วันที่ 21 กันยายน 2553
พี่น้องสื่อมวลชนจีนทุกท่าน สวัสดีค่ะคุณลู่ พี่น้องสื่อจีนทุกท่าน ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ตลอด 9 วันที่เราอยู่ที่นี่่ ขอบคุณผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอทุกท่านที่เหน็ดเหนื่อยกับพวกเรา และต้อนรับเป็นอย่างดี รู้สึกประทับใจมาก ตื่นเช้านอนดึกกว่าพวกเรา พวกเราประทับใจจริงๆ พวกเราอยากขอบคุณผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ พวกเราปรบมือสักครั้ง ที่พูดไม่ค่อยเก่งเพราะว่าถูกแย่งพูดหมด ผู้สื่อข่าวไทยทุกคนพูดเก่งมาก ตลอด 9 วันเห็นสิ่งดีๆ หลายสิ่ง มีคุณค่ามาก มีมิตรภาพระหว่างเพื่อนผู้สื่อข่าวด้วยกัน ได้ยินเสียงผู้สื่อข่าวไทยบอกว่า หลายคนไม่เข้่าใจในเรื่องของการสื่อสารการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และข่าวบางอย่างออกไปในด้านที่ผู้สื่อข่าวไทยเองก็ไม่เข้าใจ แต่ดิฉันในฐานะที่เคยเดินทางมาประเทศจีนประมาณ 3 ครั้งแล้วทราบว่า ที่จีนมีความรุ่งเรือง แล้วก็เป็นที่น่าสนใจมากสําหรับนักลงทุนนักท่องเที่ยวคนไทย ในฐานะผู้สื่อข่าวท่องเที่ยว ดิฉันทํารายการท่องเที่ยวตามตะวันและรายการสาระดีเพื่อสุขภาพ ได้พูดคุยกับนักธุรกิจในเมืองไทยเยอะมาก นักธุรกิจเมืองไทยสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศจีนแต่ว่าเราไม่เข้าใจเรื่องของการสื่อสาร เรื่องของเอกสาร เรื่องของการลงทุน อย่างเช่นธุรกิจในด้านร้านอาหารของไทย อย่างที่มาที่นี่ เราก็เห็นร้านอาหารไทยในห้างสรรพสินค้า เป็นร้านอาหารไทยที่ตกแต่งอย่างสวยงามประทับใจ ต้องบอกว่าประทับใจจริงๆ แต่ว่าเจ้าของร้านกลับเป็นชาวเอยรมัน ก็มีคําถามเกิดขึ้นว่า เพราะเหตุใดรายได้ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเป็นเม็ดเงินมากมาย ในเรื่องของรายได้เข้าในร้าน ถ้าเป็นคนไทยเราจะดีใจมากเลย นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากจะให้นํากลับบ้านไปเผยแพร่ ให้คนไทยได้รู้จักแล้วศึกษาเกี่ยวกับเรื่องช่องทางต่างๆ การทําธุรกิจการทําร้านอาหารในประเทศจีนตามมณฑลต่างๆ แม้กระทั่งเรื่องของจูไห่ น่าสนใจมาก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะว่าดูยังใหม่อยู่ ดิฉันคิดว่ากลับไปเมืองไทยอยากนําสิ่งนี้ไปเผยแพร่ แล้วก็สิ่งที่เห็นคือ พวกเราประทับใจในประเทศจีนในความรุ่งเรืองในการเป็นประเทศที่ก้าวหน้า เป็นเมืองพิเศษตลอด 30 ปีที่ผ่านมานั้น ประเทศจีนเจริญก้าวหน้าไปมาก ซึ่งนักธุรกิจไทยเองก็สนใจ แต่ว่าเราไม่ทราบช่องทางว่า ถ้าเรามาแล้ว จะเจอะปัญหาอะไรบ้าง ทําให้นักธุรกิจไทยไม่ค่อยกล้าเสี่ยง แต่ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่พี่น้องผู้สื่อข่าวไทยที่มีความคิดริเริ่ม ประกอบได้มาคุยกับคุณลู่ว่าเราอยากเปิดสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน แต่นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกนะคะ ในฐานะที่เป็นผู้สื่อข่าวท่องเที่ยว เราได้พูดกับนักข่าวเมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว แต่เหมือนกันว่าเรายังไม่เจอะช่องทาง ไม่พบคําตอบ แต่ว่าเมื่อเราได้มา นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สื่อไทยและสื่อจีนได้มีโอกาสได้พบกันตลอด 9 วัน แล้วสามารถเปิดใจพูดถึงว่าเราอยากได้ช่องทางนี้ ซึ่งไปเผยแพร่ในเมืองไทย แล้วให้คนไทยได้รู้จักวัฒนธรรมจีน อุปนิสัย การค้าธุรกิจ ซึ่งเท่าที่มา 9 วัน เราเห็นว่าผู้นํารัฐบาลจีนเองก็อยากทําธุรกิจกับคนไทย เพราะว่าจริงๆ คนจีนกับคนไทยเป็นพี่น้องกันตั้งแต่เดิมมา เพื่อนต่างประเทศของดิฉันที่สนิทกันก็คือคนไทย เป็นเพื่อนข้างบ้านเรานี่เอง เหมือนกับว่าไทย-จีนจริงๆ เป็นพี่น้องกัน ถ้าหากว่าเมืองไทยได้่มาทําธุรกิจที่เมืองจีน ดิฉินคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก อยากจะฝากผู้สื่อข่าวทางจีนเหมือนกันว่า ถ้าหากโอกาสต่อไปว่าท่านมีคิดแบบนี้ที่จะเชิญผู้สื่อข่าวไทยมาทําข่าวและนําไปเผยแพร่ น่าจะเป็นโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนได้ดีมากขึ้นในความเข้าใจในธุรกิจการค้าหรือภาคอุตสาหกรรม ดิฉันคิดอย่างนั้นนะคะ แค่เราได้มา 9 วัน เราเข้าใจอะไรเยอะมากขึ้น แล้วก็ได้มองถึงภาพของการทําธุรกิจการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน แล้วเห็นช่องทางอีกเยอะ ในด้านการท่องเที่ยวที่จูไห่ ทางท่านผู้นําได้บอกว่า ที่นี่อ่อนเรื่องของการท่องเที่ยว ที่นี่มีจุดแข็งหลายอย่างด้านอุตสหกรรม ซึ่งน่าจะเป็นจุดแลกเปลี่ยนที่ดีของจีนกับไทย ดิฉันจึงเห็นสมควรอย่างยิ่งที่การมาครั้งนี้เ็ป็นโอกาสที่ดีระหว่างไทยจีนและระหว่างเราผู้สื่อข่าวด้วยกันที่จะเปิดสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนหรือผู้สื่อข่าวจีน-ไทย เป็นคนหนึ่งที่จะบอกว่ายินดีให้ความสนับสนุนในทุกด้านถ้าท่านต้องการ เรื่องนี้อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้การต้อนรับ เห็นถึงการต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทางรัฐบาล ทางสํานักงานสารนิเทศ ให้การสนใจเอาใจใส่ดูแลตลอด ทุกวันที่มาที่นี่ เรารู้สึกประทับใจ จริงๆ อยากจะเป็นตัวแทนบอกกับท่านผู้นําคุณลู่ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า พวกเราประทับใจจริงๆ และที่นี่มีคุณค่ามากสําหรับเรา เราจะนําทุกสิ่งที่เราได้เห็นไปเผยแพร่ในแง่มุมต่างๆ เพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน ขอบคุณมากค่ะ