มุมมองของคุณนิพิฐพนธ์ พงศ์ภมร (เบินนี่)
สู่เมืองจงซาน
วันที่เจ็ดของการเข้ามาเจาะข่าวกวางตุ้ง ถือว่าเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการมาทำของที่แดนมังกร เจ็ดวันที่ผ่านมา เราเดินทางมากกว่าหนึ่งพันสามร้อยกิโล เยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ กว่ายี่สิบแห่ง มีการสัมภาษณ์ระดับผู้บริหารขององค์กรต่างๆ มากมายหลายท่าน ก็เรียกได้ว่า ดักดวงความรู้มาได้มากมายพอสมควร อย่างการมาเมืองจงซาน เราเดินทางไปที่ตำบลเสี่ยวลาน ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมบริษัทหัวตี้ ทำให้ได้ทราบว่าบริษัทนี้อยู่เบื้องหลังเปลวเพลิงการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งเมื่อปีสองพันแปด นอกจากนี้ ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคบเพลิงเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่สิบหกที่กว้างตุ้งด้วย จากบริษัทหัวตี้ เราเดินทางเข้าตำบลตงเฟิง เข้าชมบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในครัวเรือน บริษัทแรกที่เราไปก็คือบริษัทเหม่ยตี้ และบริษัทแม่เซอเท่อ จากการเยี่ยมชมบริษัทต่างๆ ในตงเฟิง ทำให้รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศของจีนไม่ได้ทำแต่เรื่องราวของตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทางเท่านั้น แต่จีนวันนี้ลงลึกไปถึงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย สินค้าแต่ละอย่างที่จีนผลิตขึ้น ผลิตด้วยคุณภาพ ผลิตด้วยมันสมองของจีนเอง มีสินค้าหลายชนิดส่งออกไปต่างประเทศ นับล้านๆ ชิ้น ได้ครองเจ้าตลาดสินค้าหลายตัว แต่เป็นเพราะจีนขาดการโปรโมทตัวเอง ทำให้เกิดช่องว่าง มีการนำเสนอเรื่องเล่าของจีนตามอินเตอร์เน็ตในแง่ลบ ทั้งภาพและเรื่องราว ส่วนหนึ่งของจีนถูกเผยแพร่ว่า จีนคือนักก็อบปี้สินค้าตัวยง ใครที่ไม่รู้ความจริงก็เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ถ้าใครได้มีโอกาสเข้ามารับรู้ก้าวเดินทางเทคโนโลยีของจีนจะรู้ว่า จีนไม่ใช่นักก็อบปี้อย่างที่เขาว่า จับตาดู เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในสิบปีนี้ จีนจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะจีนมุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพสู่ตลาด ต่อไปสินค้าจากจีนจะเป็นตัวเลือกให้กับผู้ซื้อ
ฝากให้จีนเร่งลูกคืบทางด้านข่าวสาร บอกให้โลกรู้ว่า จีนกำลังทำอะไร