China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2005-05-31 17:20:00    
หลี่ไป๋-"เซียนกวี"

cri

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่รายการวัฒนธรรมจีนประจำวันอังคาร พบกับผม ยงเกียรติ ลู่ ท่านผู้ฟังครับ ในประวัติศาสตร์วรรณคดีของจีน ผู้คนทั้งหลายมักจะใช้คำว่า "หลี่ตู้"มาเป็นตัวแทนของความสำเร็จสูงสุดของบทกวีในสมัยราชวงศ์ถังของจีน "ตู้"หมายถึงตู้ฝู่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น"ปราชญ์กวี"ของจีน ส่วน"หลี่"หมายถึงหลี่ไป๋ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกว่าเป็น"เซียนกวี"ของจีน?รายการวัฒนธรรมจีนครั้งที่แล้ว ผมได้แนะนำชีวประวัติของตู้ฝู่ วันนี้ ขอแนะนำชีวประวัติของหลี่ไป๋ครับ

หลี่ไป๋เป็นกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยราชวงศ์ถังของจีน มีอุปนิสัยที่อวดดีลำพองตัว มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ใจนักเลงและเปิดเผยตรงไปตรงมา มีความคิดเป็นอิสระ ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะแห่งยุคสมัยและสภาพจิตใจของปัญญาชนในช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของราชวงศ์ถัง

         

หลี่ไป๋มีบ้านเกิดอยู่ที่มณฑลกันสู้ในปัจจุบัน จนถึงทุกวันนี้ สภาพครอบครัวและแหล่งกำเนิดที่แน่นอนของหลี่ไป๋ยังคงเป็นปริศนาอยู่ จากบทกลอนของหลี่ไป๋มีความว่า ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่มั่งมีและมีการศึกษา หลี่ไป๋อ่านหนังสือมากมายตั้งแต่เด็ก นอกจากอ่านหนังสือแล้ว เขายังฝึกมวยรำกระบี่ได้ดีด้วย เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม หลี่ไป๋ออกท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆตั้งแต่อายุ 20 กว่า เนื่องด้่วยเขามีความรอบรู้ มีความสามารถเฉลียวฉลาดเหนือคนทั่วไป จึงได้ประสบผลสำเร็จอันยอดเยี่ยมในด้านการประพันธ์บทกลอน แม้ว่าในเวลานั้น เทคโนโลยีการพิมพ์และการคมนาคมยังไม่เจริญนัก แต่หลังจากผ่านการแลกเปลี่ยนและการแลกบทกลอนให้แก่้กันและกันระหว่างปัญญาชน ทำให้หลี่ไป๋มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อยๆ

การศึกษาหาความรู้และการเข้าร่วมการสอบคัดเลือกขุนนางเป็นทางเลือกมาแต่ไหนแต่ไรของผู้เรียนหนังสือในสมัยโบราณของจีน หลี่ไป๋ในวัยเยาว์ก็หวังเป็นอย่า่งยิ่งว่า จะได้รับผลสำเร็จในวิถีชีวิตขุนนาง เขาจึงเดินทางไปถึงกรุงฉานอา่น ราชธานีของราชวงศ์ถัง เนื่องจากเขาเป็นกวีชื่อดัง รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลที่มีชื่อเสียง หลี่ไป๋จึงมีโอกาสได้ไปเป็นอาลักษณ์วรรณคดีของจักรพรรดิในราชวัง ระยะนี้นับเป็นช่วงเวลาที่หลี่ไป๋มีความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเขา

         

หลี่ไป๋มีอุปนิสัยที่ถือดี เขามีความไม่พอใจมากต่อสภาพความเหลวแหลกเน่าเฟะในเวทีการเมือง เขาเคยฝ่ากความหวังไว้ว่า จะได้รับพระราชทานแต่งตั้งจากจักรพรรดิ ให้ตัวเองมีโอกาสแสดงความสามารถทางการเมือง แต่จักรพรรดิในขณะนั้นทรงมองหลี่ไป๋เป็นเพียงกวีส่วนพระองค์คนหนึ่งเท่านั้น ประกอบกับมีเจ้าขุนมูลนายในพระราชสำนักบางคนใส่ร้่ายป้ายสีเขา ทำให้จักรพรรดิทรงขาดความเชื่อถือในตัวหลี่ไป๋ในที่สุด ด้วยเหตุนี้ หลี่ไป๋จำต้องอำลาจากไปจากกรุงฉานอานด้วยความผิดหวังต่อสำนักพระราชวัง และหันไปใช้ชีวิตแบบนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

         

หลี่ไป๋ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตออกท่องเที่่ยวไปที่ต่างๆทั่วประเทศ ระหว่างนั้น เขาได้แต่งบทกลอนที่พรรณนาถึงทัศนียภาพธรรมชาติเป็นจำนวนมาก คำกลอนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ของหลี่ไป๋มีมากมาย เช่น "สู่เต้าจือหนัน หนันอยี่สั้งชินเทียน"ซึ่งหมายความว่า"ทางขึ้นภูเขาในมณฑลเฉสวน ยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นท้องฟ้า" "จุนปู๋เจี้ยนหวงเหอจือสุยเทียนสั้งไหล เปินเหลียวตเต้า่ไห่ปู้ฟู่หุย"ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "ท่านไม่เ็ห็นแม่น้ำในแม่น้ำเหลืองไหลจากฟ้า เชี่ยวธาราสู่ทะเลไม่หวนกลับ " "เฟยเหลียวจื๋อเสี้ยซันเชียนฉื่อ อยี๋ซื่อหยินเหอลั่วจิ่วเทียน" ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "ไหลละลิ่วพุ่งพาดลงสามร้อยวา สงสัยว่าคงคาเงินจากเมืองแมน"เป็นต้น บทกลอนของหลี่ไป๋มักนิยมใช้วิธีการเขียนเชิงขยายความและคำเปรียบเปรย

         

บทกลอนของหลี่ไป๋ที่เหลือตกทอดมาจนถึงปัจจุบันมีกว่า 900 บท นอกจากนี้ยังมีบทร้อยแก้วกว่า 60 บท บทกลอนของหลี่ไป๋ดึงดูดใจผู้คนทั้งหลายด้วยภาพจินตนาการอันมหัศจรรย์และด้วยภาพกว้างที่สง่างาม ซึ่งมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งและยาวไกลต่อชนรุ่นหลัง ได้รับการยกย่องจากชนรุ่นหลังว่าเป็น "เซียนแห่งบทกวี"

ท่านผู้ฟังครับ ที่จบลงคือบทแนะนำชีวประวัติของหลี่ไป๋ ผูุ้ถูกขนานนามว่้าเป็น"เซียนกวี"ของจีน รายการวัฒนธรรมจีนสำหรับวันนี้ขอยุติลงเพียงเท่านี้ ต่อไปขอเชิญท่านฟังข่าววัฒนธรรมครับ