งานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรกจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 28 สิงหาคมและสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา นักกีฬาจาก 105 ประเทศได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ นับเป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศที่มีระดับสูงที่สุด มีจำนวนนักกีฬาเข้าร่วมมากที่สุดและมีอิทธิพลกว้างขวางที่สุดในโลกหลัีงจากโอลิมปิกเกมส์ปักกิ่ง มีบทบาทส่งเสริมการพัฒนาของวงการมวยจากประเทศต่างๆ ส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประชาชนนานาประเทศ ทั้งได้เร่งให้กรุงปักกิ่งที่เป็นเมืองแห่งโอลิมปิกก้าวไปสู่เมืองแห่งโลก

งานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรกร่วมกันจัดขึ้นโดยสหพันธ์การกีฬานานาชาติ สำนักงานการกีฬาแห่งชาิติจีนและเทศบาลกรุงปักกิ่ง มีวัตถุประสงค์ที่เพื่อเผยแพร่เจตนารมณ์โอลิมปิกที่เน้นถึงความสามัคคีกัน มิตรภาพและสันติภาพ ส่งเสริมการพัฒนาของกีฬามวยชนิดต่างๆ โดยมีจัดรายการแข่งขันมวย 13 รายการใหญ่ ได้แก่ วิทยายุทธจีน ไอคิโด มวยสากล ยูโด ยิวยิตซุ (jujitsu) เคนโด้ คิกบ็อกซิ่ง(kickboxing) มวยไทย ซัมโบรัสเซีย (Russian Sambo) ซูโม่ เทควันโด และมวยปล้ำ ในจำนวนนี้มี 4 รายการที่บรรจุอยู่ในรายการแข่งขันของโอลิมปิกเกมส์

ในการแข่งขัันครั้งนี้ รัสเซียได้รับ 18 เหรียญทอง 11 เหรียญเงินและ 10 เหรียญทองแดง จีน 15 เหรียญทอง 3เหรียญเงินและ 13 เหรียญทองแดง ยูเครน 7 เหรียญทอง 5 เหรียญเงินและ 11 เหรียญทองแดง จัดอยู่ 3 ดันดับแรกของบอร์ดเหรียญรางวัล ส่วนประเทศไทยได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง จัดอยู่อันดับที่ 7

โจวหง นักศึกษาปีที่ 1 ที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยการเกษตรจีน พอเดินเข้าเขตมหาวิทยาลัย สายตาของเขาก็ถูกดึงดูดไปยังงานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรกที่กำลังจัดขึ้นอยู่ ในสายตาของเขา สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกและน่าตื่นเต้นดีในกรุงปักกิ่ง มิใช่อาคารสูงระฟ้าจำนวนมาก แต่เป็นสนามกีฬาในมหาวิทยาลัยการเกษตรจีน ที่เคยจัดการแข่งขันมวยปล้ำโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว และขณะนี้ยังมีจัดการแข่งขันกีฬาซูโม่ ซึ่งมีให้เห็นน้อยมากเลยทีเดียว นี่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างการจัดงานครั้งนี้

ระหว่างการจัดงานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรก นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กีฬาจากประเทศต่างๆ พากันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอขอบคุณกรุงปักกิ่ง การให้ปักกิ่งจัดการแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

ในสายตาของนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันงานมหกรรมมวยนานาชาิติครั้งนี้ ถือว่าจีนเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมวิทยายุทธตะวันออก และกรุงปักกิ่งเป็นเมืองแห่งโอลิมปิกที่ยอดเยี่ยม สัญลักษณ์เหล่านี้ทำให้งานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรกมีความหมายสมบูรณ์มาก

เมื่อที่มีการผ่านมติที่ให้กรุงปักกิ่งจัดงานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรก นายเฮน เบอร์บรูก์เกน(Hein Verbruggen) ประธานสหพันธ์การกีฬาโลกรู้สึกโล่งอก เขาเป็นเพื่อนเก่าของจีน และเคยเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานกีฬาโอลิมปิเกมส์ปักกิ่ง 2008 จึงมีความคุ้นเคยมากและทราบว่า ปักกิ่งมีสนามกีฬาชั้นหนึ่งและความสามารถในการจัดการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม หลังจากงานมหกรรมมวยนานาชาติครั้งแรกสิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จ ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจของสหพันธ์กีฬาโลกเป็นเรื่องที่ถูกต้อง นายเฮน เบอร์บรูก์เกน(Hein Verbruggen) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เนื่องจากงานงานครั้งสิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จ ทำให้สหพันธ์กีฬาประเภทเดี่ยว 13 องค์การของโลกที่ได้เข้าร่วมมหกรรมครั้งนี้ได้เห็นถึงอนาคตที่สดใส และเสนอให้ลดระยะเว้นของการแข่งขันนี้ โดยปรับเปลี่ยนจากการจัดการแข่งขัน 4 ปีต่อครั้งมาเป็น 2 ปีต่อครั้ง ตลอดจนเสนอให้เพิ่มรายการแข่งขันและจำนวนนักกีฬาที่ร่วมการแข่งขันให้มากขึ้นด้วย"

หลังจากโอลิมปิกเกมส์ปักกิ่ง 2008 สิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จแล้ว ผู้จัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศที่สำคัญและมีขนาดใหญ่ พากันให้ความสนใจต่อกรุงปักกิ่ง จนได้กลายเป็นเมืองแห่งการกีฬาที่สำคัญมากของโลก นี่เป็นแนวโน้มการพัฒนาของกรุงปักกิ่งหลังจัดโอลิมปิกเกมส์ด้วยความสำเร็จ ทั้งเป็นหนึ่งในนโยบายทางยุทธศาสตร์ของจีนที่จะผลักดันให้จีนพัฒนาจากประเทศใหญ่ด้านการกีฬาให้เป็นประเทศเข้มแข็งด้านการกีฬา

นายฌาก์ ร็อก ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลกล่าวว่า "เมื่อได้เป็นเมืองที่จัดโอลิมปิกเกมส์ครั้งหนึ่ง ก็เป็นเมืองแห่งโอลิมปิกอย่างถาวร" ปัจจุบัน กรุงปักกิ่งที่เป็นเมืองแห่งโอลิมปิืกกำลังก้าวไปสู่เป้าหมายแห่งความเป็นเมืองแห่งโลก

นายกัว จินหรง ผู้ว่าการกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ข้อมูลต่างๆ แสดงให้เห็นว่าช่วง 7 ปีที่มีการเตรียมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นช่วงระยะที่เศรษฐกิจกรุงปักกิ่งพัฒนาไปรวดเร็วและมั่นคงที่สุด สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานของเมืองยกระดับสูงขึ้นอย่างรอบด้าน ระบบนิเวศได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โฉมหน้าของเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นอย่างมาก การจัดโอลิมปิกเกมส์ปักกิ่ง ได้คงไว้ซึ่งสนามกีฬาทันสมัยจำนวนมากให้กับกรุงปักกิ่ง ทำให้กรุงปักกิ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอุปกรณ์การกีฬาครบชุดและสมบูรณ์ที่สุดของโลก เฉพาะปี 2009 กิจกรรมด้านวัฒนธรรมและการแข่งขันการกีฬาก็สามารถสร้างรายได้ถึง 149,770 ล้านหยวนให้กับกรุงปักกิ่ง ครองสัดส่วนกว่า 12% ของยอดจีดีพีของกรุงปักกิ่ง ทุกวันนี้ กรุงปักกิ่งมีอาสาสมัครที่ลงทะเบียน 2.15 ล้านคน โครงการ "หลอดไฟประหยัดพลังงานราคา 1 หยวน" ได้รับการเผยแพร่ในทั่วเมือง รถโดยสารประจำทางได้ที่ใช้พลังงานใหม่และพลังงานสะอาดมีมากขึ้น อัตราการบำบัดน้ำเสียของเมืองสูงกว่า 94% มูลค่าจากงานด้านการบริการครองสัดส่วนกว่า 70% ของจีดีพีกรุงปักกิ่ง ปักกิ่งกำลังพัฒนาไปอย่างยั่งยืนภายใต้คำขวัญที่ว่า "ปักกิ่งเมืองแห่งมนุษย์ธรรม ปักกิ่งเมืองแห่งเทคโนโลยีและปักกิ่งเมืองสีเขียว"

(Ton/Lin)