|
| (GMT+08:00)
2005-08-05 20:23:02
|
 |
|
แนะนำขลุ่ยของจีน
cri
|
 ขลุ่ย ขลุ่ยเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าที่ได้รับความนิยมในจีน เนื่องจากทำด้วยไม้ไผ่ธรรมชาติ เลยได้ชื่อว่"ขลุ่ยไม้ไผ่" ขลุ่ยทำด้วยท่อไม้ไผ่ท่อนหนึ่ง ข้างในทะลองข้อทิ้ง ตัวท่อมีรูเป่าหนึ่งรู รูปิดเยื่อไผ่หนึ่งรู รูเสียงหกรู รูเป่าเป็นรูอันแรกของขลุ่ย ลมเป่าเข้าสู่ทางนี้ ทำให้อากาศภายในหลอดสั่นสะเทือนออกมาเป็นเสียง รูเยื่อเป็นรูอันที่สองของขลุ่ย ใช้เฉพาะปิดเยื่อไผ่ เยื่อขลุ่ยส่วนมากทำด้วยเยื่อต้นอ้อและเยื่อไม้ไผ่ เยื่อขลุ่ยเมื่อได้รับการสั่นสะเทือนของลมที่เป่าเข้าไป จะออกเสียงดนตรีนุ่มนวลและไพเราะ แม้ว่าขลุ่ยมีขนาดเล็กและง่ายๆ แต่มีประวัติยาวนานถึงเจ็ดพันปี ประมาณสี่พันห้าร้อยกว่าปีก่อน ขลุ่ยเริ่มทำด้วยไม้ไผ่แทนกระดูก สมัยฮั่นอู่ตี้เมื่อปลายศตวรรษหนึ่งก่อนคริสกาล ขลุ่ยชื่อว่า"เหิงชุย(แปลว่าเป่าตามขวาง)" มีบทบาทสำคัญมากในเครื่องดนตรีประเภทเป่าในสมัยนั้น นับตั้งแต่ศตวรรษที่เจ็ดเป็นต้นมา ขลุ่ยได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ได้เพิ่มรูเยื่อ ทำให้การแสดงออกของขลุ่ยได้รับการพัฒนาอย่างมาก ฝีมือการเป่าขลุ่ยก็พัฒนาไปถึงระดับที่สูงมาก จนถึงศตวรรษที่สิบ คู่ขนานไปกับบกกวีซ่งและกลองงิ้ยสมัยหยวน ขลุ่ยได้กลายเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในการบรรเลงประกอบเสียงในงิ้วพื้นเมืองและวงงิ้วชนชาติส่วนน้อยต่างๆ ขลุ่ยก็เป็นเครื่องดนตรีที่ขาดเสียไม่ได้

ขลุ่ยมีศักยภาพในการแสดงอุดมสมบูรณ์มาก สามารถบรรเลงดนตรีทั้งดังก้องและมีเสียงสูง ขณะเดียวกันก็สามารถบรรเลงเพลงระบำที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตลอดจนดนตรีที่ดังเร้าใจและจับจิตจับใจ นอกจากนี้แล้ว ขลุ่ยยังสามารถบรรเลงเสียงต่างๆของธรรมชาติได้ด้วย เช่น เลียบแบบเสียงนกเป็นต้น ขลุ่ยไม่เพียงแต่มีเทคนิคการเป่าที่หลากหลาย ยังมีชนิดต่างๆ เช่น ขลุ่ยฉวี่ ขลุ่ยปาง ขลุ่ยติ้งเตี้ยว ขลุ่ยเจียเจี้ยน ขลุ่ยอวี้ ขลุ่ยอวี้ผิง ขลุ่ยเจ็ดรูและขลุ่ยสิบเอกรูเป็นต้น ทำให้เกิดเป็นขลุ่ยสำนักภาคใต้และขลุ่ยสำนักภาคเหนือที่มีลักษณะต่างกัน ขลุ่ยใต้มีลักษณะพิเศษที่เสียงไพเราะและเรียบๆ ซึ่งจะใช้ขลุ่ยฉวี่เป็นหลัก ขลุ่ยฉวี่มีท่อยาวและกว้าง เสียงบรรเลงนุ่มนวล ชัดและไพเราะ ได้รับความนิยมในเขตภาคใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงของจีน ขลุ่ยเหนือมีลักษณะเสียงดังและหยาบกร้าน และจะใช้ขลุ่ยปางเป็นหลัก ขลุ่ยปางมีท่อสั้นและแคบ เสียงบรรเลงดังกระหึ่มและมีเสียงสูง ได้รับความนิยมในเขตภาคเหนือของจีน

ขลุ่ยน้ำเต้า ขลุ่ยน้ำเต้าเป็นเครื่องดนตรีชนิดเป่าของชนชาติส่วนน้อย ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเช่นชนชาติไต่ ชนชาติอาชาง ชนชาติหว่าเป็นต้นนิยมมากที่สุดและใช้บ่อยที่สุด ขลุ่ยน้ำเต้ามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ต้นกำเนิดสามารถย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์ฉิน(ก่อนปี221ก่อนคริสต์กาล) ขลุ่ยน้ำเต้าของปัจจุบันยังคงรักษาลักษณะพิเศษทางโครงสร้างของเครื่องดนตรีประเภทเดียวกันในสมัยโบราณ ขลุ่ยน้ำเต้ามีลักษณะพิเศษในรูปร่างและโครงสร้าง ทำด้วยน้ำเต้าที่สมบูรณ์ใบหนึ่ง ประกอบด้วยท่อไม้ไผ่สามท่อและแผ่นลิ้นโลหะสามแผ่น ท่อไม้ไผ่ท่อหนึ่งเป็นปากเป่า ส่วนตัวน้ำเต๋าเป็นเครื่องกำเนิดเสียง ข้างล้างของตัวน้ำเต๋าปักหลอดไม้ไผ่ที่มีขนาดไม่เท่ากันสามท่อ แต่ละท่อจะมีแผ่นลิ้นที่ทำด้วยทองแดงหรือเงินแผ่นหนึ่ง ท่อกลางกว้างที่สุด ข้างบนมีรูเสียงเจ็ดรู ซึ่งสามารถบรรเลงดนตรีได้ ส่วนท่อที่อยู่สองข้่างแค่สามารถบรรเลงเสียงประสาน ขลุ่ยน้ำเต๋าคล้ายๆเครื่องดนตรีประเภทขลุ่ยประเภทอื่นๆ เสียงค่อนข้างเบา แต่ท่อหลักของขลุ่ยน้ำเต๋าสามารถบรรเลงเสียงที่ไพเราะ เนื่องจากมีเสียงประสานจากท่อที่อยู่สองข้าง ทำให้มีความรู้สึกดีมาก เนื่องจากเสียงสั่นฟังแล้วคล้ายๆเสียงสะบัดผ้าไหมที่นิ่มนวล ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงเรียกขลุ่ยน้ำเต๋าว่า"หูหลูซือ"  เนื่องจากความแตกต่างกันระหว่างชนชาติและภูมิภาค ขลุ่ยน้ำเต๋าของชนชาติส่วนน้อยอื่นๆในมณฑลยูนนานมีความแตกต่างกันในรูปร่างและวิธีการเล่น แต่ก็มีลักษณะพิเศษที่เหมือนกัน ซึ่งก็คือ มักใช้ในการเล่นเพลงชาวเขา โดยเฉพาะเพลงที่มีดนตรีที่คล่องแคล่ว ในดนตรีนั้นจะเน้นเสียงยาว เสียวประสานที่สมบูรณ์ เสียงดนตรีไพเราะน่าฟัง ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกของนักแสดงได้ดี ระยะหนึ่ง เจ้าหน้าที่ดนตรีชนชาติของจีนได้ปรับปรุงขลุ่ยน้ำเต๋า เครื่องดนตรีที่ทำขึ้นมาใหม่เหล่านี้ไม่เพียงแต่ได้เสริมเสียงและลักษณะพิเศษของขลุ่ยน้ำเต๋าเดิม อีกทั้งยังได้เพิ่มความดังของเสียง ขยายความกว้างของเสียง ตลอดจนทำให้สีสันและลักษณะการแสดงของเสียงมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ทำให้ขลุ่ยน้ำเต๋า ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของชนชาติส่วนน้อยของจีนชิ้นนี้ได้ขึ้นแสดงบนเวที และคู่ขนานไปกับการออกเยือนต่างประเทศของนักดนตรีจีน ขลุ่ยน้ำเต๋าก็ได้ขึ้นไปแสดงบนเวทีแห่งศิลปะของโลกด้วย
|
|
|