มุมมองของคุณณัฐพร ทองนุ่ม (นัท)
หากจะเปรียบว่า เมืองเซิ่นเจิ้น คือ ชายหนุ่มรูปงามที่เร่าร้อน
เมืองจูไห่ คงเปรียบเหมือน "หญิงสาว ผู้อ่อนหวาน และเรียบร้อย".....
คำกล่าวที่คงไม่ผิดนักค่ะ สำหรับดิฉันเมื่ออยู่ในเมืองจู่ไห่ เพราะความรู้สึกของสองเมืองนี้ต่างกันจริงๆ.....
ถ้าจะบอกว่า การมาเยือนกวางตุ้งครั้งนี้ และเปรียบกันตั้งแต่กวางโจว เซิ่นเจิ้น และจูไห่... เมืองที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดคงต้องยกให้เมืองจูไห่ เพราะเป็นเมืองที่ถือว่าอนุรักษ์ธรรมชาติและโอบอุ้มด้วยความสวยงามแห่งท้องทะเล....
จูไห่คือเมืองเล็กๆ ที่ประกอบไปด้วยประชากรเพียงแค่หนึ่งล้านห้าแสนคน และเมืองเล็กๆ แห่งนี้ก็มีเสน่ห์ตรงที่ ความเป็นมืองที่มีทิวทัศน์ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและติดชายทะเล จึงทำให้จูไห่เป็นเมืองที่น่าอยู่ ซึ่งต่างจากเซินเจิ้นที่เป็นเมืองที่ออกแนวไฮเทค และย่านธุรกิจ ....ที่เต็มไปด้วยผู้คน....
สิ่งที่ทำให้ดิฉันเห็นอย่างหนึ่ง.....ภายใต้ดินแดนแห่งความอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ควบคู่ไปนั้น กลับมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาในการพัฒนา อาทิ ศูนย์ผลิตภาพยนตร์ 3D หรือแม้แต่โครงการพัฒนาเมืองจูไห่ ให้เป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจและการค้าที่ยังคงคอนเซปต์ของความอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างลงตัว.....
คงต้องยกนิ้วให้กับสาวงามแห่งลุ่มน้ำทะเลที่เรียบร้อยและสวยงาม .....หากแต่ทว่า เธอจะเติมสีสันแห่งชีวิตให้พัฒนาตัวเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง.....และคงไม่ผิด..ถ้าจะเปรียบเมืองจูไห่ คือหญิงสาวผู้อ่อนหวานและเรียบร้อย เหมือนดั่งสภาวะที่เมืองจูไห่เป็นจริงๆ ค่ะ.......
หากมีโอกาสมาเที่ยวกวางตุ้ง ก็จะขอมาเยือนเมือง "จูไห่" อีกครั้ง อยากจะมาลองเที่ยวน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเยือนเมืองร้อยเกาะ .......(ซึ่งมาคราวนี้ยังไม่ได้ไปเพราะเวลามีน้อย).......
อ้อ...แต่สิ่งที่ชอบสุดๆๆ ในด้านเทคโนโลยีจากสาวน้อยผู้อ่อนหวานนี้ และเป็นสิ่งที่อยากให้เมืองไทยนำไปใช้ รวมถึงตัวเองด้วย ก็คือ การ Present ภาพด้วยระบบไฮเทค ดิจิตอล 3D ที่น่าทึ่งมากทีเดียว....
เพราะฉะนั้นนอกจากได้ธรรมชาติ ในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หินแปลกๆ สวยๆ แล้วยังได้ความรู้ว่า การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคนิคในการ Present นับว่าเยี่ยมจริงๆ ค่ะ......
ไว้พบกันพรุ่งนี้ค่ะ......กับเมืองจงซาน.................
