ด้วยการบินเป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ ผมได้เดินทางมาถึงสนามบินเสียนหยัง咸阳ของเมืองซีอันแล้ว เมืองซีอันเป็นเมืองสำคัญในทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลส่านซี สมัยโบราณเมืองนี้มีชื่อว่า "ฉางอัน" เคยเป็นราชธานีของ 13 ราชวงศ์ในสมัยโบราณของจีน เริ่มสร้างก่อนคริสต์ศักราช 1,200 กระทั่งถึงปัจจุบัน มีประวัติศาสตร์มาเป็นเวลากว่า 3,000 ปีแล้ว เช่น สมัยราชวงค์โจว ฉิน ฮั่น ถัง ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่เจริญที่สุดของโลกเมื่อสมัยนั้น ล้วนตั้งเมืองหลวงอยู่ที่นี่ครับ จึงกล่าวได้ว่า เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและโบราณสถาน และมีเรื่องเล่าขานกันว่า หากเดินไม่ระมัดระวัง ก็อาจสะดุดเข้ากับอิฐของสมัยราชวงศ์ฉินหรือกระเบื้องสมัยราชวงศ์ฮั่นเอาก็ได้ ด้วยเหตุนี้ เมืองซีอันจึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ฮิตมาก

งานมหกรรมพืชสวนโลก 2011 ครั้งนี้จัดขึ้นที่เขตฉั่นป้าในทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซีอัน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 28 เมษายนจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม ออกแบบการจัดแสดงภายใต้แนวคิดว่า "Eternal peace & harmony between natures & mankind, nurturing the future earth" มีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของนครซีอันที่ผู้คนมีวิถีชีวิตอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งแสดงกรอบความคิดและมโนคติใหม่แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์ เมือง และธรรมชาติ

ภายในงานมหกรรมพืชสวนโลกซีอันครั้งนี้มีหน่วยงานจากเมืองและองค์กรต่าง ๆ จากในจีนและต่างประเทศรวมกว่า 100 ราย รวมทั้งหน่วยงานจากจีน 40 กว่าหน่วยงาน จากต่างประเทศกว่า 30 หน่วยงาน ตลอดจนหน่วยงานหน่วยงานพืชสวนของโลกกว่า 30 แห่งได้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการบนพื้นที่กว่า 418 เฮกตาร์หรือราว 2,600 ไร่ ในจำนวนนี้ มีพื้นที่เป็นน้ำกว่า 188 เฮกตาร์ ราว 1,200 ไร่ และมีส่วนของประเทศไทย คาดว่า ในช่วง 178 วันของงานนี้ จะรับนักท่องเที่ยวกว่า 12 ล้านคน ถึงวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเปิดสวนมาเพียง 22 วัน ได้มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวสวนของงานมหกรรมพืชสวนโลกเป็นจำนวน 1,711,700 คนแล้ว

(คุณหวัง เซี่ยงหวา ผู้ช่วยผู้อำนวยการของหน่วยผู้เข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก)

เราตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยว 12 ล้านคน ปัจจุบัน ผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวในสวนมีจำนวน 7-8 หมื่นคนทุกวัน ที่เห็นเด่นชัดคือ ช่วงหยุดสัปดาห์มีคนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเสาร์ อย่างเช่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้สร้างสถิติสูงสุด ถึง 139,000 คน

ศาลาและอาคารสำคัญๆ ต่างๆ ในงานมหกรรมพืชสวนโลกครั้งนี้ล้วนสร้างขึ้นตามเกาะและพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ เจดีย์ฉางอัน ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญที่สุดในงานพืชสวนโลกครั้งนี้ สร้างอยู่เขตพื้นที่สูงสุดของสวนนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นสู่ชั้นสูงสุดของเจดีย์ และชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทั้งงานมหกรรมพืชสวนโลกปี 2011 ได้อย่างเต็มตา

การออกแบบของเจดีย์ฉางอันได้ยืมเอาเอกลักษณ์อาคารสี่เหลี่ยมของสมัยราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถังของจีนมาผสมผสาน ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มปัจจัยความทันสมัยของจีนเข้าไปด้วย เป็นสิ่งก่อสร้างที่รวบรวมเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นการบูรณาการระหว่างธรรมชาติกับศิลปะของสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง เจดีย์ฉางอันสูง 95 เมตร มีทั้งหมด 14 ชั้น เหนือพื้นดินมี 13 ชั้น และอยู่ใต้ดินหนึ่งชั้น โครงสร้างหลักเป็นเหล็ก กรุด้วยกระจกที่มีความปลอดภัย มองดูเหมือนเจดีย์แก้ว ทั้งสวยงามและป้องกันแผ่นดินไหวร้ายแรงได้ ปัจจุบัน ในเจดีย์ฉางอันกำลังจัดแสดงหุ่นทหารและม้าของสมัยราชวงศ์ฉินและการแสดงศิลปะเครื่องเคลือบสมัยใหม่และการแสดงการแกะสลักทองเป็นต้น น่าชมมาก

The Theme Pavilion หรือหอประดิษฐ์คิคค้นเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญอีกแห่งหนึ่งในสวน ตั้งอยู่อีกฝั่งตรงกันข้ามเจดีย์ฉางอัน เป็นสิ่งก่อสร้างที่ออกแบบด้วยการเล่นระดับพื้นที่อาคาร พื้นที่ภายในแสดงผลสำเร็จล่าสุดด้านการเพาะปลูก เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

(คุณหวัง เซี่ยงหวา ผู้ช่วยผู้อำนวยการของหน่วยผู้เข้าร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก)

ศาลาของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่อยู่เขตที่สองของสวน เช่น สวนศรีลังกา สวนไทย และสวนญี่ปุ่น เป็นต้น โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นมีสวนของตนถึง 3 แห่ง ได้แก่สวนของเมืองนาระ สวนโยโกฮามา และสวนฮอกไกโด เพราะว่า ญี่ปุ่นมีเมืองพี่เมืองน้องกับซีอานหลายแห่ง นอกจากนั้น ญี่ปุ่นก็มีการจัดสวนระดับโลกด้วย

เขตสวนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จริงๆ แล้วเป็นพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวที่สำคัญ เพราะเป็นเขตที่ตั้งของศูนย์อาหาร และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สิ่งก่อสร้างสำคัญในเขตนี้ออกแบบให้มีลักษณะของสถาปัตยกรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาคารต่างๆ รายรอบด้วยน้ำ จึงเป็นเขตที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด

สำหรับสวนไทย ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างสองแห่ง

(คุณ Stephen Choong ผู้ออกแบบ รองประธานของ Chie Chou International Co.LTD แนะนำว่า)

เพื่อเสริมบรรยากาศ แต่ละศาลาในงานมหกรรมพืชสวนโลกยังจัดกิจกรรมสัปดาห์ของตนด้วย

ค่ำคืนค่อยๆ ครอบคลุมสู่งานมหกรรมพืชสวนโลก แสงไฟค่อยๆ สว่างไสว ทำให้งานมหกรรมที่เต็มไปด้วยความคึกคักในกลางวันนั้นค่อยๆ สงบลง แต่แสงไฟหลากสีนานา กลับทำให้ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งราตรี และทำให้เมืองโบราณซีอันปรากฎโฉมหน้าใหม่ใหม่ที่แสนประทับใจ