หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารเก๋ๆ สังสรรค์กับเพื่อนที่ไม่ซ้ำใคร เฟิงปัวจวัง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ต้องลอง
วันนี้ขอแนะนำร้านอาหาร 风波庄 (เฟิงปัวจวัง) เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์ย้อนยุคสู่ยุทธจักร โดยมีร้านใหญ่อยู่ที่มณฑลอานฮุยของจีน ที่กรุงปักกิ่งมี 9 สาขาด้วยกัน จะขอแนะนำสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานีวิทยุซีอาร์ไอในเขตสือจิ่งซานของปักกิ่ง ลงรถไฟใต้ดินที่สถานีกู่เฉิง ออกจากทางออกบี เดินไปทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตร และเลี้ยวซ้ายก็เจอแล้ว
ภายนอกของตัวร้านตกแต่งด้วยไม้สีเหลืองทั้งหมด เสหมือนกับร้านอาหารเล็กๆ ที่มักจะได้เห็นในหนังกังฟูจีนเปี๊ยบ หน้าประตูมีโคมไฟสีแดง สองข้างของประตูมีคำกลอนคู่ทำด้วยไม้ทาเป็นสีดำ และเขียนคำกลอนด้วยสีทองว่า คนในยุทธจักร ไม่เป็นตัวของตัวเอง ส่วนเหนือประตูเป็นป้ายที่เขียนว่า เฟิงปัวจวัง ซึ่งก็เป็นชื่อของร้าน แปลว่า ร้านแห่งความวุ่นวาย โดยความวุ่นวายนี้หมายถึงความวุ่นวายในยุทธจักรนั่นเอง ส่วนบรรยากาศภายในร้าน เป็นสไตล์ที่ดูเป็นเอกลักษณ์มาก ตกแต่งด้วยไม้เหมือนร้านอาหารเล็กๆ ในหนังกังฟูย้อนยุคเลย บนผนังมีภาพเขียนคำภีร์กังฟู และคำแนะนำของสำนักกังฟูต่างๆ แขวนกระบี่และดาบไว้ด้วย เขียนว่า เป็นกระบี่ฟ้าและดาบมังกร โคมไฟระย้าทำด้วยไม้และกระดาษ โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมสีน้ำตาลเข้ม ส่วนเก้าอี้ไม่เหมือนเก้าอี้ในร้านอาหารทั่วๆ ไป เป็นม้านั่งต่างหาก นอกจากนี้แล้ว แผ่นเสียงที่เปิดไว้ในร้านเป็นเพลงเก่าๆ เรื่องกังฟูกันหมด ทำให้ลูกค้าซึมซับบรรยากาศในยุทธจักรได้เป็นอย่างดี อ้อ ใช่แล้ว ที่นี่ไม่มี "ลูกค้า" เลย เพราะทุกคนที่ไปกินข้าวที่นี่ ล้วนเป็น "จอมยุทธ์" กันหมด ถ้าเป็นผู้หญิง ทางร้านจะเรียกคุณว่า จอมยุทธ์หญิง ส่วนเด็กเสริฟก็แต่งตัวแบบโบราณด้วย และให้เรียกว่า เสี่ยวเอ้อร์ ซึ่งเป็นคำเรียกเด็กเสริฟในสมัยโบราณ
และแน่นอนว่า พวกถ้วย จาน ชาม และถ้วยเหล้า (ร้านนี้ไม่มีแก้ว เพราะสมัยโบราณก็ไม่มี) เป็นสไตล์โบราณและดูเก่าๆ ด้วย บางทีถ้วยเหล่านี้อาจจะบิ่นนิดๆ หน่อยๆ ถ้าให้ "เสี่ยวเอ้อร์" มาเปลี่ยนถ้วยใหม่ เขาจะปฏิเสธทันทีด้วยคำตอบว่า "ในยุทธจักร เป็นเรื่องธรรมดาที่จะบาดเจ็บ" แหม เป็นคำตอบที่ปฏิเสธได้ยากเชียว ไม่ใช่หรือ
ถ้าพูดถึงสิ่งที่ "จอมยุทธ" ติดใจร้านนี้มากที่สุด ย่อมต้องเป็นการพูดจาและชื่ออาหาร รวมทั้งวิธีสั่งอาหารด้วย
เมื่อเดินเข้าสู่ร้าน เสี่ยวเอ้อร์จะกุมมือคาระวะ พร้อมทักทายว่า เชิญจอมยุทธเข้ามาในห้อง เสร็จแล้วจะพาไปยังโต๊ะว่าง แต่ละโต๊ะในร้านนี้มาจากสำนักต่างกัน เช่นสำนักเส้าหลิน สำนักซงซาน สำนักเอ๋อร์เหมย สำนักอู่ตัง เป็นต้น ในข้างหนึ่งของโต๊ะแต่ละใบ มีป้ายชื่อของหัวหน้าสำนักด้วย ใครนั่งที่นั่งข้างนี้จะเป็นหัวหน้าสำนักหรือหัวหน้าโต๊ะ ต่อมานั่งเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเอ้อร์จะมา "แข่งกังฟู" หมายถึง มาช่วยสั่งอาหาร โดยเขาจะถามตรงๆ ว่า ท่านจอมยุทธมีอะไรไม่กินบ้างไหม เพราะเหมือนกับในหนังกังฟูว่า ร้านอาหารนี้ไม่มีเมนูให้อ่าน เสี่ยวเอ้อร์จะช่วยสั่งอาหารตามจำนวนคนที่ไปกินข้าว อาหารที่เขาเสริฟมา ถ้าคุณไม่ชอบ อย่าพึ่งชิม เพราะให้เสี่ยวเอ้อร์เปลี่ยนจานอื่นได้ และเวลาเปลี่ยนจาน เขาจะพูดว่า "พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล" ถ้าคุณพูดขอบคุณ เขาจะตอบว่า "ใช้ชีวิตในยุทธจักร ไม่ต้องถือสามาก" แค่ฟังก็สนุกแล้วค่ะ
จานแรกของทุกโต๊ะเป็น "ต้าลี่หวัน" หรือยาลูกชิ้นช่วยฝึกกังฟู ที่มักจะพูดถึงในนิยายกังฟูจีน แต่ที่เสริฟมานี่ไม่ใช่ยาตัวจริงแน่นอน เป็นลูกชิ้นเนื้อหมูนึ่งต่างหาก ข้างนอกเป็นข้าวเหนียว ส่วนข้างในเป็นไข่เค็ม ทานคนละลูกเดียวเท่านั้น เพราะในนิยายกำลังภายในห้ามทานเยอะ
กินข้าวที่นี่จะไม่เรียกว่ากินข้าวนะคะ เขาจะให้เรียกว่า ฝึกกังฟู ส่วนใหญ่ชื่ออาหารตั้งตามชื่อพลังกังฟูกันหมด เช่น พลังเก้าหยาง คัมภีร์เก้าอิม คัมภีร์สาวหยก ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า ฝ่ามือละลายกระดูก เป็นต้น ส่วนข้าวสวยเรียกว่า ข้าววิญญาณสลาย ในร้านนี้ กินไปฝึกกังฟูไป ไม่ทราบว่า ถ้ากิน "พลังเก้าหยาง" กับ "คัมภีร์เก้าอิม" ด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้นนะ
เวลากินข้าว ถ้าให้เสี่ยวเอ้อร์เอาไม้จิ้มฟันมา เขาจะนำมาพร้อมพูดว่า "เดินทางในยุทธจักร์ ต้องระวังอาวุธลับ" เพราะไม้จิ้มฟันที่นี่จะเรียกว่า มีดซัดดอกเหมย และขณะคุณรับ "มีดซัด" มา เขาจะพูดอีกว่า "อี๋ฮวาเจียมู่" ซึ่งเป็นกังฟูของนางเฒ่าทาริกาเทียนชัวในนิยายเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า ซึ่งชื่อพลังกังฟูนี้แปลว่า ตัดดอกไม้ไปเชื่อมต่อต้นไม้ นอกจากนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในร้านนี้มีชื่อของตัวเองไปหมด เช่น ช้อนเรียกว่า มีดบินของลี้น้อย ตะเกียบเรียกว่า กระบองสองท่อน และที่ตลกที่สุดคือ ทิชชู่จะเรียกว่าผ้าขี้ริ้ว แหม เรียกอย่างนี้คุณจะกล้าใช้ไหมละคะ
นอกจากอาหารต่างๆ แล้ว ร้านอาหารนี้ยังหมักเหล้าเองไว้บริการ และเวลาดื่ม ต้องใช้ถ้วยใหญ่ด้วย
เวลากินข้าว อ้อ ไม่ใช่ ต้องพูดว่า เวลาฝึกกังฟู บางทีเสี่ยวเอ้อร์อาจจะมาขอท้าประลองกังฟูกับหัวหน้าสำนัก โดยเขาทางร้านจะนำลูกเต๋ามาเล่นด้วยกัน ถ้าคุณชนะ ทางร้านจะลดราคาอาหารให้ แต่จริงๆ แล้ว ราคาอาหารที่นี่ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เพราะถูกกว่าร้านอาหารใหญ่ทั่วๆ ไป และกินเสร็จแล้วจะให้คูปองด้วย พร้อมยังมอบคัมภีร์พลังกังฟูให้ด้วย โต๊ะละหนึ่งเล่ม
เวลาออกจากประตูร้าน เสี่ยวเอ้อร์ทุกคนจะพูดพร้อมกันว่า "ชิงซานปู้ไก่ ลวี่สุ่ยฉางหลิว โฮ่วฮุ่ยโหย่วชี" ซึ่งแปลว่า ภูเขาสีเขียวจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง สายน้ำสีครามเข้มจะไม่มีวันหยุดไหล แล้ววันหน้าเราค่อยพบกันใหม่
ฮ่าๆ เป็นไงบ้างคะ ร้านอาหารเฟิงปัวจวังถูกใจคุณหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวปักกิ่ง อย่าลืมแวะไปท่องยุทธจักร์ที่นี่บ้างนะคะ
Ying/Ldan