การแข่งขันฟุตบอลโลกที่จัดขึ้น 4 ปีครั้งนี้ เป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแฟนบอลทั่วโลก ในความทรวงจำของชาวโลก สนามกีฬาที่จัดการแข่งขันมักจะมีผู้ชมนั่งเต็มเหยียด หรือเกือบไม่มีที่ว่างเลย แต่ในการแข่งขันฟุตบอลโลกแอฟริกาใต้ครั้งนี้ ผู้ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มักจะสังเกตได้ว่า สนามกีฬาที่จัดการแข่งขันหลายรอบ มีที่นั่งว่างยู่จำนวนมาก กระทั่งในวันที่จัดพิธีเปิด สนามกีฬา"เมืองแห่งฟุตบอล"ในเมืองโจฮันเนส
เบิร์ก ก็ยังมีที่นั่งว่างอยู่หลายพันที่นั่ง สาเหตุที่ทำให้มีที่นั่งว่างอย่างมาก ประการแรกเกี่ยวข้องกับราคาบัตรเข้าชม ซึ่งระดับต่ำสุดคือ 200 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อใบหรือเทียบเท่า 1,600 แรนด์ตามสกุลเงินของแอฟริกาใต้ แต่ในตลาดมืดของเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ต้องซื้อในราคาประมาณ 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ บางคนตั้งราคาสูงสุดถึง 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือเท่ากับ 20,000 หยวนสกุลเงินจีนหรือ ประมาณ 80,000 – 90,000 หมื่นบาท
ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าได้กำหนดราคาบัตรเข้าชมการแข่งขันเป็น 3 ระดับคือ 80 ดอลล่าร์สหรัฐฯ 120 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และ 160 ดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับชาวผิวดำของแอฟริกากาส่วนใหญ่ มีเงินเดือนเพียงประมาณ 1,000 แรนด์ต่อเดือน แม้ว่ารัฐบาลแอฟริกาใต้ให้ราคาพิเศษแก่ประชาชนก็ตาม แต่เงินเดือนของชาวบ้านก็พอที่จะซื้อขัตรเข้าชมได้เพียง 2 -3 ใบเท่านั้น
สำหรับแฟนบอลต่างประเทศ เนื่องจากถูกผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกไม่มากก็น้อย เศรษฐกิจของยุโรปและญี่ปุ่นยังไม่ฟื้นดีเท่าไรนัก ทำให้แฟนบอลต่างประเทศส่วนหนึ่งไม่มีสามารถเดินทางมาชมการแข่งขันได้
นอกจากสาเหตุทางเศรษฐกิจแล้ว ปัญหาด้านความปลอดภัยก็เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง
เดิมที แอฟริกาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการกระทำผิดกฎหมายมากที่สุดของโลก แต่ละปีมีคดีฆาตกรรมประมาณ 20,000 ราย คดีบุกรุกบ้านและปล้นสินทรัพย์ประมาณ 300,000 ราย แอฟริกาใต้มีประชากรเพียงประมาณ 40 ล้านคน แต่มีถืออาวุธปืนอย่างผิดกฏหมายประมาณ 3 ล้านกระบอก แต่ละวันมีผู้ถูกสังหารประมาณ 50 คน
เหตุการณ์ร้ายแรงส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นตามชานเมืองหรือเขตที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง แต่พร้อมๆ กับการเปิดการแข่งขัน การกระทำผิดกฎหมายค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่ในตัวเมือง มีการรายงานเกี่ยวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศถูกโจรท้องถิ่นปล้นทรัพย์ไปหลายราย แฟนบอลที่ถูกปล้นก็มีจำนวนมากเช่นกัน
ปัญหาความปลอดภัยทางสังคมของแอฟริกาใต้ทำให้แฟนบอลต่างประเทศจำนวนหนึ่งยกเลิกแผนการมาชมการแข่งขันและท่องเที่ยวแอฟริกาใต้ แฟนบอลคนหนึ่งจากยุโรปได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวจีนว่า "เดิมที มีแผนจะพาสมาชิกทั้งครอบครัวมากชมการแข่งขัน แต่เนื่องจากเป็นห่วงปัญหาความปลอดภัย เลยให้พวกเขาดูการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่้บ้านดีกว่า"
สภาพที่ีน่าแปลกใจอีกอย่างหนึ่งคือ ถึงแม้มีบัตรเขาชมแล้ว ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะเข้าไปในสนามกีฬาได้หรือไม่
ระบบการคมนาคมของแอฟริกาใต้มีความบกพร่องตั้งแต่ก่อนหน้าจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ทั่วประเทศไม่มีรถไฟใต้ดิน ค่ารถโดยสารก็แพงมาก สิ่งที่น่ากลัวคือ บางที่ต้องรอเป็นชั่วโมงจึงจะมีรถโดยสารประจำทางมาสักคัน
ขณะนี้ จำนวนกลุ่มชนชั้นที่มีฐานะทางเศรษฐกิจปานกลางของแอฟริกาใต้มีมากขึ้น มีรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยเป็น 6 คนต่อ 1 คัน แต่รถแท็กซี่กลับหายากมาก และมีจำนวนน้อยมาก และต้องนัดไว้ก่อน ราคาก็แพงอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ซึ่งไม่ว่าระยะทางจะใกล้หรือไกล ล้วนเริ่มต้นที่ 200 แรนด์ (ประมาณ 800 บาท ) และระหว่างทางจะคิด 15.5 แรนด์ (ประมาณ 60 บาท ) ต่อหนึ่งกิโลเมตร
สำหรับแฟนบอลชาวต่างชาติที่ทยอยกันมาแอฟริกาใต้ การเดินทางไปสนามกีฬานับเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยทีเดียว
ปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือที่พักอาศัย ช่วงเวลานี้ อากาศของแอฟริกาใต้กำลังเย็นลง โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะรู้สึกหนาว รวมถึงมีปัญหาด้านความปลอดภัยทางสังคม ทำให้แฟนบอลวัยรุ่นส่วนหนึ่งไม่กล้านอนค้างรอบสนามกีฬา เลยจะต้องหาโรงแรมที่พัก สนามกีฬาที่จัดการแข่งขันครั้งนี้กระจายอยู่ตาม 9 เมืองสำคัญของแอฟริกาใต้ โรงแรมในเมืองขนาดเล็กไม่มีความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ แม้กระทั่งเมืองใหญ่อย่างเมืองโจฮันเนสเบิร์กและกรุงเคปทาวน์ ก็จะหาโรงแรมที่พักยากมากเช่นกัน หรือไม่ก็ราคาสูงมาก โรงแรมระดับ 3 ดาวตั้งราคาไว้ที่ 300 – 500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อคืน บางคนจึงไปเช่าอาพาร์ตเมนท์ส่วนตัวในชุมชนชาวผิวขาว แต่ราคาก็สูงน่าดูเช่นกัน นี่ยังถือว่าโชคดีมีที่พัก แฟนบอลบางคนมีเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถหาโรงแรมที่พักได้ก็มี ฉะนั้นจะไปแอฟริกาใต้และชมการแข่งขันได้ยังไง
