ในประเทศจีน มีการจัดงานกีฬาแห่งชาติทุกๆ 4 ปี ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาแบบเอาจริงเอาจัง และยังมีัจัดงานกีฬาสำหรับประชาชนทั่วประเทศด้วย ซึ่งเน้นในหลักการที่ว่า ไม่ให้ความสำคัญกับการได้รับเหรียญทองและผลการแข่งขัน แต่จะเน้นแนวคิดของการส่งเสริมการออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป พยายามให้ประชาชนเข้าร่วมการออกกำลังกาย และร่วมการแข่งขันด้วยความสนุดสนาน

รายการแข่งขันของกีฬาประชาชนทั่วประเทศส่วนใหญ่เป็นรายการที่อยู่นอกเหนืองานกีฬาขนาดใหญ่ทั่วไป อาทิ มวยปล้ำแบบจีน การช่วยชีวิตทางน้ำ ฟุตบอล 5 คน บาสเกตบอล 3 คน โบลิ่ง กระโดดร่ม การแข่งเครื่องบินบังคับและเรือบังคับ หมากล้อม หมากรุกสากล หมากรุกจีน ไพ่บริดจ์ ชี่กงหรือกำลังภายในจีน ปีนเขา ชักกะเย่อ การแข่งเรือมังกร เป็นต้น

การส่งเสริมการออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป ต้องการเงินสนับสนุนมหาศาล โดยเฉพาะการขาดแคลนสถานที่และอุปกรณ์สำหรับออกกำัลงกาย ทางการท้องถิ่นระดับต่างๆ จึงต้องสรรหาวิธีต่างๆ เช่นการใช้ประโยชน์ของสนามกีฬาในโรงเรียนและวิสาหกิจอย่างเต็มที่ ปี 2010 มณฑลและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศจีนพากันใช้มาตรการจำนวนหนึ่ง อาทิ ออกนโยบายสนับสนุน ให้เงินอุดหนุนการคลัง และออกมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนเปิดสนามกีฬาให้ประชาชนเข้ามาออกกำลังกายได้ สถิติจากสำนัีกงานแห่งชาิติจีนปรากฏว่า จนถึงปัจจุบัน มีโรงเรียนและสนามกีฬาสาธารณะของ 62 เมืองใน 27 มณฑลได้เปิดรับประชาชนเข้ามาใช้สนามเพื่อออกกำลังกายแล้ว

ในประเทศจีน ปัญหาสุขภาพได้รับความสนใจจากพนักงานออฟฟิศหรือเหล่ามนุย์เงินเดือนที่ทำงานนั่งโต๊ะมากยิ่งขึ้น โดยเฉาพะัในเมืองใหญ่ต่างๆ อาทิ กรุงปักกิ่ง ปัจจุบัน แต่ละ วันมีรถยนต์กว่า 4 ล้านคันวิ่งตามท้องถนนน ทำให้เกิดปัญหารถติดอย่างรุนแรง คนทำงานนั่งโต๊ะส่วนใหญ่มักจะนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานทั้งวัน แถมยังต้องเสียเวลารถติดเป็นชั่วโมงระหว่างทางมาทำงานและหลังเลิกงาน จึงเกือบไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ผู้คนเหล่านี้เป็นเสาหลักของสังคมปัจจุบันก็ว่าได้ แต่สุขภาพของพวกเขาเป็นที่ห่วงมาก

ทางการกรุงปักกิ่งพยายามคิดหาวิธีต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ชาวเมืองมีโอกาสออกำลังกายมากยิ่งขึ้น แต่ก่อน กรุงปักกิ่งมีวิธีการออกกำลังภายในห้องทำงานอย่างหนึ่งที่เรียกว่าแอโรบิกวิทยุ คือเวลาประมาณ 10 โมงเช้าหรือบ่าย 3 โมง สถานีวิทยุทางการจะมีการกระจายเสียงดนตรีในจังหวัะของการเต้นแอโรบิก คนในห้องทำงานจะพักช่วง และร่วมกันแสดงลีลาแอโรบิกพร้อมกันตามจังหวัดดนตรีจากวิทยุประมาณ 15 นาที ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกาย และได้ผลค่อนข้างดี

ต่อมาถึงช่วงระยะที่จีนเปิดประเทศและดำเนินการปฏิรูป ผู้คนต่างยุ่งกับงาน เพื่อทำให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเ้ร็ว แต่ลืมเรื่องการออกกำลังกายไป แอโรบิกวิทยุก็ถูกมองว่าเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ล้าสมัย จึงเงียบหายไปหลายปี แต่ปีหลังๆ นี้กลับมีแนวโน้มถูกนำมาฟื้นฟูอีกครั้ง เพราะทางการจีนต้องการใช้วิธีลักษณะนี้ในการผลักดันการออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป และบอกว่า ต้องให้ความสนใจและใช้เวลาในการดูแลร่างกายของตนให้ดีเสียก่อน ควรออกกำลังกายตั้งแต่เมื่อยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่

ในชนบท เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนานับวันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาก็ให้ความสำคัญในเรื่องการออกกำลังกายมากขึ้นด้วย แต่ยังคงขาดแคลนความรู้ ข้อมูลและวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ทำให้ไม่ค่อยได้ผล

แต่ประชาชนในชนบทท้องที่ต่างๆ ก็พยายามหาวิธีแก้ปัญหาเอง โดยหมู่บ้านตามเขตชนบทส่วนใหญ่จะมีการจัดตั้งศูนย์การกีฬาและวัฒนธรรมขึ้น อาทิ ที่หมู่บ้านซินจิ่งโถว อำเภอชิวเฉิง มณฑลเหอเป่ย ชาวบ้านที่นี่มักจะเล่นไทเก๊กใน วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ส่วนวันอังคาร วันพฤหัสบดีและวันเสาร์จะเต้นรำกายบริหาร พวกเขาเรียกตารางเวลานี้เป็น "เมนูการบริหารร่างกายของชาวนา" และผู้ออกแบบเมนูนี้เป็นโค้ชบริหารกายที่คัดเลือกออกมาจากแฟนกีฬาในชนบทนั่นเอง

โดยหน่วยงานการกีฬาของอำเภอชิวเฉิงได้ประกาศรับสมัครแฟนกีฬาในหมู่บ้าน เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีพื้นฐานด้านการกีฬาที่เพียงพอให้เป็น "โค้ชบริหารกายของชาวนา" และส่งไปรับการฝึกอบรมความรู้และเทคนิคด้านการออกกำลังกาย โค้ชเหล่านี้แต่ละคนจะต้องมีความชำนาญในวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องและได้ผลอย่างน้อย 3 – 5 อย่าง เพื่อสามารถกลับไปชี้แจงการออกกำลังกายให้ประชาชนในหมู่บ้านตนเองเข้าใจ

เวลาเย็นๆ ลานกว้างในหมู่บ้านซินจิ่งโถวซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายของมักจะเห็นชาวบ้านจับเป็นกลุ่มเล่นไทเก๊ก เต้นรำ หรือเล่นปิงปองสนุ้กเกอร์หรือบิลเลียดในศูนย์กีฬาของหมู่บ้าน มีบรรยากาศที่คึกคักมาก

กาว ส่วยเหมย หญิงชราอายุ 70 ปีบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หมู่บ้านของเธอมีสถานที่ออกกำลังกายแล้ว และยังมีผู้คอยแนะนำการออกกำลังกาย ได้มีโอกาสยืดเส้นยืดสายมากขึ้น รู้สึกร่างกายกระฉับกระเฉงแข็งแรง ทำให้ค่ารักษาพยาบาลของปีที่แล้วลดน้อยลงมากทีเดียว

(Ton/Lin)