|

บนทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่มองโกเลียในที่แลสุด สายตาทางภาคเหนือของจีนนั้นมีชาวชนชาติมองโกลที่ใช้ชีวิตแบบเร่ ร่อนเลี้ยงสัตว์เป็นสำคัญอาศัยกันอยู่. ใต้ท้องฟ้าสีครามและเมฆขาว ลอยละล่องนี้ แลไปเป็นทุ่งหญ้ากว้างไพศาลสุดขอบฟ้า กระโจมมอง โกลสีขาวบริสุทธิ์ตั้งประปราย ฝูงแกะสีขาวแลไปแต่ไกลประหนึ่งไข่ มุกที่โปรยปรายอยู่บนพรมหญ้าสีเขียวขจี และนี่ก็คือทัศนียภาพการ ดำรงชีวิตของชาวปศุสัตว์ชนชาติมองโกล และในชีวิตประจำวันของ พวกเขากับการความเคารพเลื่อมใสศรัทธาทางศาสนาของพวกเขานั้น ก็จะได้เห็นถึงสีขาวจากทุกแห่งแหล่งที่. ในรายการวันนี้ จะนำเรื่อง การบูชาสีขาวของชนชาติมองโกลมาเล่าสู่ท่านฟังค่ะ.
ชาวชนชาติมองโกลนิยมชมชอบสีขาวนั้นเป็นเพราะได้รับอิทธิ พลจากสภาพแวดล้อมในด้านการดำรงชีวิต และยังมีความเกี่ยวพัน กับความเคารพเลื่อมใสทางศาสนาและคำเล่าลือที่เกี่ยวข้องของชน ชาติตนด้วย. ชาวชนชาติมองโกลส่วนใหญ่อาศัยกันอยู่บนทุ่งหญ้า กว้างทางภาคเหนือของจีน ที่นั่นหน้าหนาวมีช่วงระยะยาวนานและ หนาวเหน็บ มองไปรอบๆมีแต่หิมะสีขาวโพลน. สำหรับสีขาวนั้น กล่าวสำหรับชาวมองโกลแล้วจะไม่รู้สึกว่ามีความเรียบหรือเยือกเย็น เกินไป กลับถือความขาวบริสุทธิ์ ความสะอาดของมันมาเป็นสัญญ ลักษณ์ของบรรพบุรุษชนชาติตนและเป็นภาพพจน์ของเทพเจ้าบน สวรรค์ที่บูชากัน. ในชนชาติมองโกลนั้น มีคำเล่าลือเกี่ี่ยวกับแหล่ง ที่มาของชนชาตินี้เล่ากันอย่างแพร่หลายเรื่องหนึ่ง. หญิงสาวชนชาติ มองโกลชื่อซายึน่าได้เล่าเรื่องที่เล่าลือกันมานี้ว่า......
"ในหนังสือประวัติศาสตร์ที่มีอักษรบันทึกเล่มแรกของชนชาติ มองโกลเรานั้น ได้บันทึกคำเล่าลือเก่าแก่เรื่องหนึ่งว่า ชนชาติมองโกล เป็นชนชาติที่เกิดจากการสู่สมของหมาป่าสีดำกับกวางสีขาวที่จุติจาก
สวรรค์ ดังนั้น ชนชาติมองโกลจึงคิดว่า ตนเป็นชนรุ่นหลังของ หมาป่าสีดำและกวางสีขาว. "

ชาวชนชาติมองโกลบูชาสีขาวนั้นยังเห็นได้จากประเพณีความ เคยชินในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น เวลาบูชาเทพเจ้าหรือต้อนรับแขก จะถวายหรือมอบผ้าขตะสีขาวบริสุทธิ์ ใช้ชามเงินใส่เหล้านมม้าสีขาว คารวะแขก ชาวเลี้ยงสัตว์ชนชาติมองโกลนิยมขี่ม้าสีขาว อูฐสีขาว เป็นพิเศษ โดยถือว่าจะนำโชคนำความมั่งคั่งมาให้แก่ครอบครัว.
กระโจมมองโกลที่ชาวมองโกลอาศัยก็แสดงให้เห็นร่องรอยของ การบูชาสีขาว โดยทั่วไปจะใช้พรมสีขาวสร้างกระโจมกัน. เจงกิส ข่านนักการเมือง การทหารในประวัติศาสตร์ชนชาติมองโกล หลัง จากมรณกรรมแล้ว กระโจมสีขาวแปดหลังที่เหลือไว้ได้กลายเป็น ของศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวมองโกลเคารพนับถือ. ชนรุ่นหลังของเจงกิสข่าน ได้นำอานม้า ธงออกศึก แส้ม้าที่เจงกิสข่านเคยใช้มาตั้งบูชาในกระ โจมสีขาวแปดหลังนี้ และเรียกร้องท้องที่ต่างๆให้จัดกิจกรรมเซ่นไหว้ ในทุกๆสี่ฤดูกาลของปี ใช้วิธีนี้เป็นรูปแบบสำคัญในการรำลึกบรรพชน หวนรำลึกประวัติศาสตร์.
ในด้านอาหารการกิน ชนชาติมองโกลก็มีความเคยชินและประ เพณีนิยมที่เกี่ยวกับสีขาวเช่นกัน มีการจัดงานเลี้ยงสีขาวตอนเก็บ เกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์หรือในยามที่นักรบได้ชัยชนะจากการออกศึก กลับมา แสดงให้เห็นถึงความเป็นสิริมงคลและความผาสุก. งานเลี้ยง"สีขาว"หมายถึงอาหารส่วนใหญ่เป็นสีขาว ซึ่งทำจากผลิต ภัณฑ์นม มีเต้าหู้นม เนยแข็ง ชานม เหล้านม กากนม นมเปรี้ยว เป็นต้น.
ในพิธีสมรสของชาวชนชาติมองโกลนั้น ถือสีขาวเป็นสัญญ ลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล. ในพิธีหมั้น สองฝ่ายต้องมอบผ้า ขตะแก่กัน ซึ่งจะถือผ้าขตะสีขาวล้ำค่าที่สุด และในงานเลี้ยงนั้น พ่อสื่อแม่สื่อจะมอบเหล้าที่บรรจุในขวดกระเบื้องสีขาวให้ครอบครัวฝ่าย หญิงหนึ่งขวด และยังมีผ้าขตะสีขาว อีกทั้งอาหารที่ทำจากนมเป็น ต้น. เจ้าบ่าวเวลารับขบวนเจ้าสาว จะต้องคาดผ้าสีขาวที่เอว และ ร่วมดื่มนมสดสีขาวบริสุทธิ์หนึ่งชามกับเจ้าสาว. ในพิธีสมรส ผู้อำ นวยพิธีจะให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเอามือสองข้างวางไว้ในถุงผ้าสีขาว จาก นั้นแสดงความคารวะร่วมกัน.
ท่านผู้ฟังคะ ถ้าท่านมีโอกาสไปเป็นแขกที่ทุ่งหญ้ามองโกเลีย ใน ชาวมองโกลที่มีอัธยาศรัยไมตรีอันดีจะมอบผ้าขตะสีขาวแก่ท่าน และคารวะเหล้านมม้าที่บรรจุในชามเงินต่อท่าน ท่านจะมีโอกาสเข้า พักในกระโจมมองโกลสีขาว หวังว่าท่านจะหาโอกาสไปสัมผัสเสน่ห์ สีขาวบนทุ่งหญ้าด้วยตัวท่านเองสักครั้งนะคะ.
ท่านผู้ฟังคะที่จบลงคือบทแนะนำเรื่องการบูชาสีขาวของชนชาติมองโกล.
|