China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2005-04-27 15:59:27    
จีนไทยใช่ใครอื่น (4)

cri

สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง พบกับดิฉันวิภา อุตมฉันท์ในรายการ "จีนไทยใช่ใครอื่น" ทุกวันพุธเวลาเดียวกันนี้อีกครั้งนะคะ

ถ้าท่านผู้ฟังยังจำได้ ครั้งที่แล้วเราได้อัญเชิญพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในโอกาสเสด็จฯ เยือนมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เมื่อวันที่ 4 เมษายน มาให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบเลย วันนี้ดิฉันขอไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เพื่อจะได้เร่งรายงานพระราชกรณียกิจของพระองค์ในวันนั้นให้จบลงในครั้งนี้ได้ได้ค่ะ

ถ้าให้เดาคงเดาไม่ผิดว่า ท่านผู้ฟังที่บ้านก็เหมือนกับผู้ฟังทุกคนที่อยู่ในหอประชุมอิงเจี๋ยในวันนั้น คือเมื่อได้ฟังพระราชดำรัสเป็นภาษาไทยจบลง ก็คิดอยู่ในใจว่าจะต้องมีเสียงแปลเป็นภาษาจีนของล่ามตามหลังมา เหมือนกับที่เจ้าภาพฝ่ายจีนก่อนหน้านี้หลายคน ที่กล่าวปราศรัยเป็นภาษาจีนแล้วก็มีคนแปลให้เป็นภาษาไทย แต่เปล่าเลยค่ะ พอสมเด็จพระเทพฯตรัสเป็นภาษาไทยจบลงปุ๊บ ก็ทรงกล่าวเป็นภาษาจีนต่อไปทันทีเลยค่ะ ยังความตกตะลึงแบบคาดไม่ถึงให้กับทุกคนในหอประชุม จนกระทั่งอาการตกตะลึงผ่านไปแล้ว เสียงปรบมือก็ดังขึ้นพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย สมเด็จพระเทพฯ ต้องทรงหยุดรออยู่สักพักจึงได้มีพระราชดำรัสเป็นภาษาจีนต่อจนจบ

ดิฉันจะขอเปิดเทปในช่วงนี้ให้ท่านฟังนิดหนึ่งนะคะ

(สมเด็จพระเทพฯ ตรัสเป็นภาษาจีน จบเสียงปรบมือ ต่ออีก 1 ประโยค)

คุณมิ่งขวัญ หลี่ ผู้สื่อข่าวของซีอาร์ไอ ภาคภาษาไทย ในวันนั้นก็ไปทำข่าวและอยู่ในหอประชุมด้วย ตอนนี้คุณมิ่งขวัญ มานั่งอยู่ข้าง ๆ ดิฉันแล้ว เพื่อมาช่วยเล่าให้ฟังว่าในฐานะที่คุณมิ่งขวัญเป็นคนจีน เมื่อได้ฟังสมเด็จพระเทพฯ ตรัสต่อที่ประชุมเป็นภาษาจีนในวันนั้นแล้ว มีความรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ

ม - ตอนแรกดิฉันก็ตะลึงเหมือนกันค่ะ ความจริงก็ทราบดีว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงศึกษาภาษาจีนมาเกือบ 20 ปี ทรงพระปรีชาสามารถในการใช้ภาษาจีน แต่การที่ได้ยินด้วยหูตัวเองในวันนั้น บอกได้เลยว่าพระองค์ท่านพูดภาษาจีนได้ชัดเจนน่าประทับใจมากค่ะ

ว – ช่วงบ่าย เมื่อทรงเป็นองค์ประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ ในโอกาสความสัมพันธ์ไทยจีนครบรอบ 30 ปี สมเด็จพระเทพฯ ก็ทรงกล่าวคำปราศรัย 2 ภาษาอีกเหมือนกันนะคะ

ม – ค่ะ พระราชดำรัสของพระองค์ในช่วงบ่าย ดิฉันก็ประทับใจไปอีกแบบ คือท่านทรงแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลเกี่ยวกับโลกในยุคโลกาภิวัตน์ว่า พระองค์ท่านอยากเห็นไทยกับจีนสร้างความสัมพันธ์กันให้ทั่วทุกด้าน ไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดำเนินมาถึง 30 ปี เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ ย่อมมีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบในทางที่ดีต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ว – ขอบคุณค่ะคุณมิ่งขวัญ ดิฉันในฐานะพสกนิกรของพระองค์ คุณมิ่งขวัญก็ในฐานะประชาชนของประเทศจีนที่พระองค์ทรงกล่าวถึง เราจะพยายามทำตามกระแสพระราชดำรัสของพระองค์ ทำให้สองประเทศเรามีสัมพันธภาพที่ดีงามและราบรื่นยิ่ง ๆ ขึ้น ใช่ไหมคะ

ม – แน่นอนค่ะ

ว – น่าเสียดายที่พระองค์ประทับเป็นองค์ประธานการสัมมนาทางวิชาการได้เพียงประมาณ 2 ชั่วโมงก็ต้องเสด็จกลับ เพราะมีพระราชกรณียกิจอื่น ๆ รอพระองค์ท่านอีกเป็นจำนวนมาก

ม – พระองค์ท่านเองก็ทรงเสียดายที่อยู่ไม่ได้นาน อาจารย์ทราบไหมคะว่า พระองค์ทรงตรัสกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยปักกิ่งที่ไปส่งเสด็จฯว่า อยากจะอยู่ฟังต่อ

ว – ค่ะ ตลอดเวลาชั่วโมงเศษที่ทรงฟังนักวิชาการทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีนนำเสนอบทความทางวิชาการ พระองค์ทรงสนพระทัยอย่างยิ่งและทรงจดบันทึกย่อด้วยพระองค์เองตลอดเวลา

ท่านผู้ฟังค่ะ หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินกลับออกจากหอประชุมอิงเจี๋ยแล้ว การสัมมนาในหัวข้อเรื่อง "ความสัมพันธ์ไทย-จีนในยุคโลกาภิวัตน์" ก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งเย็น ในวันแรกเป็นการผลัดกันนำเสนอโดยนักวิชาการฝ่ายไทยและฝ่ายจีน ส่วนวันที่สอง แยกกลุ่มสัมมนาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเนื้อหาทั่วไปทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มเฉพาะทางด้านภาษา ผู้นำเสนอประกอบด้วยอาจารย์ชาวจีนที่สอนภาษาไทย และอาจารย์ไทยที่สอนภาษาจีน ซึ่งได้ยินมาว่า ได้แลกเปลี่ยนทัศนะความเห็นกันอย่างสนุกสนาน เกี่ยวกับปัญหาและวิธีการสอนภาษาไทยให้กับคนจีน และการสอนภาษาจีนให้กับคนไทยลิ้นแข็ง ๆ ม้วนลิ้นไม่เก่งอย่างดิฉันและท่านผู้ฟังทางบ้านนี่แหละค่ะ

การสัมมนาทั้งหมดสิ้นสุดในวันที่ 2 นะคะ ส่วนวันที่ 3 และที่ 4 เจ้าภาพฝ่ายจีนพาพวกเราไปเที่ยวที่สุสานราชวงศ์ชิงฝั่งตะวันออก และเที่ยวเมืองอนุรักษ์ของกรุงปักกิ่ง ทั้งเที่ยว ทั้งเลี้ยง ทั้งดูแลเอาใจใส่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่นสนิทสนมสุดที่จะบรรยายจริง ๆ ค่ะ นี่ไงคะ"จีนไทยใช่ใครอื่น" ที่ดิฉันตั้งใจนำมาฝากท่านผู้ฟังในครั้งนี้ สวัสดีนะคะ