เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น ตั้งแต่ปี 1998 ทางการกว่างโจวเริ่มดำเนิน "โครงการฟ้าใส" บำบัดต้นกำเนิดที่ก่อมลพิษทางอากาศ ทำให้อากาศของเมืองนี้สดชื่นยิ่งขึ้น
หลังจากจีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกแล้ว เมืองกว่างโจวที่เป็นเมืองหลักทางภาคใต้ของจีนก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับเมืองสำคัญอื่น ๆ ทั่วประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจเจริญขึ้น แต่ก็มีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นตามมาด้วย อาทิ จำนวนประชากรและรถยนต์รถโดยสารเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก จำนวนร้านอาหารและภัตตาคารก็เพิ่มมากขึ้นเป็น 10 เท่าตัว ทั้งมีโครงการรื้อบ้านเก่าแก่เพื่อสร้างบ้านพักใหม่ ทำให้ท้องฟ้าของเมืองนี้ปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองสีเทาเกือบตลอดเวลาส ฝุ่นละอองทำให้อากาศหมองมัวไม่สดใส และสามารถปะปนเข้าในระบบหายใจของผู้คน จนทำลายสุขภาพของร่างกาย
เพื่อให้ชาวเมืองสามารถเห็นท้องฟ้าสีครามกระจ่างชัดขึ้น ตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา ทางการกว่างโจวเริ่มดำเนิน "โครงการฟ้าใส" สถิติจากกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมืองกว่างโจวปรากฏว่า ปี 2008 คุณภาพของอากาศกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีเกี่ยวกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โซเดียมไดออกไซด์ และฝุ่นละอองล้วนต่ำลงจนเข้าขั้นมาตรฐานด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับชาติ ทำให้คุณภาพอากาศของเมืองกว่างโจวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างปี 2005 – 2008 จำนวนวันฟ้าใสของเมืองกว่างโจวมีสูงกว่า 91%
เมื่อปี 2004 เมืองกว่างโจวยื่นขอเป็นเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 16 ด้วยผลสำเร็จ ตั้งแต่นั้นมา กรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมืองกว่างโจวเริ่มดำเนินงานบำบัดมลพิษทางอากาศโดยแบ่งเป็น 8 ขั้นตอน ขณะนี้ดำเนินไปจนถึงขั้นตนอนที่ 5 แล้ว ซึ่งงานบำบััดมลพิษทางอากาศจะเน้นการลดควันเสียของรถยนต์ และควันเสียจากโรงงาน ตลอดจนควันน้ำมันจากห้องครัวของร้านอาหารและภัตตาคารเป็นต้น นายเฝิงปิน กรรมการของกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกว่างโจวกล่าวว่า
"เมื่อปี 2004 สารโซเดียมไดออกไซด์เป็นดัชนีสำคัญด้านมลพิษทางอากาศในยเวลานั้น ดัชนีสารโซเดียมไดออกไซด์ในชั้นอากาศของเมืองกว่างโจวเกินกว่ามาตรฐานที่รัฐบาลกลางกำหนดไว้ เราจึงเสนอและดำเนินโครงการลดสารโซเดียมไดออกไซด์ จนถึงปัจจุบัน โรงงานอุตสาหกรรมและวิสาหกิจการผลิตที่สำคัญในเมืองล้วนได้ติดตั้งอุปกรณ์ลดสารโซเดียมไดออกไซด์ ทำให้ปริมาณการปล่อยสารพิษชนิดนี้ลดน้อยลงจาก 185,000 ตันในปี 2004 มาเป็น99,000 ตันในปี 2008"
สถิติที่เกี่ยวข้องปรากฏว่า ควันเสียจากรถยนต์ก่อให้เกิดมลพิษกว่า 40% ในชั้นอากาศของเมืองกว่างโจว ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา เมืองกว่างโจวห้ามใช้รถจักรยานยนต์ในเขตเมือง และทำอย่างจริงจัง ทำให้ทุกวันนี้เกือบไม่มีเห็นในเมืองจริง ๆ และตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป รถยนต์ท้องถิ่นต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพว่าเป็นรถที่ีได้มาตรฐานด้านการอนุกรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงจะสามารถออกวิ่งบนถนนได้ และจำกัดเส้นทางการวิ่งของรถที่ปล่อยควันเสียมาก
ปัจจุบัน การควบคุมและบำบัดมลพิษจากรถยนต์ของกว่างโจวประสบผลอย่างเห็นได้ชัด และจัดอยู่อันดับต้นๆ ของประเทศจีน รถยนต์ทุกๆ คันจะติดป้ายสัญลักษณ์ที่แสดงว่าได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ปั๊มน้ำมันกว่า 500 แห่งทั่วเมืองใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐานสากล โดยงานในขั้นต่อไปคือจะบำบัดต้นกำเนิดของมลพิษ และจะออกนโยบายให้เลิกใช้รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษมาก คาดว่าปีนี้และปีหน้า เมืองกว่างโจวจะลงทุน 2,400 ล้านหยวนในการบำบัดมลพิษในอากาศ นายจางเซิงเจี้ยนหัวหน้ากองประกันคุณภาพอากาศคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์กว่างโจวกล่าวกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า
"หน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องของเมืองกว่างโจวต้องทำงานของตนให้ดี นอกจากนั้น เรายังหวังว่าเมืองเล็กต่างๆ รอบเมืองกว่างโจวจะใช้ความพยายามร่วมกัน ถือโอกาสการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ปรับปรุงคุณภาพอากาศของดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียงให้ดีขึ้น"
ข่าวจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์กว่างโจวว่า ระหว่างช่วยจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ปี 2010 เมืองกว่างโจวจะเปิดรถโดยสารประจำทางเฉพาะการ 43 สาย เพิ่มรถโดยสารประจำทางกว่า 800 คัน และให้เชื่อมกัยกับรถไฟใต้ดิน 9 สาย นอกจากนั้น ผู้เข้าชมการแข่งขันยังสามารถถือบัตรเข้าชมการแข่งขันไปนั่งรถโดยสารและรถไฟใต้ดินฟรี
(Pan/Lin)