|

เมื่อ 202 ปีก่อนคริสต์ศักราช หลิว ปังได้สถาปนาราชวงศ์ฮั่นซึ่งเป็นราชวงศ์ศักดินาที่สองในประวัติศาสตร์ของจีน หลิว ปังเป็นสามัญชนรายแรกที่ได้ก้าวขึ้นสู่ราชบัลลังก์ในประวัติศาสตร์ของจีน จึงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่มาจากสามัญชน รายการวันนี้ ดิฉันขอเสนอเกร็ดประวัติบางส่วนของหลิว ปังให้ท่านผู้ฟังทราบค่ะ
ท่านผู้ฟังคะ ปลายศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเป็นยุคราชวงศ์ฉิน ได้เกิดการลุกขึ้นสู้ของชาวนาตามท้องที่ต่างๆ หลิว ปังเป็นหัวหน้ากองทัพชาวนาที่ลุกขึ้นสู้กองหนึ่งในท่ามกลางกองทัพชาวนาที่มีผู้นำเป็นลูกหลานของอดีตเจ้าผู้ครองนครรัฐและขุนนางขุนศึกที่มีชื่อเสียงต่างๆ ที่ขึ้นมาโค่นล้มราชวงศ์ฉิน แต่หลิว ปังกลับเป็นผู้ที่ขึ้นครองราชย์ได้ สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็คือ ลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของเขาที่ไม่เหมือนคนอื่น ประการแรกก็คือ เขามีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
หลิว ปังเกิดในชนบทแห่งหนึ่งของอำเภอเพ่ยเซี่ยนมณฑลเจียงซูภาคตะวันออกของจีน เขาไม่ชอบทำนาเหมือนชาวนาอื่นๆ แต่กลับเอ้อระเหยลอยชายไม่ยอมทำมาหาเลี้ยงชีพ ชอบแต่จะคบหาสมาคมกับเพื่อนๆ จนมีมิตรสนิทมากหน้าหลายตา ทั้งผู้ที่เป็นศาสนิกชน นักคิดนานาสำนัก ชนชั้นสูงในวงการข้าราชการและชนชั้นล่างหลากหลายอาชีพ เช่น คนฆ่าสัตว์ ยามที่หลิว ปังมีคดีฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็จะมีพัศดีคอยช่วยให้หลุดคดี ยามที่หลิว ปังเกิดขัดสนขึ้นมาก็จะมีเพื่อนคอยควักกระเป๋าให้ ต่อมาพรรคพวกดังกล่าวก็ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในกองทัพของหลิว ปัง และเป็นผู้มีส่วนช่วยให้หลิว ปังสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ จนพวกเขาเองก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางสำคัญของราชวงศ์ฮั่น
ประการที่สอง หลิว ปังมีความชำนาญในการใช้คนเป็นพิเศษ เข้าใจคนและรู้จักใช้คนให้ถูกทาง ตัวอย่างในด้านนี้มีมากมาย ที่รู้จักกันดีที่สุดนั้นเห็นจะเป็นกรณีที่หลิว ปังรับหาน ซิ่นอัจฉริยบุคคลด้านการทหารมาใช้ หาน ซิ่นมาจากวงศ์ตระกูลต่ำต้อย เคยเป็นทหารองครักษ์ของเซี่ยง หยู่ หัวหน้ากองทัพชาวนาที่ลุกขึ้นสู้อีกกองหนึ่งมาก่อน และเคยเสนอกลอุบายต่างๆ ต่อเซี่ยง หยู่ในหลายโอกาส แต่ไม่เคยเข้าตาเข้าหูของเซี่ยง หยู่เลยแม้สักครั้งเดียว ฉะนั้น หาน ซิ่นจึงทิ้งเซี่ยง หยู่แล้วไปซบอกหลิว ปังแทน หลิว ปังรับฟังข้อเสนอจากลูกน้อง จัดพิธีไหว้หาน ซิ่นขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดอย่างสมเกียรติ ดังนั้นหาน ซิ่นจึงแสดงความปรีชาสามารถอย่างเต็มที่ไม่ให้หลิว ปังผิดหวัง โดยนำทัพทำศึกชิงแผ่นดินให้หลิว ปังเป็นผลสำเร็จ
ประการที่สาม หลิว ปังเป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจ ความอดทนและความอ่อนน้อม ครั้งที่ทำการลุกขึ้นสู้เพื่อล้มล้างราชวงศ์ฉินนั้น หลิว ปังกับเซี่ยง หยู่เคยทำข้อตกลงกันไว้ว่า ผู้ใดสามารถเข้าสู่กรุงเสียนหยางราชธานีของราชวงศ์ฉินได้ก่อน ผู้นั้นก็จะขึ้นมาเป็นอ๋อง ปรากฏว่าหลิว ปังเป็นผู้ที่สามารถเข้าสู่กรุงเสียนหยางได้ก่อน เมื่อเขาได้เข้าไปในพระราชวังของราชวงศ์ฉินที่สุดหรูหราแล้ว ก็มีความประสงค์ที่จะพำนักอยู่ในวังต่อเพื่อใช้ชีวิตแบบกษัตริย์ เสนาบดีเตือนเขาว่า หากหวังจะได้ครอบครองแผ่นดินทั่วหล้าก็ไม่ควรหวังเพียงได้เสวยสุขชั่วขณะ เมื่อหลิว ปังตื่นได้คิดจากคำเตือนดังกล่าว ก็สั่งการให้ปิดพระราชวังและท้องพระคลังของราชวงศ์ฉิน ตลอดจนสถานที่สำคัญๆ อื่นๆ แล้วนำทัพถอยออกจากกรุงเสียนหยางไปประจำที่บริเวณรอบๆ แทน นับว่าหลิว ปังเป็นผู้ที่รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน นอกจากนี้ หลิว ปังยังปฏิบัติต่อจื่อ ยิง---กษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์ฉินด้วยดี และฟื้นฟูขวัญชาวกรุงเสียนหยาง ประชาชนเห็นว่าหลิว ปังมีความโอบอ้อมอารีและกองทัพของหลิว ปังปฏิบัติตามกฎวินัยอย่างเคร่งครัด จึงมีความปราถนาให้หลิว ปังขึ้นเป็นกษัตริย์ ต่อมา หลิว ปังถูกเซี่ยง หยู่ขับออกไปจากกรุงไปอยู่ชนบทไกลที่ทุรกันดาร หลิว ปังก็วางเพลิงเผาทางที่จะกลับสู่กรุงเพื่อหลอกเซี่ยง หยู่ว่าเขาจะไม่มีทางกลับไปแย่งชิงอำนาจกับเซี่ยง หยู่อีก
สุดท้าย หลิว ปังยังเป็นผู้มีใจใหญ่และมีสติปัญญาสูง เซี่ยง หยู่เคยจับตัวบิดาและภรรยาของหลิว ปัง เมื่อกองทัพทั้งสองฝ่ายประจัญหน้ากัน เซี่ยง หยู่ก็ขู่ว่าจะนำตัวบิดาของหลิว ปังไปใส่กะทะต้มให้ตายเสีย หลิว ปังฟังแล้วไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัวเท่านั้น หากยังพูดหัวเราะเยาะว่า "นายกับข้าเคยสาบานเป็นพี่น้องกัน บิดาของข้าก็คือบิดาของนาย ขณะนี้นายจะต้มบิดาของนาย ก็กรุณาแบ่งน้ำต้มนั้นมาให้ข้าบ้างสักถ้วยก็แล้วกัน" เซี่ยง หยู่ไม่ยอมตกเป็นจำเลยให้คนอื่นกล่าวหา ก็ปล่อยบิดาและสมาชิกในครอบครัวของหลิว ปังไป
ท่านผู้ฟังคะ เกร็ดประวัติเกี่ยวกับหลิว ปังยังคงอีกมากมาย หลิว ปังต่างกับหัวหน้ากองทัพชาวนาที่ลุกขึ้นสู้อื่นๆ ที่มีใจแคบ สายตาสั้น และมีความโลภ ทั้งต่างจากลูกหลานตระกูลผู้ดีบางรายที่ดูถูกและเบียดเบียนผู้อื่น และทนความพลาดพลั้งไม่ได้ แต่หลิว ปังเป็นผู้ที่คิดการณ์ไกลและจะไปให้ถึง รู้จักใช้คนและซื้อใจคน สามารถสร้างศรัทธาและความเลื่อมใสจากประชาชน จึงได้แผ่นดินมาครองในที่สุด ถือว่าหลิว ปังเป็นผู้สร้างประวัติที่สามัญชนสามารถขึ้นมาเป็นกษัตริย์ได้
|