|

สื่อจี้ เป็นผลงานการเขียนทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เล่มหนึ่งของจีน ขณะเดียวกัน ก็เป็นผลงานทางวรรณคดีประเภทชีวประวัติบุคคลที่ยิ่งใหญ่เล่มหนึ่งด้วย ซึ่งส่งผลกระทบอันลุ่มลึกยาวไกลต่อวรรณคดีรุ่นหลังของจีน รายการวันนี้ ดิฉันขอแนะนำซือหม่าเชียนเจ้าของผลงานเขียนดังกล่าวให้ท่านผู้ฟังทราบค่ะ
ซือหม่าเชียนเป็นนักประวัติศาสตร์และนักวรรณคดีในสมัยราชวงศ์ซีฮั่น คือ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตกของจีน เขาเกิดเมื่อประมาณ 135 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีอายุประมาณ 45 ปี ชีวิตครึ่งแรกของซือหม่าเชียนเต็มไปด้วยพลังอันคึกคัก เวลาส่วนใหญ่ของเขาจะใช้ไปในการท่องเที่ยวและแสวงหาความรู้ต่างๆ แต่ชีวิตครึ่งหลังของเขาต้องใช้ความอดกลั้นมานะบากบั่นเป็นอย่างมากเพื่อภารกิจอันยิ่งใหญ่จนกว่าหนังสือเล่มใหญ่ของเขารวบรวมขึ้นเป็นผลสำเร็จ
ซือหม่าเชียนถือกำเนิดในครอบครัวปัญญาชนครอบครัวหนึ่ง บิดาของเขาเป็นขุนนางด้านประวัติศาสตร์ของกษัตริย์ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบซือหม่าเชียนก็เริ่มศึกษาวิชาวรรณคดี ประวัติศาสตร์และคัมภีร์ของสำนักต่างๆ กับผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ในวัยเด็กซือหม่าเชียนก็เป็นคนช่างขบคิด เขามีความรู้ต่างๆ นานาเกี่ยวกับบุคคลและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางนอกเหนือจากสิ่งที่ได้บันทึกไว้ในตำรา สิ่งนี้เป็นเหตุให้ซือหม่าเชียนออกเดินทางจากกรุงฉางอานไปท่องเที่ยวดินแดนต่างๆ อย่างกว้างขวางเมื่ออายุได้ 20 ปี เมื่อถึงท้องที่หนึ่ง ซือหม่าเชียนก็จะบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่นนั้นอย่างละเอียด และเก็บสะสมประวัติและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวข้องกับบุคคลและเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย เมื่อ 108 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซือหม่าเชียนได้ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งของบิดาในราชสำนัก มีหน้าที่ดูแลพระคลังเก็บหนังสือของพระมหากษัตริย์ ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาได้ตามเสด็จพระมหากษัตริย์ไปในโอกาสต่างๆ ได้ไปดูงานตามสถานที่โบราณมากมายทั่วดินแดนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้สั่งสมข้อมูลอย่างอุดมสมบูรณ์แล้ว ซือหม่าเชียนก็ใช้เวลานอกราชการเตรียมลงมือเขียนสื่อจี้ซึ่งเป็นสารานุกรมด้านประวัติศาสตร์ 3?000 ปีของจีน

จุดที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในช่วงชีวิตของซือหม่าเชียนเกิดขึ้นเนื่องจากซือหม่าเชียนเป็นผู้แก้ต่างให้กับขุนศึกที่ประสบความปราชัยคนหนึ่ง เมื่อ 99 ปีก่อนคริสต์ศักราช หลี่หลิง ขุนศึกของราชวงศ์ฮั่นนำทัพไปตีเผ่าชนซงหนูซึ่งอยู่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในช่วงแรกของการทำสงคราม กองทัพของราชวงศ์ฮั่นประสบชัยชนะต่อเนื่องกันหลายครั้ง กษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่นก็มีความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น แต่ต่อมา กองทัพของราชวงศ์ฮั่นถูกเผ่าชนซงหนูโอบล้อมจนในที่สุดต้องยอมจำนน กษัตริย์ก็ทรงกริ้วมากและมีพระราชโองการให้จับตัวสมาชิกครอบครัวของหลี่หลิงเข้าคุกทันที ในยามนั้น บรรดาขุนนางต่างคอยตีซ้ำเติมและกล่าวใส่ร้ายหลี่หลิง มีแต่ซือหม่าเชียนผู้ซึ่งมีความซื่อตรงคนเดียวที่กล้าแก้ต่างให้กับหลี่หลิง แต่การแก้ต่างของซือหม่าเชียนก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความกริ้วให้แก่กษัตริย์ ทำให้เขาถูกจับเข้าคุกและถูกลงโทษตัดอวัยวะเพศ การผันแปรครั้งใหญ่นี้ทำให้ซือหม่าเชียนมีความเจ็บปวดและอัปยศอย่างแสนสาหัส เขาคิดว่าตายเสียยังจะดีกว่า เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังมีหนังสือที่ยังรวบรวมไม่เสร็จ จึงยังต้องใช้ชีวิตต่อด้วยการกล้ำกลืนความอัปยศนี้ เพื่อเขียนสื่อจี้ให้เสร็จสมบูรณ์
ต่อมากษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นได้สั่งให้ปล่อยตัวซือหม่าเชียนออกจากคุก และแต่งตั้งซือหม่าเชียนให้เป็นขุนนางชั้นสูงที่มีตำแหน่งสูงกว่าเดิม แต่จิตใจของซือหม่าเชียนในช่วงนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเสียแล้ว เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนพิการคนหนึ่ง ความหมายและเป้าหมายแต่หนึ่งเดียวในชีวิตก็คือการรวบรวมสื่อจี้และขัดเกลาให้สำเร็จ แล้วในที่สุด สื่อจี้สำเร็จลงอย่างงดงาม ซือหม่าเชียนได้สร้างรูปแบบการเขียนประวัติศาสตร์ด้วยวิธีการเขียนชีวประวัติตามฐานะและสถานภาพที่แตกต่างกันของบุคคลหลากหลายประเภท อันประกอบด้วย ปฐมบุรุษแห่งประชาชาติจีนที่มีการเล่าต่อๆ กันมา กษัตริย์ ขุนนาง เสนาบดีและนักรบ เป็นต้น บทบันทึกชีวประวัติแต่ละบทล้วนมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยรสแห่งวรรณศิลป์ ส่งผลกระทบอันลุ่มลึกยาวไกลต่อวิชาประวัติศาสตร์และวิชาวรรณคดีของจีนแก่ชนรุ่นหลัง
ท่านผู้ฟังคะ ดิฉันขอแนะนำซือหม่าเชียน เจ้าของผลงานสื่อจี้หนังสือประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจีนเพียงเท่านี้ ต่อไปขอเชิญท่านฟังรายการ "ข่าววัฒนธรรม" ดำเนินรายการโดยคุณมนตรี เหลยค่ะ

|