เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสิงคโปร์ประกาศว่า นักกีฬาสโมสรฟุตบอลเหลียวหนิงจีน 7 คนที่ถูกจ้างไปเล่นในลีกฟุตบอลสิงคโปร์ ถูกฟ้องว่ามีพฤติกรรมล้มบอลในการแข่งขันฟุตบอลลีกสิงคโปร์ ครึ่งปีให้หลัง ตำรวตจณฑลเหลียวหนิงได้จับกุมนายหวางซินผู้จัดการสโมสรฟุตบอลเหลียวหนิง ต่อจากนั้น วงการฟุตบอลจีนเริ่มกระบวนการต่อต้านการพนันบอล บุคคลชื่อดังในแวดวงฟุตบอลจีนหลายคนถูกตำรวจนำตัวไปสอบสวน
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2009 นายหนันหย่งอุปนายกสมาคมฟุตบอลจีนยังได้กล่าวคำปราศรัยทางโทรทัศน์ต่อผู้ชมทั่วประเทศว่า
"หลายปีมานี้ เราได้ใช้ความพยายามและคิดวิธีเพื่อต่อต้านการพนันบอลและพฤติกรรมล้มบอล แต่เราเห็นว่า สมาคมฟุตบอลจีนยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้โดยลำพังฝ่ายเดียว ต้องให้กระทรวงยุติธรรม ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย "
สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือ อีก 2 เดือนให้หลัง นายหนันหย่ง นายหยางอีหมินที่เป็นอุปนายกสมาคมฟุตบอลจีนและนายจางเจี้ยนเฉียงอดีตประธานคณะกรรมการตัดสินก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีด้วย
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า วันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจทีมเฉพาะกิจมณฑลเหลียวหนิงได้นำตัวทั้งสามคนจากสำนักงานการกีฬาแห่งชาติจีนในกรุงปักกิ่ง ไปสอบสวนที่เมืองเสิ่นหยางมณฑลเหลียวหนิง ห้องทำงานของ 3 คนดังกล่าวถูกตรวจค้นและอายัด นายเลี่ยวอี้ ทนายความคนหนึ่งของกรุงปักกิ่งกล่าว่า
"การตรวจค้นและอายัดสิ่งของในห้องทำงานของคนใดคนหนึ่ง หมายถึงผู้ใช้ห้องนี้เป็นผู้ต้องสงสัย ตามกฎหมายต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเขา "
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2009 เป็นต้นมา หน่วยงานสันติบาลจีนเริ่มกระบวนการปราบปรามการพนันบอลและพฤติกรรมล้มบอลในการแข่งขันฟุตบอลลีกจีน และลงลึกยิ่งขึ้น เริ่มจากเปิดโปงการล้มบอลในการแข่งขันของสโมสรฟุตบอลกว่างโจว สโมสรฟุตบอลซานซี สโมสรฟุตบอลชิงเต่าและสโมสรฟุตบอลเสฉวนเป็นต้น และค่อย ๆ เจาะลึกเข้าถึงกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของวงการฟุตบอลจีน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของหน่วยงานสันติบาลจีนในด้านการปราบปรามพฤติกรรมอันมิชอบด้วยกฎหมายในวงการฟุตบอล แฟนบอลจีนแสดงความสนใจอย่างมากและการสนับสนุนต่อการนี้ นายฝู้เฉียงแฟนบอลคนหนึ่งกล่าวว่า
"เราแฟนบอลจีนรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง เพราะคิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสมาคมฟุตบอลจีนก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เรารู้สึกว่า คราวนี้หน่วยงานของตำรวจได้ทุ่มกำลังสอบสวนสืบสวนอย่าเอาจริงเอาจัง ถ้าสามารถแก้ไขได้ ฟุตบอลจีนก็ยังมีหวังในอนาคต"
(Yin/Lin)