ปีหลังๆ นี้ เพื่อส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ รัฐบาลจีนตั้งใจที่จะให้ประชาชนทั่วไปมีเวลาว่างมากขึ้น ให้ความสะดวกที่จะไปจัยจ่ายใช้สอย ไปท่องเที่ยวไปซื้อของ เพื่อมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ จึงมีการกำหนดวันหยุดยาวหลายช่วง เช่นวันตรุษจีน ก็มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน เป็นช่วงสำคัญช่วงหนึ่ง

และช่วงวันชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวสำคัญอีกช่วงหนึ่ง ชาวจีนทั่วไปจะได้พักผ่อน 7 วัน ทางการจึงเรียกช่วงนี้ว่า "สัปดาห์ทอง" หมายความว่า ช่วงเวลา 7 วันนี้ ทั่วประเทศจะมีการบริโภคเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อย่างเช่น ช่วงวันหยุดยาวฉลองวันชาติจีน คือวันที่ 1 ตุลาคมที่พึ่งผ่านไปไม่นานนี้ ชาวจีนได้ออกจากบ้านไปท่องเที่ยวต่างถิ่นหรือต่างประเทศกว่า 300 ล้านคน ทำให้ยอดการค้าปลีกของห้างร้านและการจำหน่ายอาหารเพิ่มขึ้นประมาณ 700,000 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500,000 ล้านบาท

ช่วงสัปดาห์ทอง ที่นครเซี่ยงไฮ้ รายได้ของร้านอาหารต่างๆ เพิ่มขึ้น 1,013 ล้านหยวนต่อวัน ที่เมืองหางโจว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้รับนักท่องเที่ยวประมาณ 15 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 6,320 ล้านหยวน

ส่วนเมืองสำคัญอื่นๆ ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน อาทิ กรุงปักกิ่ง สถานที่ท่องเที่ยวสำึคัญหลายแห่ง เมื่อเข้าไปแล้วเห็นหัวคนเต็มไปหมด ทำให้สถานที่บางแห่ง อาทิ พระราชวังโบราณกู้กง ต้องมีการจำกัดคนเข้าชมไม่เกิน 8 หมื่นคนในแต่ละวัน ส่วนจัตุรัสเทียนอันเหมินในช่วงนี้ได้รับรองนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชากรจีนที่มีจำนวนกว่า 1 ,300 ล้านคน นอกจาก 300 ล้านคนไปท่องเที่ยวต่างถิ่นหรือต่างประเทศแล้ว ยังมีอีก 1,000 ล้านคนที่ไม่ได้เดินทางไกล ผู้คนกลุ่มนี้ มักจะมีวิธีพักผ่อนช่วงวันหยุด

สถิติของหนังสือพิมพ์การกีฬาจีนแสดงให้เห็นว่า ช่วงวันหยุดยาว มีผู้คนกลุ่มหนึ่งเลือกกีฬากลางแจ้งเป็นรูปแบบการพักผ่อนหย่อนใจอย่างสบายๆ ซึ่งกีฬาไต่เขา ตกปลาและปั่นจักรยานเป็นที่ค่อนข้างนิยมกัน

อย่างเช่น วันที่ 5 ตุลาคมพอดีเป็น วันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ตามจันทรคดิจีน ซึ่งเป็นเทศกาล ฉงหยาง หรือเทศกาลไต่เขาและแสดงความเคารพผู้สูงอายุ ช่วงนี้อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะสำหรับการเดินทาง ชาวปักกิ่งจึงพากันนัดกันไปไต่เขากัน ชมวิวสวยงามช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทั้งได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลายจิตใจที่เหนื่อยหนักเคร่งเครียด

ที่เมืองกว่างโจวทางภาคใต้ของจีน และเมืองชิงเต่าทางตะวันออกของจีน กีฬาตกปลาริมทะเลเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเลือกกีฬาชนิดนี้ มีข้อดีหลายอย่างคือ ไม่ต้องไปชนกับนักท่องเที่ยวที่เบียดกันในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สามารถนำสมาชิกครอบครัวไปพร้อมกัน เดินทางไปอย่างสบายๆ การตกปลาและชมวิวทะเล เป็นวิธีการพักผ่อนหย่อนใจที่ดีอีกอย่างหนึ่งแน่นอน

นอกจากนั้น กีฬาปั่นจักรยาน เป็นกีฬาที่อนุรักษ์สิ่งอวดล้อม ปีหลังๆ นี้ก็ได้รับความนิยมจากชาวจีนมากขึ้น โดยเฉพาะการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบหรือขึ้นเขา เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นจำนวนมาก ช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน ที่กรุงปักกิ่ง มีแฟนกีฬาปั่นจักรยาน นัดกันขี่จักรยานไปขึ้นเขาหรือรอบภูเขาโดยผ่านอินเตอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยทีเดียว บางกลุ่มนัดกันไปท่องรอบภูเขาชานเมือง บางกลุ่มนัดกันปั่นทางไกลถึงหลายพันกิโลเมตรก็มี เช่นที่ทะเลสาบชิงไห่ทางภาคตะัวันตกของจีน หรือรอบเกาะไหหลำที่อยู่ทางภาคใต้ของจีน

ช่วงวันหยุดยาว ชาวจีนบางคนรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ สาเหตุที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยคงไม่เหมือนกัน บางคนต้องสังสรรค์กับเพื่อนเกา่หลายรอบจึงรู้สึกเหนื่อย มีสาวแซ่หยางคนหนึ่ง บ้านอยู่ที่เมืองหยางโจวมณฑลเจียงซูทางภาคตะวันออกของจีน เธอเขียนในบล็อกทางเว็บไซต์กว่า หลายวันที่ผ่านมา ต้องสังสรรค์กับเพื่อนเก่าทุกวัน คือวันที่ 3 ตุลาคม พบกับเพื่อนสนิทที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นทางภาคกลาง ตอนบ่ายพบกับเพื่อนเก่าจากมหาวิทยาลัยที่เดินทางมาจากเมืองหนานจิง วันที่ 4 ตุลาคม พบกับเพื่อนสมัยมัธยมต้นที่เดินทางมากจากนครเทียนสินทางภาคเหนือ นอกจากนั้นมีงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนสนิทสมัยเด็ก วันที่ 5 ตุลาคมมีงานเลี้ยงกระชับมิตรกับเพื่อนสมัยเรียนประถม ส่วนวันที่ 6 ต้องไปสังสรรค์เพื่อนที่กลับมาบ้านเกิด ตอนเย็นต้องส่งเพื่อนนักศึกษาปริญาโทขึ้นรถไฟไปกรุงปักกิ่ง

สรุปแล้วช่วงวันหยุดยาววันชาติปีนี้ เธอเกือบไม่มีเวลาพักผ่อนจริงๆ นอกจากต้องสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องหลายรอบ การกินเลี้่ยงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สมัยก่อน เมื่อประเทศจีนยังยากจน ผู้คนกลัวแต่ความหิวโหย เมื่อมีโอกาสไปกินเลี้ยงสักมื้อก็รู้สึกดีใจมาก แต่ปัจจุบัน อาหารการกินคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับชาวจีนทั่วไป โดยเฉพาะในเมือง เห็นคนอ้วนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพราะมีโอกาสกินดี ทำให้อาหารเหลือกิน จึงต้องพยายามหาทางลดความอ้วน หรือไม่ค่อยอยากกินเลี้่ยงแบบเอาจริงเอาจังเท่าไหร่แล้ว

สาวแซ่หวางคนหนึ่งทำงานในกรุงปักกิ่ง บ้านเกิดอยู่ที่เมืองสวีโจว ทางภาคตะวันออก เธอบอกกับผู้สื่อข่าวว่า "ปีนี้ฉันพึ่งทำงานเป็นปีแรก เพราะไม่ไ้ด้อยู่บ้าน ปกติจึงกินของง่ายๆ แต่พอวันชาติกลับบ้าน คนในบ้านบอกว่าฉันผอมลง จึงให้ฉันกินอาหารดีๆ ทุกวัน ทุกมื้อต้องมีปลามีหมู เธอเองก็กินอย่างเพลิดเพลิน และไม่ออกกำลังกายใดๆ พอกลับปักกิ่งไปชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าอ้วนขึ้นมาก เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบอ้วน เลยต้องวางแผนออกกำลังกายลดความอ้วนหลังวันหยุดยาว"

นายเฉินเป็นชาวปักกิ่ง เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนวันหยุดยาว ผมก็ได้วางแผนออกกำลังกายเต็มที่ ถือว่าเป็นการชาร์จไฟให้ร่างกาย เพื่อมีแรงทำงานหลังวันหยุด ทีแรกยังคิดว่าจะขับรถพาแฟนไปเที่ยว แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่สถาท่องเที่ยวต่างๆ อาจจะมีแต่หัวคนเต็มไปหมด เขาก็เลิกแผนท่องเที่ยว และพาแฟนไปเล่นแบดมินตันทุกวัน หลังจากออกกำลังกายแล้ว รู้สึกสดชื่น และสบายกาย ทานข้าวอร่อยด้วย เมื่อเห็นโทรทัศน์รายงานข่าวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำถูกแล้ว

ส่วนทางการท้องที่ต่างๆ ก็ได้ใช้มาตรการส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายมากขึ้น อย่างเช่นเมืองหางโจว เมืองเอกมณฑลเจ้อเจียง ทางการได้เปิดศูนย์ออกกำลังกายสำหรับประชาชนทั่วไปของมณฑล เปิดให้ชาวเมืองเข้าไปเล่นกีฬาฟรี 3 วัน ศูนย์กีฬานี้อยู่ย่านใจกลางเมือง รวมถึงสนามฟุตบอล 2 แห่ง สนามบาสเกตบอล 6 แห่ง สนามวอลเลย์บอล 2 แห่ง โต๊ะปิงปอง 4 โต๊ะ ช่วงวันหยุดยาวมีแฟนกีฬาเข้าไปเล่นเต็มไปหมด นอกจากนั้น ยังมีการเปิดชั้นฝึกอบรมสอนเล่นแบดมินตันและเทนนิสฟรีด้วย ซึ่งล้วนได้รับความสนใจจากชาวเมืองอย่างมาก

ที่เมืองฉางซาเมืองเอกของมณฑลหูหนาน ระหว่างวันที่ 4 – 7 ตุลาคมที่ผ่่านมา ทางการมีการจัดนิทรรศการและการแข่งขันกีฬาประชาชนของมณฑลหูนานครั้งที่ 2 ซึ่งนับเป็นนิทรรศการที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงผลการส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับประชาชนทั่วไป รายการแสดงหรือการแข่งขันที่จัดขึ้นในงาน ล้วนเป็นรายการที่ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไป และใครๆ ก็เล่นได้ อาทิ กีฬาลิลาศ แอโบบิก โป๊กเกอร์ เต้น Hip – hop ริมถนน กระทั่งกีฬาปีนหน้าผา เป็นต้น มีแฟนกีฬาจำนวนกว่า 5,000 คนจาก 14 เมืองมาเข้าร่วมงาน รวมถึงผู้ชมกว่าหมื่นคนมาร่วมสนุกสนานกับงานนี้

(Yin/Lin)