ปัญหาการใช้สารกระตุ้นเป็นการท้าทายอย่างยิ่งต่อวงการกีฬาโลก การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นเป็นประเด็นสำคัญมากของโอลิมปิกเกมส์ทุกครั้งที่ผ่านมา ตั้งแต่มีปัญหานี้ หน่วยงานบริหารการกีฬาของจีนก็แสดงท่าทีและจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการใช้สารกระตุ้น เมื่อปี 1989 ก็ได้ประกาศมาตรการ 3 ประการต่อปัญหาสารกรพตุ้นคือ ห้ามใช้โดยเด็ดขาด ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและลงโทษอย่างเข้มงวด เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายจ้าวเจี้ยน รองหัวหน้าฝ่ายตรวจสารกระตุ้น คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติจีนครั้งที่ 11 กล่าวว่า
"ตั้งแต่จีนเริ่มพบปัญหาการใช้สารกระตุ้นของนักกีฬา หน่วยงานบริหารการกีฬาจีน ไม่ว่าคณะกรรมการการกีฬาแห่งชาติของเวลานั้น หรือสำนักงานการกีฬาแห่งชาติในปัจจุบัน ล้วนมีมาตรการ 3 ประการต่อปัญหานี้ คือ ห้ามใช้โดยเด็ดขาด ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและลงโทษอย่างเข้มงวด ภายใต้ข้อบังคับของมาตรการดังกล่าว ปีหลัง ๆ นี้ การต่อต้านสารกระตุ้นคืบหน้าไปอย่างมาก และได้กำหนดระเบียบและกฎหมายจำนวนหนึ่งขึ้นมา เมื่อปี 2004 คณะรัฐมนตรีจีนยังได้ประกาศ กฎระเบียบว่าด้วยสารกระตุ้นด้วย "
นายฮวน อันโตนิโอ ซามารานซ์ ประธานกิติมศักดิ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเคยกล่าวว่า การใช้สารกระตุ้นเป็นการหลอกลวง และเป็นการเดินสู่ความตาย ทำให้เสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนคุณธรรมของมนุษย์ คำพูดดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความเสียหายอันร้ายแรงของการใช้สารกระตุ้น นายจ้าวเจี้ยนกล่าวว่า
"งานกีฬาแห่งชาติจีนเป็นการแข่งขันกีฬาระดับสูงที่สุดของจีน การต่อต้านสารกระตุ้นเป็นส่วนสำคัญมากในการประกันให้การแข่งขันดำเนินไปด้วยความเที่ยงธรรม ยุติธรรม และมีความใสสะอาด จนประสบความสำเร็จในที่สุด "
นายจ้าวเจี้ยนเผยว่า ฝ่ายจัดงานกีฬาครั้งนี้ได้ทุ่มกำลังอย่างมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนในด้านการตรวจการใช้สารกระตุ้น งานกีฬาแห่งชาติครั้งที่แล้วได้ตรวจตัวอย่าง 1,770 ราย แต่ครั้งนี้จะรอบคอบมากกว่าครั้งที่แล้วมาอย่างมาก เขากล่าวว่า
"ระหว่างการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ เราได้วางแผนจะตรวจสอบตัวอย่าง 2,300 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงานกีฬาแห่งชาติครั้งที่แล้ว ในจำนวนนี้รวมถึงตัวอย่างปัสสาวะ 2,081 ราย และตัวอย่างโลหิตกว่า 200 ราย นอกจากนี้ งานกีฬาแห่งชาติมีรายการแข่งม้า จึงต้องมีการตรวจสารกระตุ้นในม้าด้วย"
เทียบกับงานกีฬาแห่งชาติทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ถือได้ว่ามีการตรวจสารกระตุ้นอย่างรอบคอบที่สุด นอกจากมีการสุ่มตัวอย่างตรวจสารกระตุ้นทุกเมื่อตามสถานที่แข่งขันต่างๆ แล้ว ยังได้จัดตั้งศูนย์ตรวจสารกระตุ้นตามหมู่บ้านนักกีฬาด้วย
การแข่งขันปั่นจักรยานและการแข่งขันว่ายน้ำเป็นรายการแข่งขันที่เกิดปัญหาการใช้สารกระตุ้นมากที่สุด สำหรับการนี้ สมาคมกีฬาปั่นจักรยานและสมาคมกีฬาว่ายน้ำจะใช้มาตรการต่อต้านสารกระตุ้นที่เข้มงวดยิ่งขึ้น อาทิ ถ้านักกีฬาคนใดคนหนึ่งถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้น นอกจากนักกีฬาคนนี้จะถูกลงโทษแล้ว โค้ชและคณะผู้แทนของนักกีฬาคนนี้ก็จะถูกลงโทษในระดับต่างกันด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ นายเซียวเทียนรองผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งชาติจีนแถลงว่า ระเบียบวินัยในการแข่งขันและการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการประกันให้งานกีฬาดำเนินไปอย่าราบรื่น เขากล่าวว่า
"ทางคณะกรรมการจัดงานกีฬาครั้งนี้จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวินัยและตรวจสารกระตุ้นไปในทุกๆ สนามแข่งขัน ไม่ว่านักกีฬาคนใดก็ตาม ถ้าเกิดปัญหาขึ้น เราก็จะตรวจสอบอย่างเอาจริงเอาจัง ถ้ามีหลักฐานแน่นอน ก็จะลงโทษตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด"
(Pan/Lin)
