกิจต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้น ถ้าให้เปรียบเทียบกันจริงๆ คงต้องเรียนว่าเปรียบเทียบยาก แต่ถ้าจะมองข้อความคล้ายก็ยังมีอยู่