ในประเทศจีน ผู้คนมักจะถือความสุขเป็นเลข 1 ที่วางไว้ข้างหน้า และถือบ้าน เงินทองและรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นเลข 0 ที่อยู่พ่วงท้าย ถ้าหากไม่มีเลข 1 ที่อยู่ข้างหน้า เลข 0 ที่ตามอยู่หลังก็จะไร้ความหมาย แต่ปัจจุบัน สังคมจีนมีการแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น เด็กนักเรียนประถมและมัธยมก็เผชิญกับแรงกดดันค่อนข้างมาก มีบางคนแต่บทความเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันของเด็กนักเรียนจีนว่า "กระเป๋าหนังสือหนักขึ้น เวลาเล่นน้อยลง แรกกดดันจากการเรียนหนักยิ่งขึ้น ความสุขในใจน้อยลงเรื่อยๆ "

เพราะในประเทศจีน ผู้คนมักจะมีความคิดเห็นว่า นักเรียนที่ได้คะแนนสอบยิ่งสูงยิ่งดี พ่อแม่ผู้ปกครองมักหวังว่า ในอนาคต "ลูกของตนจะสามารถกลายเป็นมังกรหรือหงส์" หรือแปลว่าบุคคลดีเด่นก็ได้ เมื่อเห็นลูกไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ไปเล่นอย่างอื่นหรือฝึกกีฬา ผุ้ปกครองก็เกิดความรู้สึกไม่กังวล

คนรุ่นเก่ายังจำได้ว่า เมื่อก่อนหรือหลายสิบปีก่อนการปฏิรูปและเปิดประเทศ เศรษฐกิจจีนยังไม่พัฒนา ขาดแคลนวัตถุสิ่งของและอาหารการกิน เด็กส่วนใหญ่มักจะได้อาหารไม่ค่อยครบถ้วน แต่พวกเขามีเวลาเล่นเต็มที่ อย่างเช่นว่ายน้ำในแม่น้ำ ปีนต้นไม้เพื่อเก็บผลไม้ และการละเล่นของเด็กชนิดต่างๆ ที่ำทำให้สนุกสนานกัน และร่างกายก็แข็งแรง แต่ในปัจจุบัน แม้ว่าชาวจีนรวยขึ้น มีสินค้าเต็มตลาด เด็กในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน แต่มีการบ้านหนักมาก ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน พ่อแม่ก็ควบคุมอย่างเข้มงวด ทำให้เด็กออกไปไหนไม่ค่อยได้ เวลาว่างก็มีแต่เล่นเกมส์ออนไลน์เท่านั้น

ปัจจุบัน ชาวจีนส่วนหนึ่งเริ่มมีเสียงสะท้อนว่า ต้องคืนสุขภาพและความสุขให้กับเด็กๆ รัฐบาล โรงเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครองต้องพิจารณาและปรับปรุงค่านิยม มาตรฐานการประเมินผลและวิธีการเรียนการสอนที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างเช่นค่านิยมที่ถือการเรียนหนังสือเป็นสิ่งสูงส่ง ถือคะแนนสอบเป็นมาตรฐานตายตัวในการประเมินผลการเรียน จึงแย่งเวลาการฝึกซ้อมการเล่นกีฬาของเด็กให้น้อยลง ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจจะได้เด็กที่มีผลการเรียนสูง แต่ทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนแอ พวกเขาจะสามารถหาความสุขตลอดชีวิตได้อย่างไง

(In/Lin)