|

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ ทุกวันอังคาร พบกับผม ยงเกียรติ ลู่ในรายการวัฒนธรรมจีนเช่นเคยนะครับ ท่านผู้ฟังครับ "ภาพปิด"ในช่วงตรุษจีนซึ่งเป็นศิลปะพื้นเมืองที่มีเฉพาะของจีนนั้นมีประวัติมาช้านานแล้วและมีอิทธิพลที่กว้างไกลและลึกซึ้งต่อประชาชนจีน สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันดีงามของประชาชาติจีนด้วยภาพการ์ตูนพื้นเมือง จึงได้รับความนิยมชมชอบจากประชาชนจีนเป็นอย่างมาก และได้กลายเป็นภาพเขียนที่ครองความนิยมของผู้ชมชาวจีนมากที่สุดอย่างหนึ่งทั่วโลก รายการวัฒนธรรมจีนวันนี้ ผมขอเสนอเรื่องเกี่ยวกับภาพเขียนที่ใช้ปิดในช่วงตรุษจีนชนิดนี้ต่อท่านผู้ฟังครับ

ชาวจีนเรียกประเพณีการต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่มีมาแต่ดั้งเดิมว่า "กั้วเหนียน"ซึ่งแปลเป็นไทยว่า"ฉลองปีใหม่"นั่นเอง เมื่อถึงยามเฉลิมฉลองปีใหม่ทีไร ชาวจีนมักนิยมปิดภาพประดับไว้บนบานประตูและห้องโถงเพื่อความเป็นสิริมงคลและความผาสุกในรอบปีใหม่ไว้บน เนื่องจากภาพชนิดนี้จะปิดกันในช่วงเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น และหลังจากปิดภาพดังกล่าวแล้ว ก็จะทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นเวลาหนึ่งปี กว่าจะเปลี่ยนมาเป็นภาพใหม่ก็ต่อเมื่อถึงเวลาเทศกาลตรุษจีนในปีถัดไป ด้วยเหตุนี้ ภาพนี้จึงได้รับการขนานกันว่า "เหนียนฮว่า"ซึ่งมีความหมายว่า "ภาพปิดในช่วงตรุษจีน "นั่นเอง ภาพเขียนชนิดนี้มีสีสันที่สดใส เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่ครึกครื้นร่าเริงหรรษา มีเนื้อหาสำคัญส่วนใหญ่ที่เน้นเกี่ยวกับความเป็นสิริมงคล ความชื่นมื่นจากการเฉลิมฉลอง ความร่าเริงแจ่มใสและความดีงามต่างๆ มีทั้งลักษณะที่เน้นเป็นเรื่องราว เน้นเป็นเครื่องประดับและให้ความสนุกน่าเพลิดเพลิน ทั้งนี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของผู้คนทั้งหลายอย่างตรงไปตรงมา รูปแบบ"เหนียนฮว่า"ที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมกันโดยทั่วไปนั้นมี ภาพ "ซื่อซินถู" และ "ซงเฮ่อเหยียนเหนียน" ที่อวยพรให้มีอายุยืนยาว ภาพ "ชุนเหนียวถู" และ" อู๋กู่เฟิงเติน "ที่อวยพรให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ส่วนภาพ "อู๋ฝูหลินเหมิน" ที่เป็นสัญญลักษณ์แห่งความผาสุกนั้นได้วาดค้างคาว ๕ ตัวเพื่อแสดงความหมายแห่งความผาสุก เพราะว่า ในภาษาจีนนั้น คำว่า "ฝู" ที่แปลว่าความผาสุกนั้น มีเสียงพ้องกับคำที่แปลว่านกค้างคาว ภาพ "หนูอ้วนอุ้มปลาลี๋ฮื่อ "เป็นอีกหนึ่งภาพของ"เหนียนฮว่า" ที่ชาวบ้านจีนนิยมชมชอบกันมากที่สุดภาพหนึ่ง เพราะมีความหมายตามเสียงพ้องว่า " เหลือกินเหลือใช้ทุกๆปี"นั่นเองครับ

ประวัติของ"เหนียนฮว่า"จีนนั้นสามารถย้อนหลังไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อกว่าสองพันปีก่อนโน้น จากการบันทึกของหนังสือโบราณ เล่ากันว่า เมื่อสมัยโบราณ มีพี่น้องสองคนที่มีชื่อว่า" เสินถู" และ " ยี่เหลย" ทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมของบรรดาภูตผีปีศาจโดยเฉพาะ เมื่อพบว่าผีตนใดได้ก่อภัยพิบัติขึ้น ก็จะมัดตัวผีด้วยเชือก แล้วนำไปเป็นอาหารของเสือ เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ ผู้คนทั้งหลายจึงนิยมวาดรูปของ" เสินถู" และ " ยี่เหลย"ไว้บนบานประตูเพื่อปราบผี ครั้นถึงสมัยราชวงศ์ถังเมื่อศตวรรษที่ ๗ จักรพรรดิหลี่ซื่อหมินทรงมีฝันร้ายอย่างต่อเนื่อง และมักได้ยินเสียงตะโกนของผี จนตกพระทัยจนไม่สามารถบรรทมได้ นายฉิน ซูเป่ากับนายเว่ย ฉือกงซึ่งเป็นสองนายพลใหญ่ของจักรพรรดิหลี่ซื่อหมินจึงต้องไปถวายการเฝ้าคุ้มครองนอกห้องบรรทมตลอดทั้งคืน และช่วยจักรพรรดิหลี่ซื่อหมินให้สามารถบรรทมได้อย่างสงบสุขดังเดิม ต่อมาภายหลัง จักรพรรดิหลี่ซื่อหมินทรงมีพระบรมราชโองการให้ช่างเขียนรูปที่ทรงพลังของสองนายพลดังกล่าวขึ้น แล้วนำไปปิดไว้บริเวณเหนือประตู และตั้งชื่อให้ว่า "เหมินเสิน" หลังจากนั้น วิธีการนี้ได้ค่อยๆแพร่หลายไปยังหมู่ชาวบ้านทั่วไป และได้ปรากฏภาพปิดประตูที่มีเนื้อหาที่ต่างกันมากขึ้นซึ่งก็คือเค้าเดิมของ "เหนียนฮว่า"นั่นเอง ในปัจจุบัน เมื่อถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง เทคนิคการพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ไม้เริ่มถูกนำมาใช้ผลิต"เหนียนฮว่า" ทำให้สามารถผลิตและจำหน่าย"เหนียนฮว่า"ได้เป็นจำนวนมาก?และได้วิวัฒนาการมาอย่างคึกคักยิ่งขึ้นในเวลาต่อมา
ท่านผู้ฟังครับ เวลาของรายการวัฒนธรรมจีนสำหรับวันนี้ใกล้หมดลงแล้ว ผมจะขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ"เหนียนฮว่า"ต่อในวันอังคารหน้า โปรดติดตามรับฟังนะครับ ต่อไปขอเชิญท่านฟังข่าววัฒนธรรมที่จัดเสนอโดยคุณมนตรี เหลยครับ

|