สาธารณรัฐแอฟริกาใต้อยู่ทางใต้สุดของทวีปแอฟริกา และถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ประเทศสายรุ้ง" เนื่องจากประกอบด้วยหลายชนเผ่า วัฒนธรรมหลากล้น และทิวทัศน์ที่สวยงามนา นา ทั้งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง แม้ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาที่สุดในทวีปแอฟริกา แต่ก็เป็นประเทศที่มีช่วงว่างระหว่างคนจนกับคนรวยมากที่สุดของโลก มีเนลสัน แมนเดราเป็นปฏิมาทางการเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ประวัติศาสตร์การดำเนินนโยบายลัทธิกีดกันทางชนเผ่าเป็นเวลากว่า 40 ปี ทำให้เกิดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจและฐานะทางสังคมระหว่างชนเผ่าอย่างร้ายแรง ฉะนั้น การจัดฟุตบอลโลกปี 2010 ทำให้แอฟริกาใต้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ตั้งแต่ยื่นขอเป็นประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ด้วยความสำเร็จเป็นต้นมา จนถึงปัจจุบััน รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ลงทุนกว่า 370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน รวมถึงการสร้างสนามกีฬาใหม่ 5 แห่ง และปรับปรุงสนามกีฬาเก่าอีก 5 แห่ง สร้างสนามบินใหม่แห่งหนึ่งที่เมืองดูร์บัน ซ่อมแซมและขยายทางหลวงสายสำคัญทั่วประเทศ สร้างระบบเครือข่ายรถโดยสารที่ทันสมัยที่กรุงโจฮันเนสเบอร์ก กรุงปริโตเรีย กรุงเคปทาวน์และเมืองเนลสัน แมนเดรา เป็นต้น สร้างทางรถไฟที่เชื่อมต่อกรุงโจฮันเนสเบอร์กกับกรุงปริโตเรีย นายแซม โมนาเรง เจ้าหน้าที่กระทรวงการคมนาคมแอฟริกาใต้กล่าวว่า
"การก่อสร้างและพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อรองรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก จะคงไว้ซึ่งมรดกอันล้ำค่าให้กัีบแอฟริกาใต้ เราใช้ความพยายามอย่างมาก กล่าวได้ว่า งานก่อสร้างหลายอย่างเราได้ทำล่วงหน้าไว้ 10 ปีเลยทีเดียว"
สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จะมีความสำคัญมากในด้านการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ นายเดนนี จอร์ดาน ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกแอฟริกาใต้เห็นว่า ฟุตบอลโลกจะทำให้ จีดีพี ของแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เขากล่าวว่า
"นับเป็นครั้งแรกที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในทวีปแอฟริกา เราหวังว่า ด้วยการจัดงานครั้งนี้ จะทำให้ผู้คนเห็นถึงอนาคตการลงทุนอันใหญ่หลวงของประเทศแอฟริกาใต้ และศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้า นอกจากนั้น การโทรคมนาคม วิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ การคมนาคม โรงแรมที่พักและความน่าเชื่อของระบบธนาคาร ล้วนจะผ่านการทดสอบในระหว่างช่วงจัดงาน และจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น"
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทการบัญชีระหว่างประเทศ แกรนต์ ธอร์นตัน(Grant Thornton) ประกาศรายงานคาดว่า ระหว่างช่วงจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนประมาณ 370,000 คน เดินทางไปแอฟริกาใต้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็น 4,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคน ทำให้ จีดีพี ของแอฟริกาในปีนี้เพิ่มขึ้น 0.5%
นายดาวีย์ รูดต์ นักเศรษฐกิจกลุ่มบริษัทเอฟฟิเชียนต์ (Effcient Group) เห็นว่า แอฟริกาใต้ต้องเอาแบบอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่ถือโอกาสจัดโอลิมปิกเกมส์เมื่อทศวรรษปี 1960 และ 1980 เร่งให้เศรษฐกิจของตนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เขากล่าวว่า
" การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จะมีบทบาทลึกซึ้งและยาวไกลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้ เพราะว่าหลังจากนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจแอฟริกาใต้ ก็ต้องมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน โชคดีที่เราเตรียมงานได้อย่างสมบูรณ์ เศรษฐกิจแอฟริการใต้จะได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากการจัดฟุตบอลโลก แต่สิ่งที่สำคัญคือ หลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว เราควรจะจับโอกาสนี้เป็นยาเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจแอฟริกาใต้ สร้างโอกาสทางการค้าให้มากขึ้น และส่งเสริมให้เศรษฐกิจแอฟริกาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลกยิ่งขึ้น"
นอกจากผลประโยชน์ทางวัตถุ บทบาทสำคัญที่สุดของการจัดการแข่งขันกีฬาคือระดับของจิตใจและอารมณ์ของประชาชนประเทศเจ้าภาพจะดีขึ้น จะมีความภาคภูมิใจด้านชนชาติและความสามัคคีกันมากขึ้น
ในประวัติศาสตร์ยุคปัจจุับันของแอฟริกา คนผิวขาวที่มีสัดส่วนน้อยต่อจำนวนประชากร แต่กลับได้ครองฐานะผู้ปกครองมาเป็นเวลานาน และใช้นโยบายลทัทธิกีดกันทางชนเผ่าเป็นเวลากว่า 40 ปี หลังจากปี 1994 แอฟริกาใต้ใหม่ได้ถล่มระบบที่ไม่เสมอภาคนี้ และถือความปรอดดองกันด้านชนเผ่าและความเสมอภาคให้เป็นเป้าหมายของการพัฒนา แต่การไม่เสมอทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ ที่เรื้อรังมาเป็นนานแล้ว ทำให้ความขัดแย้งภายในสังคมแอฟริกาใต้ไม่สามารถได้รับการแก้ไขโดยสิ้นเชิง หลังจากเข้าสู่ศตวรรษใหม่แล้ว ลัทธิหัวรุนแรงด้านชนเผ่าในกลุ่มคนผิวขาวและกลุ่มคนผิวดำล้วนมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น นายดาวีย์ รูดต์ นักเศรษฐกิจกลุ่มบริษัทเอฟฟิเชียนต์ (Effcient Group) กล่าวว่า
"แอฟริกาใต้ก้าวหน้าไปท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางการเมือง ในความทรงจำของผม เหตุการณ์๋ที่ทำให้ชาวแอฟริกาใต้รวมตัวกันเป็นครั้งแรกคือ การจัดการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกปี 1995 เวลานั้นทำให้คนในประเทศนี้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวแอฟริกาใต้ ผมเชื่อมั่นว่า การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะมีบทบาทในการเพิ่มความภาคภูมิใจด้านชาติพันธุ์ของชาวแอฟริกาใต้ สามารถรวบรวมจิตใจของผู้คนชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีวัฒนธรรมต่างกันให้เป็นหนึ่งเดียว"
(Pan/Lin)
