เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายรูด กูลลิท (Ruud Gullit) อดีตนักเตะชื่อดังของเนเธอร์แลนด์เดินทางมากรุงปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเชิงพาณิชย์เกี่ยวกับเวิลด์คัพแอฟริกาใต้ 2010 และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอ
นาย รูด กูลลิทปลดระวางจากอาชีพนักเตะหลาย ๆ ปีแล้ว แต่ไม่เคยห่างไกลจากวงการกีฬาฟุตบอล ปีหลัง ๆ นี้ เขารับจ้างเป็นผู้บรรยายการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในสถานีโทรทัศน์อังกฤษ และในเดือนมิถุนายนศกนี้ เขาจะเดินทางไปแอฟริกาใต้ในฐานะผู้บรรยายการแข่งขันของโทรทัศน์ช่องกีฬา อีเอสพีเอน (ESPN)
นายรูด กูลลิทเป็นตัวแทนของดาราฟุตบอลชั้นยอดของเนเธอร์แลนด์ มีผลงานอันรุ่งโรจน์ในฐานะอาชีพนักเตะ มีเทคนิคการเล่นฟุตบอลที่จัดจ้าน เป็นผู้นำกองกลางและหัวหน้าของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และฝีมือการเล่นที่แข็งแกร่ง เมื่อครั้งที่เล่นให้กับสโมสรฟุตบอล เอซีมิลาน ของอิตาลี เขาและนายแฟรงก์ ไรการ์ด นายมาร์โค แวน เบสเตน ดาราฟุตบอลชื่อดังชาวเนเธอร์แลนด์อีก 2 คน ร่วมสร้างความรุ่งโรจน์ที่ได้ชื่อว่า "สมัยราชวงศ์เอซีมิลาน" นายรูด กูลลิทเคยนำทีมฟุตบอลสโมสรต่าง ๆ คว้าแชมป์มากมาย แต่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก เขาได้เข้าร่วมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อปี 1990 นายรูด กูลลิท นำทีมเนเธอร์แลนด์เข้า่ร่วมเวิลด์คัพที่อิตาลี แต่ไม่สามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
อย่า่งไรก็ตาม แฟนบอลโลกยังนิยมและชอบดูการแข่งขันที่มีทีมเนเธอร์แลนด์เข้าร่วม วิธีการเล่นแบบยกทัพเคลื่อนไหวไปพร้อมกันในการบุกโจมตีหรือป้องกัน ที่เรียกว่าพลังโส้ม เป็นที่ประทับใจของแฟนบอลทั่วโลก ทั้งมีเทคนิคละเอียดสวยงามเหมือนกับทีมจากอเมริกาใต้ และมีความแข็งแรงในแบบฉบับของยุโรป ทีมฟุตบอลระดับสโมสรของเนเธอร์แลนด์เคยครองแชมป์ในยุโรปหลายครั้ง และเคยครองแชมป์การแข่งขันฟุตบอลชิงชนะเลิศยุโรปเมื่อปี 1988 มาแล้ว แต่ยังไม่เคยชูถ้วยฟุตบอลโลกเลยสักครั้ง ดังนั้น เวิลด์คัพแอฟริกาใต้ปี 2010 ทีมเนเธอร์แลนด์หวังว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าเมื่อก่อน นายรูด กูลลิทกล่าวว่า
"ความเหนือกว่าของทีมเนเธอร์แลนด์คือมีกำลังบุกที่แข็งแกร่งมาก เรามีกองหน้าที่ยอดเยี่ยม 4 คน คือ โรบิน แวน เพอร์ซี เดิร์ก คูอิต เวสลีย์ สไนเดอร์ อาร์เจน ร็อปเบน พวกเขาจะนำทีมเนเธอร์แลนด์มุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ "
ปีหลัง ๆ นี้ ผลการแข่งขันของทีมเนเธอร์แลนด์ไม่คอยดีเท่าไหร่ กระทั่งไม่สามารถเข้ารอบสุดท้ายของเวิลด์คัพเกาหลีใต้ – ญี่ปุ่น ปี 2002 ได้ ส่วนในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เยอรมนีเมื่อปี 2006 ทีมเนเธอร์แลนด์หยุดฝีก้าวตั้งแต่ยังไม่ถึงรอบ 16 ทีม แต่หลังจากนาย แวน มาร์วิคเข้ามาเป็นโค้ชของทีมชาติเนเธอร์แลนด์แล้ว ได้โชว์ฟอร์มที่น่าตื่นตา ในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 2010 โซนยุโรป ทีมเนเธอร์แลดน์เอาชนะในการแข่งขันทั้ง 8 รอบ ทำประตูรวมได้ 17 ประตู และเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น จึงได้รับเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนบอลเนเธอร์แลนด์ ส่วนสมาชิกทีมก็มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เวสลี สไนเดอร์ จอมทัพของเนเธอร์แลนด์ประกาศด้วยความมั่นใจว่าจะครองแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในเวิลด์คัพแอฟริกาใต้ เนเธอร์แลนด์ถูกจับอยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมญีปุ่่น แดนมาร์ก และแคเมอรูน ซึ่งนายรูด กูลลิทกล่าวเตือนสมาชิกวัยรุ่นของทีมเนเธอร์แลนด์ว่า
"ดูเหมือนว่าเราเป็นทีมที่แข็งแรก่งที่สุดที่จะสามารถหลุดออกจากกลุ่มได้ แต่การแข่งขันคงไม่ง่ายเท่าที่เราคิดไว้ สมาชิกทีมเนเธอร์แลนด์ทุกคนควรมีความระมัดระวัง อย่าดูถูกทีมใดทีมหนึ่ง และเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป"
นายรูด กูลลิทเป็นผู้บรรยายการแข่งขันฟุตบอลมาหลาย ๆ ปีแล้ว เมื่อกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการคาดคะเนทีมโดดเด่นที่คงจะสามารถชูถ้วยเวิลด์คัพครั้งนี้นั้น คำตอบของเขาคือ ทีมบราซิล หากไม่ใช่ทีมเนเธอร์แลนด์ เขากล่าวว่า
"ทีมบราซิลมีศักยภาพที่จะครองแชมป์โลกอย่างที่แล้วมา ขณะเดียวกัน ทีมอิตาลีและทีมเยอรมนีก็เป็นทีมแข็งที่มองข้ามไม่ได้ แน่นอน ผมก็หวังว่า ทีมเนเธอร์แลนด์จะทำผลงานได้ดีเยี่ยม เพราะว่าเรามีกำลังความสามารถเพียงพอ นอกจากนี้ ยังอาจมีทีมม้ามืดโผล่ออกมาก็ได้ ซึ่งทีมนั้นอาจจะเป็นทีมโปรตุเกสก็ได้ "
ข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติประกาศผลการจัดอันดับคะแนนฟุตบอลโลกปรากฏว่า ทีมสเปนที่ถูกคาดว่าจะสามารถครองแชมป์เวิลด์คัพแอฟริกาใต้ ส่วนทีมบราซิลและเนเธอร์แลนด์จัดอยู่ที่ 2 และ 3 โปรตุเกส อิตาลี เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส อาเจนตินาและ โครเอเชียจัดอยู่อันดับที่ 4 – 10 ตามลำดับ
(Pan/Lin)