วันที่ 12 กรกฏาคมนี้ การเลือกตั้งของวุฒิสภาญี่ปุ่้นไดประกาศผลแล้ว พรรคเสรีประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้ที่นั่งเพียง49ที่นั่งเท่านั้น พรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด ได้ที่นั่ง50ที่นั่ง นับเป็นพรรคที่ได้ที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคโคเมยิ พรรคคอมมิวนิสต์ พรรคสังคมประชาธิปไตย และบุคคลที่ไม่สังกัดพรรครวมแล้วได้รับ22ที่นั่ง
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวปรากฏว่า สองพรรคใหญ่เป็น แกนนำทางการเมืองนั้นมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และได้ส่งสัญญาณแก่รัฐบาลของนายจุนิชิโร โคอิซูมิอย่างแรงกล้าว่า ต้องเปลี่ยนนโยบาย
ในการเลือกตั้งของวุฒิสภาญี่ปุ่นครั้งนี้ พรรคเสรีประชาธิปไตยไม่สามารถคงไว้ซึ่ง51ที่นั่งในอดีต แต่เนื่องจากพรรคเสรีประชาธิปไตยกับพรรคโคเมยิได้รับที่นั่งรวม60ที่นั่ง และบวกกับ79ที่นั่งเดิมของสองพรรค จำนวนที่นั่งของพรรครัฐบาลยังได้เกิืนครึ่งหนึ่งของที่นั่งทั้งหมดของวุฒิสภา242ที่นั่ง ดังนั้น นายจุนิชิโร โคอิซูมิก็สามารถคุมอำนาจรัฐต่อไปได้
ชื่อมวลชนเห็นว่า การที่พรรคเสรีประชาธิปไตยประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญ3ประการ
ประการแรก การปฏิรูปโครงสร้างที่นายจุนิชิโร โคอิซูมิ เสนอขึ้นนั้น ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ความรู้สึกผิดหวัง ของประชาชนญี่ปุ่นนับวันได้เพิ่มมากขึ้น
ประการที่สองคือ ประชาชนคัดค้านกฏหมายว่าด้วยการปฏิรูปนโยบายบำเหน็จบำนาญที่รัฐบาลได้บังคับผ่านในรัฐสภาเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมๆกับอายุเฉลี่ยของประชาชนญี่ปุ่นสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาสังคมผู้สงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การปฏิรูปนโยบายบำเหน็จบำนาญจึงกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลนายจุนิชิโร โคอิซูมิต้องเผชิญอยู่ แต่มาตรการต่างๆในการปฏิรูปที่รัฐบาลเสนอขึ้นได้ สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มวิสาหกิจขนาดใหญ่ ส่วนประชาชนอันไพศาลต้องยอมรับความเสียหายจากการลด สวัสติการและการว่างงาน และสูญเสียผลประโยชน์ส่วนตัวมากมาย ขณะเดียวกัน ข่าวฉาวโฉ่ที่บุคคลสำคัญทางการเมืองญี่ปุ่น ปฏิเสธจ่ายเบี้ยประกันเป็นเวลานานถูกตีแผ่บ่อยครั้ง เป็นเหตุให้ประชาชนญี่ปุ่นเกิดความไม่พอใจอย่างยิ่ง
ประการที่สาม การตกลงของรัฐบาลของนายจุนิชิโร โคอิซูมิที่จะส่งกองกำลังป้องกันประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมกองทหารนานาชาติ หลังจากสหรัฐถ่ายโอนอำนาจแก่อิรักแล้วนั้น ได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนทั่วไป หลังจากนายจุนิชิโร โคอิซูมิเข้าดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว ได้ติดตามสหรัฐอเมริกาในด้านนโยบายทางการทูตตลอดมา หลังจากเหตุการณ์11 กันยาเกิดขึ้นแล้ว ญี่ปุ่นได้ถือโอกาสที่สหรัฐปราบปรามการก่อการร้ายได้ผ่านมติเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารต่อต่างประเทศหลายฉบับ โดยได้ขจัดอุปสรรคสำคัญในการส่งกำลังทหารไปต่างประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ ญี่ปุ่นได้มีการตกลงอย่างเป็นทางการ ที่จะส่งกองกำลังป้องกันประเทศไปอิรักเพื่อเข้าร่วมกองทหารนานาชาติ หลังจากการถ่ายโอนอำนาจรัฐแก่อิรักแล้ว การตกลงดังกล่าว ได้ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญสันติภาพญี่ปุ่นประการที่9 จึงได้ประสบความคัดค้านจากประชาชนและพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นอย่างรุนแรง
|