China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2005-12-01 16:12:13    
เมืองเก่าผิงเหยาในมณฑลซันซี

cri

ในบรรดาเมืองระดับอำเภอนับหมื่นแห่งของจีน ยากที่จะมีเมืองที่ยังคงรักษาโครงสร้างบ้านเมืองแบบเดิมไว้อย่างสมบูรณ์เหมือนกับเมืองผิงเหยา ผิงเหยาเป็นเมืองในสมัยหมิงและชิง (ราวค.ศ.1368–1911) การวางผังเมืองได้รับการออกแบบอย่างเป็น ระเบียบ สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง เช่น วัดวาอาราม หอสูง ถนนหนทาง บ้านเรือนราษฎรฯลฯต่างสะท้อนให้เห็นถึง วิทยาการความรู้และวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ สามารถกล่าวได้ว่า เมืองเก่าผิงเหยาเป็นหมู่โบราณวัตถุที่มีความสมบุรณ์แห่งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ จึงได้ผ่านการพิจารณาจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดก โลกทางวัฒนธรรมเมื่อเดือนธันวาคม1997

เมืองเก่าผิงเหยาซึ่งมีประวัติศาสตร์กว่า2,700ปีนี้ตั้งอยู่ใน มณฑลซันซีทางภาคกลางของจีน ห่างจากเมืองไท่หยวน เมืองเอกของมณฑลไปราว90กิโลเมตร กำแพงเมืองเก่าแรกสร้างขึ้นในสมัยโจวตะวันตก (827 – 782 ปีก่อนคริสตศักราช)ต่อมาในราชวงศ์หมิงราวค.ศ. 1370 จึงได้มีการขยายแนวกำแพงดินออกไป ซึ่งยังคงอยู่จวบจนทุกวันนี้ ความยาวรอบกำแพง 6,900 เมตร สูง 6-10 เมตร ส่วนยอดกำแพงกว้าง 3-6 เมตร กำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีหอประตูเมือง6แห่ง ไก๊ด์สาวเหลียงยู่ว์หรูของเมืองผิงเหยากล่าวกับ ผู้สื่อข่าวว่า หากมองไกลออกไปจากยอดกำแพงจะเห็นได้ชัดว่า รูปร่างลักษณะของเมืองเก่าผิงเหยาเมือนกับ"เต่า"ยักษ์ตัวหนึ่ง คนทั่วไปจึงเรียกขานเมืองผิงเหยาว่า "เมืองเต่า"

ไก๊ด์สาวเหลียงยู่ว์หรูกล่าวว่า" เมืองเก่าผิงเหยามีหอประตูเมือง ทิศใต้ดูเหมือนหัวเต่า นอกประตูมีบ่อน้ำสองแห่งเหมือนดวงตาทั้งคู่ ของเต่า ทิศเหนือเป็นหางเต่าซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำสุดของเมือง น้ำทั้งหมดในเมืองต้องไหลเข้ามาในบริเวณนี้ ทิศตะวันออกและ ตะวันตกมี 4 ประตูเหมือนขาทั้งสี่ของเต่า"

การออกแบบเช่นนี้มิใช่เรื่องบังเอิญ แต่แสดงให้เห็นถึงความ เชื่อเรื่องการบูชา"เต่า"ของคนจีนในสมัยโบราณ เพราะว่า ตามความนิยมที่มีมาแต่ดั้งเดิมของคนจีน "เต่า"เป็นสัญลักษณ์ของ ความมีอายุยืน การออกแบบให้เมืองผิงเหยาเป็นรูปเต่า ก็ด้วยความหวังว่า เมืองผิงเหยาจะแข็งแกร่งทนทานเหมือน หินและอยู่ต่อไปอีกหลายชั่วคนด้วยอิทธิฤทธิ์ของเต่าวิเศษ

นอกจากการออกแบบที่มีเอกลักษณ์แล้ว โครงสร้างภายในเมือง ผิงเหยาก็จัดวางอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ภายในตัวเมืองที่มี กำแพงกั้นอยู่นี้ มีหอประจำเมืองรูปแปดเหลี่ยมเป็นจุดศูนย์กลาง มีแนวถนนสายหลัก 4 สาย ถนนรอง 8 สายและมีตรอกเล็กซอยน้อย72เส้น ประกอบกันขึ้นเป็นสัญลักษณ์ "ปากว้า" เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางตลาดและการเงินของประเทศ มาแต่ก่อน ถนนหมิงชิงตัดเป็นแนวตรงจากเหนือไปใต้ แบ่งสิ่งปลูกสร้างโบราณออกเป็นสองฝั่ง วัดประจำเมืองอยู่ทางซ้าย ที่ทำการราชการอยู่ทางขวา วัดราษฎร์อยู่ซ้าย วัดหลวงอยู่ขวา วัดเต๋าซ้าย วัดพุทธขวาแนว ถนนสายต่างๆตัดกันไปมาเป็นตาข่าย คล้ายลวดลายบนหลังเต่า

ปัจจุบัน สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญภายในเมืองผิงเหยามีกว่า 3,797 แห่ง ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 400 กว่าแห่ง ส่วนมากเป็นสิ่งปลูกสร้างในสมัยหมิงและชิงที่มีโครงสร้างแบบบ้านลานสี่เหลี่ยม มีสวนหย่อมอยู่ ภายในอาคารประดับประดาด้วยงาน ไม้แกะสลัก หินแกะสลัก กระดาษตัดฯลฯ บางแห่งมีลักษณะพิเศษของท้องถิ่นคือเป็นที่พักเจาะเป็นถ้ำผสม ผสานกับบ้านไม้หลังคากระเบื้องซึ่งจะเย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว บางบ้านยังเปิดเป็นที่พักสำหรับคนเดินทางให้ได้มา สัมผัสกับความงดงามในชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้น

นางสาวหลี่ยู่ว์ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เวลาที่เธอมองดูสิ่งปลูกสร้างโบราณเหล่านี้ เธอมีความรู้สึกเหมือน ได้สมผัสความรุ่งโรจน์ในยุคนั้นได้

นางสาวหลี่ยู่ว์กล่าวว่า "สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ต่างได้รักษาเอกลักษณ์ ของยุคสมัยนั้นไว้ ดิฉันคิดว่า เมืองผิงเหยาในสมัยนั้นคงมีความเจริญ รุ่งเรืองมาก เวลาเดินไปตามถนนในเมืองผิงเหยา จะรู้สึกว่า ตนเองย้อนอดีตกลับไปสู่่สมัยโบราณ "

ท่านผู้ฟังคะ เรื่องความเป็นมาและเรื่องการค้าของ เมืองผิงเหยาก็น่าสนใจมากเช่นกัน แต่น่าเสียดาย เวลาของรายการ"พาเที่ยวจีน"ใกล้จะหมดลงเสียก่อน ดิฉันขอเล่าต่อในวันพฤหัสฯหน้าเวลาเดียวกันนี้ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ ธาริณี ไต้จัดเสนอค่ะ