China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2006-03-08 16:10:21    
หวู่เจ๋อเทียน (หรือ บูเช็กเทียน) จักรพรรดินีแต่เพียงองค์เดียวของจีน

cri

เมื่อคริสต์ศักราช 690 หวู่เจ๋อเทียนได้ขึ้นครองราชย์และสถาปนาราชวงศ์โจว เป็นจักรพรรดินีเพียงองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน ชั่วชีวิตของหวู่เจ๋อเทียนเป็นไปราวเทพนิยาย ชนรุ่นหลังมีนานาทัศนะต่อพระองค์ ซึ่งมีทั้งคำติและคำชม

หวู่เจ๋อเทียนเกิดในคริสต์ศักราช 624 เมื่ออายุ 14 ปีนางถวายตัวเป็นนางสนมของพระเจ้าถังไท่จงจักรพรรดิองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ถัง เพราะนางเอิบอิ่มด้วยเสน่ห์และความเย้ายวน จึงได้รับพระราชทานนามว่า "เม่ยเหนียง" หมายความว่า "นางผู้ทรงเสน่ห์" ส่วนพระนาม "เจ๋อเทียน" นั้น นางตั้งให้ตัวเองหลังประกาศขึ้นครองราชย์ มีความหมายว่า "ปกครองบ้านเมืองตามกฎธรรมชาติและดูเยี่ยงอย่างฟ้าดิน"

ตามจารีตประเพณีสมัยศักดินาของจีนนั้น "สตรีไร้ความสามารถก็ถือเอาว่ามีคุณธรรม" สำหรับหวู่เจ๋อเทียนแล้ว ตั้งแต่วัยเยาว์นางก็แสดงนิสัยใจคอที่มีความแตกต่างจากสตรีอื่นๆ สมัยนั้นพระเจ้าถังไท่จงมีม้าพยศตัวหนึ่ง ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกให้เชื่องได้ วันหนึ่ง หวู่เจ๋อเทียนกราบทูลพระเจ้าถังไท่จงว่า "ข้าพระองค์สามารถฝึกมันให้เชื่องได้ แต่ต้องการแส้เหล็กและดาบ คือ ใช้แส้เฆี่ยนมันก่อน หากมันไม่เชื่อง ก็ทุบหัวของมัน ถ้ายังไม่เชื่องอีก ก็ใช้ดาบปาดลำคอของมันให้ขาดเสีย" เมื่อพระเจ้าถังไท่จงสดับดังนี้ก็รู้สึกสะเทือนพระทัยยิ่ง ทรงเห็นว่า นางสนมที่อยู่ในกรอบจารีตประเพณีไม่ควรกล่าวคำพูดทำนองดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าถังไท่จงจึงมีความระมัดระมังนางเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม หลี่จื้อรัชทายาทกลับชื่นชอบหวู่เจ๋อเทียนผู้มีอายุแก่กว่าตนถึง 4 ปี

เมื่อพระเจ้าถังไท่จงสวรรคตไปแล้ว หลี่จื้อในฐานะรัชทายาทได้สืบพระราชบัลลังก์ขึ้นเป็นพระเจ้าถังเกาจง และโปรดแต่งตั้งให้หวู่เจ๋อเทียนเป็นพระสนมคนโปรด ต่อมาได้เลื่อนศักดิ์สูงขึ้นเป็นพระมเหสีสมความปรารถนาของหวู่เจ๋อเทียน

เนื่องจากพระเจ้าถังเกาจงเป็นคนเจ้าอารมณ์และจิตใจลังเลไม่มีความเฉียบขาด ฉะนั้น ก่อนที่หวู่เจ๋อเทียนจะขึ้นเป็นพระมเหสีนั้น นางก็มีส่วนช่วยพระเจ้าถังเกาจงในกิจการบ้านเมืองอยู่เนืองๆ เมื่อได้เป็นพระมเหสีแล้ว นางก็ยิ่งทำลายประเพณีที่ห้ามสตรีมีส่วนร่วมในกิจการการเมืองมากขึ้น นางมีส่วนร่วมวางแผนกิจการบ้านเมืองโดยตรง เรื่องสำคัญต่างๆ พระเจ้าถังเกาจงต้องปรึกษากับนางทุกเรื่อง จนขุนนางทั้งหลายถวายพระนามทั้งสองพระองค์ว่า "เอ้อเซิ่ง" หรือ "สองพระบรมราชา"

หลังจากพระเจ้าถังเกาจงสวรรคตแล้ว พระโอรสสององค์ของพระเจ้าถังเกาจงได้ขึ้นครองราชย์ตามลำดับ แต่ผู้ที่กุมอำนาจแท้จริงคือพระนางหวู่เจ๋อเทียน เมื่อพระนางหวู่เจ๋อเทียนทรงพระชนมายุ 67 พรรษา พระนางได้เลิกล้มจักรพรรดิหุ่น ประกาศเปลี่ยนชื่อราชวงศ์จาก "ถัง" มาเป็น "โจว" และได้อภิเษกขึ้นครองราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดินีองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน

จักรพรรดินีหวู่เจ๋อเทียนทรงพระปรีชาสามารถในการปกครองบ้านเมือง พระองค์ส่งเสริมการเกษตร ลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ ยังทรงมีพระราชกรณียกิจเลี้ยงไหมและทำนาด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นตัวอย่างแก่ขุนนางทั้งหลายในการเห็นอกเห็นใจประชาชน หวู่เจ๋อเทียนทรงครองราชสมบัติ 15 ปี ภายใต้การปกครองของพระนาง ประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถังมีกำลังเข้มแข็งเกรียงไกร มีเสถียรภาพทางสังคม มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสามารถตีทัพศัตรูที่เข้ามารุกรานให้ถอยกลับไปได้สำเร็จหลายครั้ง

จักรพรรดินีหวู่เจ๋อเทียนทรงพระชนมายุได้ 82 พรรษา ก่อนสวรรคต พระนางทรงสละราชสมบัติให้แก่พระโอรส และรื้อฟื้นราชวงศ์ "ถัง" ขึ้น หลังจากพระนางสวรรคตแล้ว พระศพของพระองค์ได้ฝังไว้ร่วมกับพระเจ้าถังเกาจงพระสวามี ณ สุสานหลวงเฉียงหลิงมณฑลส่านซีภาคตะวันตกของจีน และได้สร้างศิลาจารึกไร้อักษรไว้หน้าสุสานด้วย ศิลาจารึกไร้อักษรนี้มีชื่อเสียงดังอุโฆษไปทั่วโลก เพราะว่าความสำเร็จความล้มเหลวและความผิดความถูกของจักรพรรดินีหวู่เจ๋อเทียนไม่ต้องการให้จารึกไว้เป็นอักษร หากแต่ให้ชนรุ่นหลังพิจารณาเองเอง