China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2004-12-17 17:53:41    
เต้าหู้ (๒)

cri

    

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟังที่เคารพ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ รายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน" ตามคำขอของคุณเกษม ทั่งทอง ผู้ฟังจากจังหวัดชัยภูมิค่ะ สำหรับรายการวันนี้ ดิฉันจะนำเสนอ เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ"เต้าหู้เหม็น"หรือ"โช่วโต้ฝู่" จากนั้นจะแนะนำอาหารประเภทเต้าหู้อื่นๆอย่างคร่าวๆ และเสนอวิธีการปรุงอาหารประเภทเต้าหู้ที่ถูกต้อง

ก่อนอื่นจะขอเล่าตำนาน มีนิทานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างพระนางซูสีไทเฮากับเต้าหู้เหม็นมาเสนอก่อนค่ะ เล่ากันต่อๆมาว่่า ในรัชกาลคังซีของราชวงศ์ชิงมีปัญญาชนผู้หนึ่ง ชื่อ"หวังจื้อเหอ" ได้เข้าไปสอบแข่งขันเข้ารับราชการที่กรุงปักกิ่ง แต่ประสบความล้มเหลวในที่สุด เขาไม่มีเงินกลับบ้าน จึงได้ตัดสินใจลองทำเต้าหู้ขายที่บริเวณด้านหน้าหอคอยเฉียนเหมินเพื่อจะตั้งถิ่นฐานที่ปักกิ่งโดยอาศัยฝีมือการทำเต้าหู้จากบ้านเกิด รวมถึงอาศัยความรู้จากหนังสือที่เคยอ่านมานานแล้ว แต่เนื่องจากหวังจื้อเหอยังขาดประสบการณ์ในการค้าขาย มีอยู่วันหนึ่งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอากาศร้อนมาก เต้าหู้ที่เขาทำขึ้นนั้น ขายไม่หมด แต่ครั้นจะเอาเต้าหู้ดีๆไปทิ้งก็จะน่าเสียดายมาก เขาจึงเกิดความคิดด้วยการหั่นเต้าหู้ที่เหลือออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายชิ้น แล้วนำไปตากแห้งจากนั้นก็นำไปเก็บไว้ในไห ใส่เกลือและเครื่องเทศหลายชนิดดองไว้ก่อน โดยคิดว่า วันหลังค่่อยนำมากินต่อไป แต่เนื่องจากเขามีกิจธุระมากมาย เมื่อหลายวันผ่านไปทำให้เขาลืมเต้าหู้ที่เก็บไว้ในไหนั้นเสียสนิท จนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงใกล้จะสิ้นสุดลง เขาจึงได้นึกถึงเต้าหู้ในไห ที่ลืมทิ้งไว้นั้นอย่างกระทันหัน จึงรีบไปเปิดดู ปรากฎว่า มีึกลิ่นเหม็นรุนแรงที่ส่งขึ้นมาจากไหนั้นจนทำให้เขาผงะเพราะทนไม่ไหว นอกจากนี้ เต้าหู้เดิมที่เคยเป็นสีขาวก็กลายสีมาเป็นสีเทา อมเขียวไม่น่าดู แต่แทนที่จะเอาไปทิ้ง หวังจื้อเหอกลับเอามือปิดจมูก แล้วจับเต้าหู้ชิ้นหนึ่งขึ้นมาชิมด้วย ความเสียดาย ผลปรากฏว่า รสชาติที่ได้ลิ้มลองนั้นกลับอร่อยน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง เขาจึงได้เชิญชวนเพื่อนบ้านหลายคนให้ไปร่วมชิ้มดู ในที่สุด บรรดาเพื่อนบ้านต่างก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า เต้าหู้หมักของหวังจื้อเหอนั้น แม้จะดมกลิ่นแล้วเหม็นมากก็ตาม แต่เมื่อชิมดูแล้วกลับรู้สึกอร่อยเป็นพิเศษและน่ากินมากู

    

หวังจื้อเหอจึงได้ทดลองเอาเต้าหู้เหม็นเหล่านั้นไปขาย ในเวลาต่อมา ตำนานเรื่องเต้าหู้เหม็นของเขาจึงได้รับการนำไป เผยแพร่ออกอย่างกว้างขวาง และเต้าหู้เหม็นก็ได้กลายเป็น สินค้าที่มีชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่ง ฝีมือการทำเต้าหู้เหม็น ได้วิวัฒการมาไปเรื่อยๆและได้สืบทอดต่อๆกันมา หลายชั่วคนจนถึงรัชกาลกวางสู เต้าหู้เหม็นยี่ห้อ"หวังจื้อเหอ"จึงได้พัฒนากลายมาเป็นอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของกรุงปักกิ่ง เล่ากันว่า วันหนึ่ง พระนางซูสีไทเฮาพิโรชอารมณ์เสียและทรงเกิดอาการเบื่ออาหาร บรรดาขันทีจึงได้ใช้ความพยายามหลายอย่างเพื่อให้พระนางเสวยกระยาหาร แต่ไม่ได้ผลแม้แต่วิธีเดียวได้ดั่งปกติ ในที่สุด พ่อครัวคนหนึ่งในวังจึงได้ใช้ภาชนะบรรจุอาหารอันงามวิจิตรใส่เต้าหู้เหม็นหลายชิ้นมาวางไว้ให้อยู่ตรงเบื้องพระพักตร์ของพระนางซูสีไทเฮา ล้อมรอบด้วยดอกไม้ที่แกะสลักเสียสวยงามจาก หัวผักกาด นำไปถวายพระนางซูสีลองชิมเพื่อให้ทรงเจริญอาหาร พระนางซูสีไทเฮาได้ชิมแล้วก็ได้แย้มพระสรวลขึ้นและตรัสชมว่า เอร็ดอร่อยมาก นับจากนั้นเป็นต้นมา เต้าหู้เหม็นจึงถูกจัดเข้าใน รายชื่ออาหารฮ่องเต้หรืออาหารชาววังอย่างเป็นทางการ มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เต้าหู้เหม็นของจีน ยังได้รับความนิยมชมชอบจากชาวต่างประเทศอีกด้วย

ท่านผู้ฟังค่ะ เมื่อได้ฟังตำนานดังกล่าว ท่านคงทราบดีว่า ลักษณะเด่นของเต้าหู้เหม็นคือ "กลิ่นเหม็นแต่กินอร่อย" รสชาติเอร็ดอร่อยของเต้าหู้เหม็นได้รับคำยืนยันจากพระนางซูสีไทเฮา ซึ่งได้ทรงใช้ชีวิตอย่างสิ้นเปลืองราชทรัพย์และทรงนิยม ความหรูหราสุดที่จะพรรณนา ชื่อเสียงอันโด่งดังของเต้าหู้เหม็น จึงได้ร่ำลือไปยังต่างประเทศพร้อมๆกับอาหารจีนที่ดีเด่นอีกหลายๆชนิด

อันที่จริง อาหารประเภทเต้าหู้ของจีนยังมีอีกมากมาย หลายชนิด อาทิเช่น เต้าหู้ยี้ เต้าฮวย เต้าหู้แห้ง เต้าหู้แท่ง และน้ำเต้าหู้เป็นต้นซึ่งล้วนเป็นอาหารบำรุงสุขภาพที่มีรสชาติ เอร็ดอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นที่่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า บรรดาอาหารประเภทเต้าหู้ทำขึ้นจากถั่วเหลืองทั้งสิ้น คุณค่าทางโภชนาการของถั่วเหลืองก็เป็นที่ยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทั้งจีนและต่างประเทศอย่างกว้างขวางว่ามีคุณค่าต่อร่างกายสูง ถั่วเหลืองไม่เพียงแต่เป็นแหล่งที่มาของโปรตีนจากพืช ที่สำคัญเท่านั้น หากยังอุดมไปด้วยไขมันชั้นดี เกลือแร่และวิตามิน ชนิดต่างๆอีกด้วย นับได้ว่า ถั่วเหลืองมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับ ร่างกายของมนุษย์มายาวนาน

ประเภทอาหารเต้าหู้นานาชนิดดังกล่าวล้วนย่อยได้ง่าย เต้าหู้ได้ผ่านกระบวนการทำให้ฟูขึ้นก่อนจะทำเป็นเต้าหู้ยี้ ทำให้โปรตีนภายในแยกออกจากเต้าหู้ และง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ ร่างกาย ครอบครัวทั่วไปถ้าอยากปรุงเต้าหู้รับประทาน ดิฉันเสนอ ให้ลองนำไปผสมกับปลา เนื้อสัตว์และไข่ไก่ จะกินมื้อเดียว หรือรับประทานทานติดๆกันหลายมื้อก็ได้ตามความประสงค์ค่ะ ไม่เีพียงแต่เป็นการประยุกค์รูปแบบและรสชาติอาหารให้ดีและหลากหลายยิ่งขึ้นยิ่งขึ้นเท่านั้น หากยังเป็นการส่งเสริมให้ร่างกาย ได้รับโปรตีนชนิดต่างๆอย่างครบถ้วน เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย

บางกรณี คนเราอาจจะดื่มน้ำเต้าหู้แทนนม เพราะเครื่องดื่มทั้งสองอย่างต่างก็มีโปรตีนสูง แต่มีคนจำนวนหนึ่ง ที่แพ้นม ดิฉันขอเตือนท่านผู้ฟังทั้งหลาย ณ ที่นี้เป็นกรณีพิเศษว่า น้ำเต้าหู้่ที่ไม่ได้ผ่านการต้มให้เดือดนั้น ยังดื่มไม่ได้ สาเหตุคือ ภายในน้ำเต้าหู้มีสารเคมีชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีผลไปกัดเยื่อกระเพาะ อย่างร้ายแรง การดื่มน้ำเต้าหู้ที่ยังต้มไม่ทันสุก อาจจะก่อให้ เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและปวดท้องเป็นต้น ดังนั้น ก่อนที่จะดื่มน้ำเต้าหู้ จึงจำเป็นต้องต้มให้เดือดประมาณ 5 – 10 นาทีเสียก่อน

ท่านผู้ฟังคะ รายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"วันนี้ใกล้จะหมดเวลาลงแล้วค่ะ แต่เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับเต้าหู้ ซึ่งเป็นอาหารบำรุงสุขภาพชั้นดีที่สืบทอดกันมาช้านานของจีนยังไม่สมบูรณ์ ในรายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"ของสัปดาห์หน้า ดิฉันจะขอแนะนำคุณค่าทางโภชนาการของเต้าหู้เพิ่มเติม แล้วดิฉันจะพาท่านผู้ฟังไปสัมผัสกับบรรยากาศในร้านอาหารประเภทเต้าหู้ที่มีชื่อเสียงในกรุงปักกิ่งค่ะ อย่าลืมอย่าพลาดนะคะ ขอให้ท่านผู้ฟังที่สนใจติดตามฟังกันต่อไปนะคะ สำหรับรายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"ของวันนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ พบกับดิฉันมิ่งขวัญ หลี่ได้ใหม่สัปดาห์หน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ