China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2005-04-22 18:01:41    
"สื่อจี้"บทนิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์ชิ้นยิ่งใหญ่ของจีน

cri
สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟังที่เคารพ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ "เล่าเรื่องเมืองจีน"ในช่วงค่ำทุกวันศุกร์ค่ะ

ท่านผู้ฟังคะ เมื่อไม่นานมานี้ คุณ Yotsak Vajasit ผู้ฟังจากกรุงเทพฯ ได้ส่ง e-mail มาคุยกับเราว่า เขาเป็นนักศึกษาวิชาเอกประวัติศาสตร์ เห็นอาจารย์แนะนำว่า จีนมีหนังสือ"สื่อจี้" ซึ่งได้ บันทึกประวัติศาสตร์จีนโดยวิธีประพันธ์ชีวประวัติของบุคคลสำคัญในสมัยก่อนที่สมบูรณ์มาก หวังอยากจะให้ เว็บไซท์ภาคภาษาไทยจะให้ข้อมูลที่ค่อนข้างสมบูรณ์

รายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"วันนี้ ดิฉันจึงขอแนะนำหนังสือ"สื่อจี้" ตามคำขอของผู้ฟัง Yotsak Vajasit นะค่ะ

หนังสือ"สื่อจี้" แปลตรงตัวก็คือ"บันทึกประวัติศาสตร์" เป็นบทนิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์ชิ้นยิ่งใหญ่ของจีน ได้บันทึกประวัติศาสตร์โดยผ่านชีวประวัติของบุคคลสำคัญต่างๆ เป็นหนังสือที่มีบทบาทและอิทธิพลกว้างไกล และลึกซึ้งต่อการวิจัยค้นคว้าประวัติศาสตร์และ วรรณคดีในสมัยหลัง "สื่อจี้"ประพันธ์ขึ้นในราชวงศ์ฮั่นตะวันตกซึ่งห่างจากปัจจุบัน 2,100 ปี โดยได้บันทึกสภาพการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในระยะเวลา 3,000 ปีตั้งแต่บรรพกาลจนถึง ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เป็นหนังสือประวัติศาสตร์รวมหลายยุคสมัย เล่มแรกที่ใช้แนวเขียนโดยอาศัยชีวประวัติของบุคคลสำคัญเป็นแกนกลาง นับได้ว่า เป็นการริ่เริ่มวรรณกรรมประเภทบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศจีน

ก่อนที่จะบรรยายคุณค่าของ"สื่อจี้"ที่มีต่อการศึกษาวิจัยประวัติศาสตร์และวรรณคดี ขอแนะนำนายซือหม่าเชียน นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ประพันธ์หนังสือ"สื่อจี้"เล่มนี้ก่อน นายซือหม่าเชียนเป็นนักประวัติศาสตร์และ นักประพันธ์ในราชวงศ์ฮั่นตะวันตกของจีน บิดาของเขาเป็นขุนนาง ทำหน้าที่บันทึกประวัติศาสตร์ในราชสำนัก ซือหม่าเชียนเป็น คนช่างคิดตั้งแต่เด็ก เขามักจะมีความคิดเห็นที่เป็นตัวของตัวเอง เกี่ยวกับบุคคลและเหตุการณ์สำคัญสมัยก่อนในตำนานต่างๆ เมื่อเขายังหนุ่มอยู่ เขา่เคยออกเดินทางไปทัศนาจรทั่วประเทศ เพื่อศึกษาชีวิตความเป็นอยู่่ของประชาชน ขนบธรรมเนียม สภาพสังคม เศรษฐกิจและเกษตรกรรม เยี่ยมเยือนสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในท้องที่ต่างๆของจีน รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคลและเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ต่อมา ซือหม่าเชียน ไ้ด้สืบต่อตำแหน่งของบิดาไปเป็นขุนนางด้านประวัติศาสตร์ สมัยนั้น การบันทึกประวัติศาสตร์ของยุคก่อน ส่วนใหญ่จะแต่งขึ้นในสมัยที่จีนยังแบ่งเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อยซึ่งมีอำนาจรัฐแตกแยกกระจัดกระจาย ดังนั้น บรรดาผู้ประพันธ์จึงมักจะยึดถือทัศนะทางประวัติศาสตร์ที่ต่างกัน นอกจากนั้้น ในขณะที่รวบรวมเรียบเรียงหนังสือของคนยุคก่อน ซือหม่าเชียนเตรียมตัวจะประพันธ์หนังสือประวัติศาสตร์เล่มสมบูรณ์ด้วยตนเอง เคราะห์ร้ายที่เขาถูกจักรพรรดิลงโทษด้วยการตัด อวัยวะเพศเนื่องจากสาเหตุทางการเมือง ซือหม่าเชียนถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแสนสาหัส แม้ว่าต่อมาราชสำนักจะกลับแต่งตั้งเขาให้เป็นขุนนางชั้นสูงในกภายหลัง แต่สภาพความคิดจิตใจของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เขาเห็นว่า ความหมายเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อก็คือ เขียน"สื่อจี้"ให้เสร็จสมบูรณ์ "สื่อจี้" หนังสือเล่มยิ่งใหญ่เล่มนี้ ซือหม่าเชียนใช้เวลาเขียนถึง 13 ปี ทั้งเล่มประกอบด้วย 103 บทใช้ตัวอักษรกว่า 5 แสนตัว

"สื่อจี้"แบ่งเป็นเปิ่นจี้ เปี่ยว ซู สื้อเจียและเลี่ยจ้วน 5 ภาค "สื่อจี้"ได้อาศัยชีวประวัติของจักรพรรดิและบุคคลสำคัญอื่นๆในประวัติศาสตร์เป็นโครงสร้างการประพันธ์ "เปิ่นจี้"เป็นการบันทึกสภาพการ เจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมทรุดของจักรพรรดิองค์ต่างๆและเหตุการณ์สำคัญๆในประวัติศาสตร์ "เปี่ยว"เป็นตารางที่แสดง เหตุการณ์สำคัญต่างๆของแต่ละยุคสมัยตามลำดับเวลา "ซู"คือบทความเกี่ยวกับด้านต่างๆเช่น ดาราศาสตร์ ปฎิทิน การชลประทาน เศรษฐกิจและวัฒนธรรมเป็นต้น "สื้อเจีย"ได้บรรยายประวัติ เรื่องราวและกิจกรรมของบรรดาเจ้าผู้ครองนครรัฐ ส่วน"เลี่ยจ้วน"เป็นชีวประวัติของบุคคลที่มีอิทธิพลของชนชั้นต่างๆในแต่ละยุคสมัย และยังมีบทความบางบทได้บันทึกความเป็นมาและประวัติ ของชนชาติส่วนน้อยด้วย ภาค"เปิ่นจี้ สื้อเจียและเลี่ยจ้วน"เป็น 3 ภาคที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งทั้ง 3 ภาคนี้ล้วนเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์โดยผ่านเรื่องราวชีวประวัติบุคคล ด้วยเหตุนี้ ซือหม่าเชียนจึงเป็นผู้คิดค้น รูปแบบการประพันธ์หนังสือประวัติศาสตร์แนวใหม่ที่เรียกกันว่า"จี้จ้วนถี่" ซึ่งแปลว่า บัีนทึกประวัติศาสตร์ด้วยชีวประวัติของบุคคลสำคัญ

ในสายตาของคนจีน "สื่อจี้"เป็นหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ ตามสภาพความเป็นจริง สมัยก่อน ขุนนางจะถืองานการปรับปรุง เพิ่มเติมเรื่องราวประวัติศาสตร์เป็นการสรรเสริญเยินยอคุณงามความดีของจักรพรรดิผู้ทรงปรีชาสามารถและเสนาบดีผู้จงรักภักดี หรือเป็นการชื่นชมสภาพความมั่นคั่งของรัชกาลของตน แต่ซือหม่าเชียนไม่ไ้ด้เลียนแบบคนสมัยก่อน เขาจะประพันธ์ โดยเน้นสภาพความเป็นจริง เขาได้เชื่อมโยงการเมือง เศรษฐกิจ การทหารและวัฒนธรรม ตลอดจนดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์และ ประเพณีนิยมให้เข้าด้วยกันเป็นองค์เอกภาพ สร้างโลกประวัติศาสตร์ที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาแก่ผู้อ่าน เนื่องจากตนได้ประสบการลงโทษที่ไม่เที่ยงธรรม ซือหม่าเชียนให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อพลังชีวิต และคุณค่าของตัวบุคคล ดังนั้น "สื่อจี้"จึงต่างกันกับหนังสือ ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์สมัยก่อนตรงที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความชังที่เด่นชัด ในหนังสือนอกจากจะเขียนโจมตีและเสียดสี ชนชั้นปกครองของสังคมศักดินา โดยเฉพาะราชสำนักฮั่น ยังได้บันทึกการเคลื่อนไหวของประชาชนในการต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการและทารุณกรรม ได้กล่าวชื่นชมบุคคลชั้นต่ำที่มีคุณความดีอย่างกระตือรือร้น และได้วาดภาพอันยิ่งใหญ่ให้กับวีรบุรุษผู้มีจิตใจรักชาติ เหตุการณ์จำนวนมาก ถ้าพิจารณาด้วยทัศนะของราชสำนักและแนวคิดทางจริยธรรมแล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ในสายตาของซือหม่าเชียน กลับเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าและควรแก่การบันทึกไว้ทั้งนั้น

"สื่อจี้"มีล้ำค่ายิ่งทางด้านวรรณคดี โดยได้อาศัยสภาพความเป็นจริงในประวัติศาสตร์สร้างขึ้นซึ่งภาพลักษณ์ของบุคคลที่มีชีวิตชีวา

"สื่อจี้"ได้เล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องตามความจริง เขียนเป็นระบบชัดเจน ใช้ภาษารวบรัดและงดงาม เข้าใจง่าย สไตล์การบันทึกมีความหนักแน่นและสนุกสนัน ถือว่าเป็นนิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์ที่มีความสำเร็จสูงสุดของจีน

ท่านผู้ฟังคะ รายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"วันนี้ ดิฉันได้แนะนำ"สื่อจี้"บทนิพนธ์ด้านประวัติศาสตร์ชิ้นยิ่งใหญ่ของจีนตามคำขอของคุณ Yotsak Vajasit ผู้ฟังจากกรุงเทพฯ หากท่านสนใจ เกร็ดความรู้เรื่องใดเกี่ยวกับเมืองจีน กรุณาเขียนจดหมายไป คุยกับรายการของเราได้นะคะ ท่านผู้ฟังคะ รายการ"เล่าเรื่องเมืองจีน"วันนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ