พัลลภ – สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ ผม พัลลภ สามสี และรายการ "มองต่างใจ คนไทยในจีน" ทางคลื่นเอฟเอ็ม103 กลับมาพบกับท่านผู้ฟังเช่นเคยครับ
หากจะพูดถึงกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในจีน อาจจะหนีไม่พ้นปิงปองและแบดมินตัน เพราะหาสถานที่เล่นได้ง่าย ไม่ต่างกับสนามบาสเก็ตบอล ซึ่งมีอยู่ทุกลานกีฬาของหมู่บ้านต่างๆ ในสถานที่ทำงาน โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ต่างก็มีสนามบาสเช่นกัน ดังนั้นบาสเก็ตบอลน่าจะเป็นก๊ฬาระดับต้นๆ ที่คนจีนนิยมเล่นกันมากที่สุด
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว การแข่งกันบาสเก็ตบอลอาชีพจึงได้รับความนิยมอย่างมากตามไปด้วย
วันนี้ผมจึงอยากหยิบยกเรื่อง วงการบาสเก็ตบอลอาชีพของจีน หรือ ซีบีเอ มาสนทนากันในรายการครับ
ซึ่งคุณ.....................จะมาจับเข่าคุยกับผมในประเด็นนี้กันครับ
สวัสดีคุณ.........................
คุณ............– สวัสดีครับคุณพัลลภ และสวัสดีท่านผู้ฟังทุกท่านครับ
ทำไมคุณพัลลภจึงสนใจประเด็นของบาสเก็ตบอลขึ้นมาล่ะครับ เพราะจริงๆ แล้วคุณเป็นนักเทนนิสมาก่อนไม่ใช่เหรอครับ
พัลลภ – แม้เป็นนักเทนนิส แต่ผมก็สนใจบาสเก็ตบอลมากครับ เพราะเป็นกีฬาที่ใช้ลูกบอลในการเล่นเหมือนกัน และผมเองก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการควบคุมลูกบอลครับ จึงได้ลองเล่นกีฬาประเภทเหล่านี้ดู เช่น กอล์ฟ เบสบอล ปิงปอง วอลเล่ย์บอล เปตอง และบาสเก็ตบอล อ่อ ฟุตบอลด้วยครับ
คุณ............ – ลองมาหลายประเภทกีฬามาก
พัลลภ – แต่ที่เล่นได้ดีเห็นจะเป็นเทนนิส ฟุตบอล และเปตอง ส่วนบาสเก็ตบอลเนี่ย ใจผมก็อยากเล่นให้เก่งเหมือนกันครับ มีช่วงหนึ่งเล่นทุกเย็นหลังเลิกงานอยู่เป็นปีทีเดียว เสียอย่างเดียว เรื่องส่วนสูงของผมมีปัญหามากเลยครับ
คุณ............ – ใช่แล้วครับ คนเตี้ยๆ เนี่ยเสียเปรียบมากในการเล่นบาสเก็ตบอลครับ
พัลลภ – เอ่อ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นนะครับ ก็มาตรฐานชายไทยทั่วไป เพียงแต่ว่าคนที่เล่นบาสนั้น สูงเกินปกติเท่านั้นเอง ดูอย่างเหยาหมิงสิครับ คนอะไรสูงตั้งสองเมตรเศษ
คุณ............ – ฮ่าๆ ใช่ครับ เหยาหมิงเนี่ยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งนะครับที่ทำให้วงการบาสเก็ตบอลของจีนมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่เขาเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ไปเล่นอาชีพให้กับทีมฮูสตัน ร็อกเก็ต ในเอ็นบีเอ ช่วงนั้นมีเยาวชนมากมายหันมาเล่นบาสเก็ตบอลมายิ่งขึ้น เพราะด้วยความที่เหยาหมิงได้สามารถไปยืนอยู่ในจุดที่นักบาสทั่วโลกต่างใฝ่ฝันถึง
พัลลภ – เหยาหมิงเคยร่วมทีมออล์สตาร์ด้วยนี่ครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ประมาณปี 2004 เลยยิ่งทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาขวัญใจชาวจีน ผมเคยอ่านข่าวเกี่ยวกับเหยาหมิง ตอนที่เพิ่งแต่งงานกับ "เย้ลี้" นักบาสเก็ตบอลหญิงทีมชาติ โดยพากันคาดเดาและคำนวณว่าลูกของทั้งคู่จะมีส่วนสูงเท่าไร เพราะเหยาหมิงนั้นสูงถึง 229 ซม. ส่วนภรรยาของเขาก็สูงเฉียด 2 เมตรเหมือนกัน อ่านแล้วก็รู้สึกตลกดี เหมือนครอบครัวเหยาหมิงเป็นครอบครัวหมีแพนด้าที่ทุกคนต่างเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวทั้งหมด
คุณ............ – คือเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนคนหนึ่ง อีกทั้งยังรวยมากด้วย เพราะเหยาหมิงมีสปอนเซอร์เยอะมาก อีกทั้งค่าตัวในการเล่นบาสเก็ตบอลก็สูง เคยถ่ายโฆษณาจำนวนมาก และยังมีบริษัทของตัวเองอีก ล่าสุด เขาก็ลงทุนทำทีมบาสเก็ตบอลของตัวเองขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ด้วย
พัลลภ – จริงๆ นักบาสจีนที่ได้มีโอกาสไปเล่นในเอ็นบีเอ ไม่ได้มีแต่เหยาหมิงเพียงคนเดียวเท่านั้นนะครับ ยังมี "หวัง จื่อจื้อ" (Wang Zhizhi) "เหมิงเค่อ ปาเทีย" (Mengke Bateer) และล่าสุดที่ยังลงแข่งอยู่ก็คือ "อี้ เจี้ยนเหลียน" ซึ่งเล่นให้กับทีมนิวเจอร์ซีเน็ต
คุณ............ – นักบาสเหล่านี้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศจีนอย่างมาก และพวกเขาเองก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในด้านอาชีพของตัวเองอย่างสูงเหมือนกัน ทั้งมีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้วงการบาสเก็ตบอลของจีนพัฒนาไปด้วยดี เพราะสามารถสร้างกระแสนิยมในหมู่ผู้ชมได้มาก
พัลลภ –ครับ เพราะในระดับเอเชียแล้ว บาสเก็ตบอลอาชีพของจีนหรือ "ซีบีเอ" ถือได้ว่าเป็นลีกที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุด สามารถผลิตนักบาสฝีมือจัดจ้านเข้ามาเสริมอยู่เสมอ
คุณ............ – จริงๆ แล้วสนามกีฬาบาสเก็ตบอลแห่งชาติของจีนก็อยู่แค่ "อู่เคอซง" นี่เอง คุณพัลลภเคยเข้าไปชมในสนามหรือเปล่าครับ
พัลลภ – ผมก็ตั้งใจอยากจะไปหลายครั้งแล้วครับ แต่ว่ายังไม่มีโอกาสซะที อาจจะเพราะอยู่ใกล้จมูกไปหน่อย คงต้องหาโอกาสไปให้ได้แหละครับ เพราะที่นี่เป็นสนามกีฬาโอลิมปิกด้วย เห็นว่าสร้างด้วยระบบการระบายอากาศแบบพิเศษ และระบบแสงธรรมชาติแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งทันสมัยยิ่ง
คุณ............ – เดี๋ยวถ้ามีการแข่งขันนัดสำคัญผมจะแจ้งให้ทราบ เดี๋ยวเราไปดูด้วยกันก้ได้ครับ
พัลลภ – ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ ผมไปแน่นอน
เดี๋ยวเราจะมาคุยกันถึงความเป็นไปเป็นมาของ "ซีบีเอ" ศึกบาสเก็ตบอลอาชีพอันดับหนึ่งของเอเชียกันต่อนะครับ หลังจากผมนำเสนอเพลงจังหวะกลองแสนเร้าใจของวง rebuilding the rights of statues สำหรับช่วงนี้ฟังเพลง re-tros TV show เป็นวงของจีนนะครับ แต่กำลังดังในระดับอินเตอร์ อัลบั้มชุดนี้ของพวกเขาจึงทำเพลงสากลออกมา เอกลักษณ์ของวงนี้ออกจากจังหวะกลองที่โดดเด่นแล้ว ฝีมือการคลึงเบสของ "หลิว หมิ่น" มือเบสสาวสวยยิ่งพาหัวใจเราเต้นแรงตามไปด้วยครับ
พัลลภ – ท่านกำลังติดตามรับฟังรายการ "มองต่างใจ คนไทยในจีน" กับผม พัลลภ สามสี และคุณ.....................ทางคลื่นเอฟเอ็ม 103 ครับ วันนี้เรากำลังคุยกันถึงเรื่องของวงการบาสเก็ตบอลอาชีพของจีนหรือ "ซีบีเอ" ครับ
คุณ............ – ซึ่งคนจีนจะเรียกว่า Zhongguo Nanzi Lanqiu Zhiye Liansai แต่ว่ามันยาวแฟนๆ บาสเก็ตบอลจึงเรียกตามชื่อย่อภาษาอังกฤษ เหมือนที่คุณพัลลภเรียกนั่นแหละครับ
พัลลภ – ใช่ครับ ผมว่าเรียก "ซีบีเอ" ก็ง่ายและสะดวกดีครับ
"ซีบีเอ" ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 โดยมีลีกรองลงไปซึ่งเป็นแบบกึ่งอาชีพคือ "เอ็นบีแอล" หรือ "National Basketball League" นอกจากนี้ยังมีสมาคมบาสเก็ตบอลระดับมหาวิทยาลัย หรือ "ซียูบีเอ" และสำหรับลีกบาสเก็ตบอลหญิงอาชีพคือ "ดับเบิ้ลยูซีบีเอ"
คุณ............ – ครับ สำหรับทีมที่เล่นอยู่ใน "ซีบีเอ" ปัจจุบันนี้มีทั้งหมด 18 ทีม ซึ่งแต่ละทีมก็มาจากหลายมณฑลด้วยกัน ไม่จำกัดว่าแต่ละมณฑลจะส่งเข้าแข่งได้กี่ทีม เพราะปัจจุบันนี้ทีมบาสเก็บบอลหลายแห่งได้แยกตัวออกมาเป็นอิสระ และดำเนินการโดยเอกชนอย่างชิ้นเชิงแล้วก็มีหลายทีมครับ
พัลลภ – ผมชอบวิธีตั้งชื่อของทีมบาสเก็ตบอลจีนมากเลยนะครับ เห็นภาพและจำง่ายดี บางทีมก็ใช้ภาษาจีนหมด บางทีมก็ปนกับภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่เดิมนั้นจะเติมชื่อของสปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุนเข้าไปในชื่อทีมด้วย แต่ดูเหมือนไม่เป็นที่นิยมของบรรดาๆ แฟนๆ เพราะว่ามันยาวเกินไป
วิธีตั้งชื่อทีมบาสเก็ตบอลของจีนนั้น มักจะเอาชื่อมณฑลที่สังกัดขึ้นก่อน แล้วต่อด้วยสร้อยนามสกุลที่เป็นชื่อสิงหาลาสัตว์ต่างๆ ทีมที่ตั้งชื่ออยู่ในเกณฑ์นี้ก็ได้แก่ "เป่ยจิง ดักส์" "ตงกวน ลีโอพาร์ดส์" "กว่างตง เซาธ์เทิร์น ไทเก้อ" "เจียงซู ดรากอน" "จี๋หลิน นอร์ธอิสต์ ไทเก้อ" "เหลียวหนิง ไดโนซอร์ส" "ซานตง ไลออนส์" "ซ่างไฮ่ ช้ากส์" "ซินเจียง ไฟอิ้ง ไทเก้อ" "เจ้อเจียง ไลออนส์"
คุณ............- ส่วนทีมอื่น ถ้าไม่ใช่ชื่อสัตว์ตามท้ายก็จะเป็นคำขวัญหรือไม่ก็ชื่อสิ่งของ ได้แก่ "ปายี ร็อกเก็ตส์" "โฝซาน ดราลิออนส์" "ฝูเจี้ยน ซุนซิง" "ชิงเต่า ดัลเบิ้ลสตาร์" "ซานซี จงหยู" "เทียนจิน รองกัง" และ "เจ้อเจียง เวิร์ลวินด์ส"
พัลลภ – ที่เราสองคนไล่รายชื่อมานี้คือทั้งหมด 18 ทีมที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุดเดือดอยู่ทุกวันนี้
คุณ............- คุณพัลลภทราบไหมครับว่าทีมไหนได้แชมป์มากที่สุด
พัลลภ – แน่นอนครับ ก็ทีม "ปายี ร็อกเก็ตส์" ไงครับ ตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมาได้ไปแล้ว 8 แชมป์ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะรุ่งโรจน์อยู่เฉพาะช่วงเริ่มต้นซีบีเอนะครับ เพราะดูตัวเลขแล้ว ทีมนี้ได้แชมป์ในช่วงปี 1995 – 1996 และ 2003-2004 ส่วนทีมที่ได้จำนวนแชมป์รองลงมากลับหน้ากลัวที่สุด เพราะกำลังทำทีมได้ดีในยุคปัจจุบัน ตอนนี้คว้าไปแล้วทั้งหมด 6 ถ้วย คาดว่าอีกไม่นานคงทำลายสถิตินี้ได้แน่นอน
คุณ............- คุณพัลลภกำลังพูดถึงทีม "กว่างตง เซาธ์เทิร์น ไทเก้อ" ใช่ไหมครับ เพราะปีหลังๆ มานี้ซิวแชมป์ไปอยู่ทีมเดียว
พัลลภ – ใช่แล้วครับ ถ้าไม่มีทีม "ปายี ร็อกเก็ตส์" มาขวางทางไว้ในฤดูกาลปี 2006 – 2007 ทีมนี้ก็จะสามารถทำสถิติชนะเลิศต่อเนื่องกัน 6 ปีซ้อน ส่วนทีมที่ "เหยาหมิง" เคยสังกัด ซึ่งก็คือ "ซ่างไฮ่ ช้ากส์" สามารถคว้าแชมป์ไปได้ครั้งเดียวในฤดูกาลปี 2001 – 2002 ซึ่งเป็นปีที่กองกลางร่างยักษ์คนนี้ยังเล่นให้กับทีมนี้อยู่นั่นเอง
คุณ............- สำหรับการแข่งขันนั้นนะครับ ทาง "ซีบีเอ" ก็ได้ใช้รูปแบบเช่นเดียวกับ "เอ็นบีเอ" ของอเมริกา คือแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ควอเตอร์ และมีการแข่งแบบเหย้าเยือน
พัลลภ – ปัจจุบันนี้นะครับ แต่ละทีมมีกองเชียร์เป็นของตนเอง ชนิดว่าตามเชียร์ชิดขอบสนามไม่เคยขาด อย่างมีกองเชียร์ของทีม "เป่ยจิง ดักส์" บอกว่า แต่เดิมนั้นพวกเขาและเพื่อนรวมตัวกันได้เพียง 50 คนเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ผู้ที่มาเชียร์ประจำรวมๆ แล้วได้กว่า 300 คน และเป็นกลุ่มที่มีความเหนียวแน่น มีการติดต่อกันด้วยนะครับ พวกเขาบอกกำลังใจจากแฟนสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้เล่น จึงพยายามจัดเวลาให้ว่างเสมอเมื่อมีการแข่งขัน
คุณ............- กองเชียร์ก็มีผลต่อการแข่งขันจริงๆ นะครับ คิดดูสิว่า เราเป็นผู้เล่น ยิ่งเมื่อไปแข่งเป็นทีมเยือน แต่ไม่มีกำลังใจจากกองเชียร์ตัวเองเลย ย่อมไม่มีกำลังใจจะแข่งขันแน่นอน
พัลลภ – โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมเจ้าภาพจงใจเปิดเพลง "ถ่านเท่อ" ซะกระหึ่มขณะที่ทีมเรากำลังชู้ตลูกโทษ เพลงนี้ทำเอาเสียสมาธิและยิ่งหมดกำลังใจไปกันใหญ่เมื่อบวกกับไม่มีแฟนๆ ตามมาเชียร์
คุณ............- คุณพัลลภ ก็ทราบกรณีเรื่องเพลง "ถ่านเท่อ" ด้วย เรื่องนี้ฟังแล้วก็ตลกดี แต่มองในอีกแง่ มันก็เกี่ยวข้องในแง่จิตวิทยาจริงๆ ด้วย แต่พวกกองเชียร์ที่กองร้องโห่ และใช้แท่งลูกโป่งพลาสติกตีเสียงดังและโบกไปมารบกวนสมาธิอยู่หลังแป้นก็จะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาเจอกับเพลงกล่อมประสาทอีก
พัลลภ – เมื่อช่วงต้นปีนี้เองครับ ทางสมาคมบาสเก็ตบอลจีนมีคำสั่งห้าม ดี.เจ.ในสนามเปิดเพลง "ถ่านเท่อ" ซึ่งแปลว่า "กังวลใจ" (忐忑 Tan Te ) ขณะผู้เล่นทีมเยือนกำลังชู้ตหรือบุก
สมาคมฯ อธิบายว่าเพลง "ถ่านเท่อ" นี้ร้องโดย กุง หลินน่า น้กร้องหญิงชื่อดัง บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีหลายชนิด เช่น เซิง ขลุ่ย ไวโอลิน และหยางฉิน ใช้คำร้องของงิ้วจีน มีเนื้อร้องที่จังหวะรวดเร็ว และมีเอกลักษณ์ เสียงของดนตรีและความหมายของเนื้อร้องมีผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้เล่นทีมเยือนเกิดกังวลใจมาก เช่น เมื่อครั้งทีม "เจ้อเจียง เวิร์ลวินด์ส" แข่งกับ "เหลียวหนิง ไดโนซอร์ส" ในฐานะเป็นทีมเยือน ชู้ตตั้ง 80 ครั้ง แต่ลงแค่ 30 ครั้ง ชู้ตลูกโทษทั้งหมด 19 ครั้ง เข้าแค่ 9 ครั้งเท่านั้น หลังการแข่งขัน ผู้เล่นทีมเจ้อเจียงพากันบ่นอุบว่า เพลง "ถ่านเท่อ" ทำให้พวกเขารู้สึกกังวลใจมาก
คุณ............- ผมเองก็เคยฟังเพลงนี้หลายครั้ง ผมพอจะเข้าใจว่าผู้เล่นเหล่านั้นรู้สึกอย่างไร
พัลลภ – แต่คงไม่มีผลกับผม หรือผู้เล่นชาวต่างชาติเป็นแน่ครับ เพราะพวกเราฟังไม่ออก
คุณ............- นั่นน่ะสิครับ มิน่าผู้เล่นชาวต่างชาติจึงทำแต้มได้สูงสุดตลอด
พัลลภ – ครับท่านผู้ฟัง เรื่องผู้เล่น และโค้ชชาวต่างชาติ ในลีก "ซีบีเอ" ก็มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจอีกครับ หลังจากฟังเพลง Neptune Child Demomast ของวง Joyside วงนี้ก็เป็นวงจีนแต่ทำอัลบั้มภาษาอังกฤษเพื่อโกอินเตอร์เช่นกัน และยังคงเป็นจังหวะอินดี้ร็อกเช่นเดิมครับ
พัลลภ – ท่านกำลังรับฟังเรื่องราวน่าสนใจจากเมืองจีนและเพลงจีนใหม่ๆ ในรายการ "มองต่างใจ คนไทยในจีน" กับผม พัลลภ สามสี ที่นี่เอฟเอ็ม 103 ทุกวันจันทร์ อังคาร และพุธ ในเวลาบ่ายๆ เช่นนี้ครับ
วันนี้ผมกำลังนั่งสนทนากับคุณ.....................ถึงเรื่องวงการบาสเก็ตบอลอาชีพของจีนครับ
คุณ............ – ปัจจุบันนี้นะครับระบบสโมสรบาสเก็ตบอลของจีนค่อนข้างเปิดกว้าง แต่เดิมนั้นส่วนใหญ่จะสังกัดอยู่เฉพาะในการสนับสนุนจากรัฐบาลเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้เปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน ซึ่งรวมถึงทุนจากต่างประเทศด้วย สามารถเข้ามาร่วมทุน มีการซื้อตัวผู้เล่น และโค้ชฝีมือดีเข้ามาทำทีมด้วย
พัลลภ – ครับ อย่างทีม "กว่างตง หงหยวน" ปัจจุบันดำเนินการโดยเอกชนอย่างสมบูรณ์และมีความคล่องตัวสูงมาก สามารถแลกเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือซื้อขายกันได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้วงการบาสเก็ตบอลพัฒนาเร็วขึ้น ทั้งในแง่ฝีมือ และค่าตอบแทนของผู้เล่นด้วย พวกเขามีการทำทีมอย่างต่อเนื่อง มีการทำทีมเยาวชน เพื่อเฟ้นหาตัวผู้เล่นดีๆ ขึ้นมาเติมเต็มทีมใหญ่ที่ผู้เล่นอายุมากขึ้น ปัจจุบันนั้นมีนี้มีผู้เล่นอายุเฉลี่ย 22 ปี ส่วนสูงเฉลี่ยรวมกันแล้วอยู่ที่ 1.98 เมตร ทำแต้มเฉลี่ยในแต่ละเกมได้ที่ 115 คะแนน
คุณ............ – อย่างทีม "เป่ยจิง โอลิมเปี้ยน" "เจียงซู ดรากอน" และ "เจ้อเจียง เวิร์ลวินด์ส" ก็มีการจ้างโค้ชมาจากยูโกสลาเวีย เกาหลีใต้ และอเมริกา ตามลำดับ ส่วนผู้เล่นใน "ซีบีเอ" ที่เป็นชาวต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่มาจากประเทศอเมริกา ไนจีเรีย โครเอเทีย ลิทัวเนีย และมาลี เป็นต้น
พัลลภ – ผู้เล่นคนหนึ่งของทีม "กว่างตง วินเนอร์เวย์" กล่าวว่า 7-8 ปีมานี้ผู้เล่นชาวต่างชาติมีบทบาทมากในเกม โดยเฉพาะจอห์นสันนั้นเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งของซีบีเอ"
มีข้อมูลระบุว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้น ทุกทีมในซีบีเอมีการจ้างผู้เล่นชาวต่างชาติเข้ามาร่วมทีมมากกว่า 200 คน พวกเขาสามารถชู้ต 3 คะแนนได้แม่นยำกว่า รวมถึงการส่งลูกให้เพื่อนทำคะแนนได้แม่นยำ อีกทั้งยังอยู่ในลำดับต้นๆ ในการทำคะแนนด้วยการดังก์เสมอมา รวมถึงการรีบาวนด์ หรือแย่งลูกตอนที่ทีมคู่ต่อสู้ชู้ตไม่ลงคืนมาได้ก็ทำได้สูงกว่าผู้เล่นชาวจีน
คุณ............ – นอกจากพึ่งพาความสามารถพิเศษส่วนตัวของผู้เล่นต่างชาติแล้ว ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้โลกเห็นถึงความเป็นลีกบาสเก็ตบอลระดับนานาชาติด้วย จะเห็นได้ว่าประเทศจีนนั้นได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันบาสเก็ตบอลรายการสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งชิงแชมป์สโมสร หรือชิงแชมป์โลกด้วย
พัลลภ – และนอกจากนั้นยังมีผู้ชมจำนวนมากด้วยนะครับ ทุกสโมสรรวมกันแล้วมีแฟนเกิน 100 ล้านคน มีผู้ที่เคยซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันถึง 800,000 คน และมีแฟนทางบ้านที่นั่งเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ชมการถ่ายทอดสดเกินกว่า 600 ล้านคน
คุณ............ – จริงๆ แล้วจำนวนผู้ชมที่ซื้อบัตรเข้ามาเชียร์ในสนามนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่านี้อีกนะครับ ที่อเมริกานั้นมีผู้ชมมากก็เพราะว่าตลอดทั้งฤดูการแข่งขันนั้นในแต่ละเดือนจะมีการแข่งถึง 80 กว่าครั้ง ส่วนของซีบีเอนั้นมีเพียงอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้น
พัลลภ – สำหรับเรื่องนี้นะครับคุณ...............ผมเปิดเจอข่าวดีเกี่ยวกับแผนการฉีดกระตุ้นวงการบาสเก็ตบอลให้มีมาตรฐานเทียบเท่าหรือใกล้เคียงเอ็นบีเอ แผนนี้ชื่อว่า "นอร์ธสตาร์" ครับ โดยยึดเอาเอ็นบีเอเป็นแบบอย่าง ซึ่งจะทำการแบ่งทีมออกเป็นเหนือและใต้ ฝั่งละ 14 ทีม แต่ละทีมจะต้องทำการแข่งขัน 38 ครั้งในหนึงฤดูกาล ซึ่งหมายถึงทุกทีมรวมกันแล้วจะมีการแข่งขันเกิดขึ้นตลอดทั้งปีถึง 266 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 84 นัด พร้อมทั้งมีกฎใหม่ว่า ผู้เล่นชาวต่างชาติ 2 คนจะลงเล่นพร้อมกันไม่ได้ในควอเตอร์เดียวกัน
คุณ............ – เมื่อมีการแข่งขันที่มากครั้งขึ้นขนาดนี้ แต่ละทีมก็ต้องมีผู้เล่นที่มีจำนวนเพียงพอ และมีตัวตายตัวแทนหน้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วยสิครับ แข่งเยอะขนาดนี้ต้องมีบาดเจ็บกันบ้าง
พัลลภ – เรื่องนี้ดูเหมือนว่าทางศูนย์กลางบาสเก็ตบอลแห่งชาติก็ได้เตรียมพร้อมสันับสนุนลีกบาสเก็ตบอลระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย รวมถึง "เอ็นบีแอล" ไว้รองรับในการผลิตผู้เล่นฝีมือดีหน้าใหม่ รวมถึงเฉลี่ยความสูงที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
คุณ............ – เรื่องส่วนสูงนี่สงสัยคงต้องรอลูกชายของเหยาหมิงด้วยมั้งครับ เพราะเห็นหนังสือพิมพ์คาดคะเนกันว่าสูงกว่าแม่แน่นอน และมีความเป็นไปได้ที่จะสูงได้เท่าเหยาหมิงหรือกว่านิดหน่อย
พัลลภ – ถึงตอนนั้น เหยาหมิงคงเป็นโค้ชทีมชาติแล้วมั้งครับ ฮ่า
เดี๋ยวเราพักฟังเพลงสไตล์อินดี้ๆ ร็อกๆ กันอีกสักเพลงนะครับ เดี๋ยวเราจะกลับมาคุยกันถึงเรื่องค่าเหนื่อยของนักกีฬา ซึ่งน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กลับไปฝึก หรือถ้าคิดว่าอายุมากเกินไป ก็สนับสนุนบุตรหลานให้เล่นบาสเก็ตบอลเสียตั้งแต่วันนี้ก็ได้ เพราะผมเห็นตัวเลขแล้วยังอยากเลิกจัดรายการ แล้วไปต่อกระดูกขา กระดูกแขน เพิ่มกล้ามเนื้อไปเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลมืออาชีพเสียจริงๆ
เรามาฟังเพลงของวงสาวๆ วัยรุ่นจีนที่นิยมความดิบของซาวนด์กีต้าร์สไตล์พังก์ร็อก ชื่อวงว่า Queen Sea Big Shark ในเพลงภาษาอังกฤษของพวกเธอ Hard Heart Love Spy ครับ
พัลลภ – ท่านกำลังรับฟังรายการ "มองต่างใจ คนไทยในจีน" กับผม พัลลภ สามสี และคุณ............... วันนี้เราพูดคุยกันถึงเรื่องราวของแวดวงกีฬาบาสเก็ตบอลอาชีพของจีนครับ
คุณ............ – เมื่อสักครู่คุณพัลลภทิ้งประเด็นไว้ที่เรื่องค่าตอบแทนนักกีฬาครับท่านผู้ฟัง อีกทั้งยังคิดจะไปต่อแขนต่อขาไปแข่งคนที่เขาสูงจริง เก่งจริงอีก
พัลลภ – ผมก็ฝันกลางวันไปเท่านั้นแหละครับ คนเราเก่งซะทุกอย่างก็ไม่ต้องอยู่โลกอยู่ในสังคมแล้วล่ะครับ คนมีความสามารถในด้านไหนก็ควรจะได้รับการสนับสนุนและตอบที่สมน้ำสมเนื้อ สมความเหนื่อยจากการฝึกฝนจนได้กลายมาเป็นมืออาชีพ
คุณ............ – ตกลงว่านักบาสมืออาชีพในปัจจุบันเขาควรจะได้ค่าเหนื่อยกันคนละประมาณเท่าไรครับ
พัลลภ – ใจเย็นๆ ครับคุณ...................ก่อนพูดถึงเรื่องรายได้ ผมอยากจะพูดถึงเรื่องหนึ่งเสียก่อน ซึ่งส่งผลถึงค่าเหนื่อยของนักกีฬาด้วย เพราะมีข่าวหนึ่งซึ่งไม่ได้รายงานแพร่หลายนักระบุว่าทางสมาคมบาสเก็ตบอลแห่งประเทศจีนหรือ "ซีบีเอ" ได้ออกกฎในการกำหนดรายได้ของนักกีฬา ซึ่งมีผลมาจากเหตุการณ์ 3 ประการคือ หนึ่ง ไม่สามารถสร้างนักกีฬาจีนที่มีคุณภาพระดับสูงขึ้นมาได้ สอง ไม่ได้พัฒนาเกมการเล่นและสินค้าทางการตลาดได้อย่างที่ควร ทั้งที่มีผู้รักกีฬาชนิดนี้คอยติดตามอยู่จำนวนมาก และสาม สโมสรหลายแห่งไม่มีความมั่นคงทางการเงิน และทำท่าจะล้มละลาย
คุณ............ – ผมเดาว่าทางสมาคมบาสเก็ตบอลแห่งประเทศจีนให้เหตุผลเช่นนี้ น่าจะเป็นการพยายามบีบอัดให้เกิดความเข้มข้น โดยจำกัดรายจ่ายของบางสโมสรที่มือเติบและหวังผลกำไรระยะสั้น โดยไม่ได้มองภาพรวมเป็นแน่
พัลลภ – คือผมว่าทางสมาคมกลัวว่าสโมสรจะเดินไปผิดทาง คือเอาเงินไปทุ่มซื้อตัวผู้เล่นแพงๆ เข้ามา แทนที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นจีนรุ่นใหม่เข้ามา แต่ที่ทางสโมสรคิดอย่างนั้น ก็เพราะว่าในแต่ละเกมนั้นผู้เล่นต่างชาติสามารถทำแต้มคนเดียวได้เฉลี่ยมากถึง 20 ลูก ครองบอลก็ดีกว่า ส่งและประสานงานก็เยี่ยมยอด จึงคิดว่าทุ่มจ้างผู้เล่นต่างชาติในราคาล้านดอลล่าร์ย่อมคุ้มค่ากว่าผลักดันนักกีฬาจีนที่ทำแต้มไม่ได้เลย
คุณ............ – อ๋อ เป็นการคิดกันคนละทางอย่างนี้นี่เอง สโมสรต้องการชัยชนะเท่านั้น ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม เพื่อความอยู่รอดและรายได้ ส่วนทางสมาคมก็คิดว่าที่เปิดโอกาสให้จ้างผู้เล่นชาวต่างชาติเข้ามาร่วมทีมได้นั้น ก็เพื่อให้ผู้เล่นจีนได้มีโอกาสปะทะฝีมือกับผู้เล่นระดับโลก จะได้พัฒนาฝีมือของนักกีฬาจีน ซึ่งก็หมายถึงนักกีฬาทีมชาติในอนาคตด้วย อย่างนี้ใช่ไหมครับคุณพัลลภ
พัลลภ – ใช่ครับ ผมว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ก็กำหนดเรื่องการลงสนามของผู้เล่นชาวต่างชาติไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะคนเก่งเพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงใช้มาตรการเรื่องเงิน ซึ่งจำกัดการเอาเงินไปทุ่มให้ต่างชาติของสโมสรได้แน่นอน เพราะได้ออกมากำหนดชัดเจนว่า ให้สโมสรว่าจ้างนักกีฬาต่างชาติได้ไม่เกินเดือนละ 30,000 ดอลล่าร์สหรัฐ และแต่ละเดือนให้จ่ายให้ชาวต่างชาติได้ไม่เกิน 60,000 ดอลล่าร์สหรัฐ
คุณ............ – นั่นก็เท่ากับว่าจ้างคนเจ๋งๆ เข้าร่วมทีมได้เพียงแค่สองคนเท่านั้นเองสิครับ และต้องเป็นผู้เล่นเจ๋งๆ ที่รับกับรายได้เพียงเท่านี้ได้ด้วยนะครับ
พัลลภ – ใช่ครับ บังคับกันแบบนี้เลย นอกจากนี้ ยังระบุไปถึงนักกีฬาบาสเก็ตบอลจีนเองด้วยว่าต้องมีรายได้จากการเล่นอาชีพไม่เกิน 300,000 ต่อปี ซึ่งก่อนหน้านี้มีการสำรวจพบว่า รายได้ของทั้งผู้ฝึกสอนและผู้เล่นเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 500,000 หยวนต่อปี ไม่นับผู้เล่นจีนที่ไปเล่นในเอ็นบีเอ อีกทั้งยังโยงไปถึงทีมชาติด้วยว่าทุกคนในทีมต้องมีรายได้ไม่เกิน 1 ล้านหยวนต่อปี ซึ่งผมคาดเดาเอาเองนะครับว่า มาตรการนี้คงกำหนดขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้สโมสรที่ง่อนแง่นล้มละลายไปกับการทุ่มจ่ายค่าตัวนักกีฬา และป้องกันแวดวงการพนันไม่ให้เข้ามาพัวพันกับนักกีฬา
คุณ............ – นโยบายนี้ก็แปลกๆ นะครับ โอเคว่าอาจจะป้องกันเรื่องการเกี่ยวพันกับการพนันและการล้มบอลได้ แต่ก็เป็นการลดแรงจูงใจของนักกีฬาในการพัฒนาตนด้วย เพราะทุกคนที่เข้ามาเล่นอาชีพ ก็เพื่อที่จะทำผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อค่าเหนื่อยที่เพิ่มมากขึ้นตามระดับฝีมือ
พัลลภ – ก่อนหน้านี้ "ซีบีเอ" บอกว่าจะจัดลีกบาสเก็ตบอลอาชีพของจีนให้เป็นที่นิยมและมีระดับที่สูงเทียบเท่า "เอ็นบีเอ" หรือไม่ก็ใกล้เคียง แต่นโยบายนี้กลับสวนทาง ทั้งในการพัฒนาโดยรวม และไม่เหมือนรูปแบบของเอ็นบีเออย่างสิ้นเชิง เพราะเอ็นบีเอเน้นที่ผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์ ใครก็ได้ที่เก่ง ก็พร้อมเสมอที่จะซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม แต่ทาง "ซีบีเอ" กลับเน้นให้พัฒนาความเป็นทีมเวิร์ก ให้ทุกคนมีรายได้ไม่ต่างกันมากนัก เพื่อที่จะได้กระตุ้นให้เกิดความสามัคคีในความเท่าเทียมกัน
ฟังดูแล้วเหมือนเป็นนโยบายการเมือง มากกว่าการพัฒนาวงการกีฬาอาชีพ
คุณ............ – ผมว่าอีกไม่นานสมาคมน่าจะต้องอ่อนข้อลงมาบ้าง เพราะว่าหลายทีมได้พัฒนามาไกลจนเลยขีดของการล้มละลายไปแล้ว และการมาตั้งเพดานเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อวงการบาสเก็ตบอลจีนที่กำลังไปโลด
พัลลภ – คงต้องดูกันต่อไปอีกเรื่อยๆ แหละครับ อย่างน้อยผมก็ดูทางโทรทัศน์ถ้าหมุนไปเจอพอดี
นี่คือเรื่องราวของแวดวงบาสเก็ตบอลของจีนครับ
ตอนนี้เวลาเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้วครับ
ขอบคุณท่านผู้ฟังแฟนรายการ "มองต่างใจ คนไทยในจีน" ทางคลื่นเอฟเอ็ม 103 แห่งนี้ครับ วันนี้ผมและคุณ.....................ขอลาไปก่อน
สวัสดีครับ
คุณ............ – สวัสดีครับ