China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2004-10-26 16:50:31    
คำมั่นค่าพันตำลึงทอง

cri

 

ในปลายสมัยราชวงศ์ฉิน ที่รัฐฉู่มีชายผู้หนึ่งชื่อจี้ปู้ เขาเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ มีความยุติธรรมและมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ขอแต่ให้เป็นเรื่องที่เขารับปากว่าจะช่วยแล้ว ต่อให้มีความลำบากยากเข็ญเพียงใด เขาก็จะพยายามทำให้บรรลุผลจนได้ ดังนั้น เขาจึงได้รับการยกย่องชมเชยไปทั่ว.

ในสมัยที่ชาวฉู่กับชาวฮั่นแย่งชิงความเป็นใหญ่กันนั้น จี้ปู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเซี่ยงอวี่ เขาเคยช่วยเซี่ยงอวี่วางแผนกลอุบายหลายครั้ง ทำให้กองทัพของหลิวปังต้องรบพ่ายไป. หลังจากหลิวปังตั้งตนเป็นจักรพรรดิ์แล้ว ยามใดที่นึกถึงเหตุการณ์นี้ ก็ให้รู้สึกเคียดแค้นใจยิ่ง จึงมีคำสั่งให้จับตัวจี้ปู้.

ยามนี้ ผู้คนที่มีความเคารพนับถือในตัวจี้ปู้นั้นต่างแอบคอยช่วยเหลือเขา. ต่อมาไม่นาน จี้ปู้ได้ปลอมแปลงตัวเดินทางไปซันตุงโดยไปเป็นลูกจ้างของบ้านตระกูลจูุบ้านหนึ่ง ครอบครัวตระกูลจูทั้งๆที่รู้ว่าเขาคือจี้ปู้ แต่ก็ยังคงรับเขาไว้. ต่อมาคนในบ้านตระกูลจูได้เดินทางลั่วหยางโดยไปหาเพื่อนเก่าแก่ของหลิวปัง ขอให้เขาไปช่วยพูดขอความเห็นใจกับหลิวปัง. เพื่อนหลิวปังผู้นี้ได้ช่วยนำความดีของจี้ปู้ไปกราบทูลต่อหลิวปัง ซึ่งชิงบัลลังก์ฉินได้สำเร็จ และตั้งตนเป็นพระเจ้าฮั่นเกาจู่ว่า "อันจี้ปู้ผู้นี้ แม้จะเป็นแม่ทัพฝ่ายศัตรู แต่ก็ทำไปโดยหน้าที่ข้อสำคัญคือเป็นคนดี ซึ่งหาได้ยาก.

หลิวปังหรือพระเจ้าฮั่นเกาจู่จึงนิรโทษกรรมแก่จี้ปู้ พร้อมทั้งแต่งตั้งให้เป็นขุนนางโทและต่อมาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นข้าหลวงเหอตง.

มีชายคนหนึ่งชื่อเฉาชิวเซิงเป็นคนพื้นแพเดียวกับจี้ปู้ เป็นผู้ที่ชอบคบหาผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ไว้ประดับบารมีของตน. ในยามนี้เมื่อเขาได้ยินว่าจี้ปู้เป็นขุนนางใหญ่ ก็ขอให้คนที่คุ้นเคยกับจี้ปู้เขียน จดหมายแนะนำตัวให้. เมื่อจี้ปู้เห็นหน้าตาท่าทางของเฉาชิวเซิงก็รู้สึกไม่ชอบใจนัก เตรียมที่จะใช้คำพูดมาไล่ตะเพิดเขา แต่เฉาชิวเซิงก็ยังคงพินอบพิเทาเอาอกเอาใจป้อยอหวังจะเข้าให้ถึงจี้ปู้ให้ได้ และพูดว่า"ข้าเคยได้ยินคนที่รัฐฉู่ลือกันว่า แม้จะได้ทองคำสักร้อยชั่ง ก็เทียบค่าไม่ได้กับคำมั่นสัญญาของท่านจี้ปู้ ท่านเหตุไฉนจึงมีชื่อเสียงอันดีเช่นนี้เป็นที่เล่าลือไปทั่วรัฐเหลียง รัฐฉู่เล่า ข้้าก็เป็นชาวรัฐฉู่เช่นเดียวกับท่าน ข้าเที่ยวเผยแพร่ชื่อเสียงของท่านไปทุกแห่งหน นี่มิใช่เป็นการช่วยท่านเผยแพร่ชื่อเสียงในรัฐเหลียงและรัฐฉู่ดอกหรือ แล้วท่านเป็นเพราะเหตุอันใดที่ไม่อยากพบข้า".

ปู้จี้ฟังคำพูดของเฉาชิวเซิงแล้ว ให้รู้สึกดีใจขึ้นในบัดดล ดังนั้นจึงให้เฉาชิวเซิงพักอาศัยอยู่หลายเดือน และให้การรับรองเป็นอย่างดี ขณะที่เฉาชิวเซิงจะอำลาจากไปนั้น ยังได้มอบของขวัญมีค่าไม่น้อย จำนวนหนึ่งแก่เขาไป. ต่อมาภายหลังชื่อเสียงจี้ปู้นับวันดังยิ่งขึ้น นั่นก็เป็นเพราะผลจากการโฆษณาเผยแพร่ของเฉาชิวเซิงนั่นเอง.

นิทานเรื่องนี้มีบันทึกไว้ในหนังสือ"สื่อจี้.จี้ปู้หลวนปู้เลี่ยจ้วน"ซึ่งเป็นหนังสือชีวประวัติของบุคคลในประวัติศาสตร์. คำพูดที่เฉาชิวเซิงที่กล่าวยกย่องสรรเสริญจี้ปู้ว่า"ได้ทองคำสักร้อยชั่ง ก็เทียบค่าไม่ไดกับคำมั่นสัญญาของท่านจี้ปู้"ในนิทานเรื่องนี้นั้น เมื่อได้แพร่หลายออก ไปแล้ว ต่อมาภายหลังผู้คนก็ได้นำมาผูกเป็นสำนวนว่า "คำมั่นค่า พันตำลึงทอง" โดยใช้มาอุปมาอุปไมยความสำคัญของคำมั่นสัญญาและแสดงให้เห็นถึงความเคารพและเชื่อถือในคำมั่นสัญญาของผู้อื่น. สำนวนนี้ภาษาจีนอ่านว่า "  " (อี นั่ว เชียน จิน ) คำว่า"nuo"(นั่ว) คือ "xu nuo" ( สวี่ นั่ว) แปลว่ารับปาก รับคำ หรือ "nuo yan" (นั่ว เอี๋ยน) แปลว่าคำมั่นสัญญา คำรับรอง. สำนวน"คำมั่นค่าพันตำลึงทอง" เทียบได้กับสำนวนไทยที่ว่า"รับปากแล้วไม่คืนคำ"หรือ"พูดแล้วไม่คืนคำ ".