วันหยุดยาวของวันเมเดย์1พฤษภาคมที่เพิ่งผ่าน ไปไม่กี่วันนี้เอง นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวจีนที่อยากจะออกไปเที่ยว ข้อมูลจากบริษัททัวร์แสดงให้เห็นว่า วันเมเดย์ปีนี้ อุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกวยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ของชาวจีน ผู้ฟังบางท่านก็อาจจะเคยไปเที่ยวมาแล้ว รายการของเราวันนี้ ก็ขอนำท่านไปเที่ยวจิ่วไจ้โกวสักหน่อยค่ะ

จิ่วไจ้โกวในมณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อยู่ห่างจากเมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวนประมาณ450กิโล เมตร ที่ได้ชื่อว่า "จิ่วไจ้โกว"หรือในภาษาจีนหมายถึง แควเก้าหมู่บ้าน เพราะมี9หมู่บ้านชนชาติทิเบตตั้งหลักแหล่งอยู่ตามริมธารน้ำบริเวณนี้ มาแต่ดั้งเดิม

จิ่วไจ้โกวมีเนื้อที่กว่า 620 ตารางกิโลเมตร ประมาณร้อยละ52 เป็นพื้นที่ป่าดึกดำบรรพ์ "น้ำ"ถือเป็นจุดตื่นตาที่สุดใน บรรดาสุดยอดความงามของทิวทัศน์จิ่วไจ้โกว เคยมีประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า "กลับจากเขาหวงซานไม่ดูเมฆ กลับจากจิ่วไจ้โกวไม่ดูน้ำ " จิ่วไจ้โกวมีทะเลสาบมากมาย แม้ทะเลสาบเหล่านี้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่น้ำบริสุทธิ์ใสสะอาด จนชาวทิเบตในท้องถิ่นเรียกว่า"ไห่จือ" หมายความว่า บุตรชายของทะเล ความงามประหลาดของน้ำในจิ่วไจ้โกวนั้น เกิดจากการที่แหล่งน้ำในบริเวณนี้มีการสะสมของธาตุแคลเซี่ยมเจือปนอยู่ในปริมาณสูง อีกทั้งมีพรรณไม้น้ำจำนวนมาก ทำให้ทะเลสาบและธารน้ำของที่นี่มีสีสันสดใสงดงามแปลกตา ธารน้ำในจิ่วไจ้โกวมีความยาว50กว่ากิโลเมตรตลอดแนวธารน้ำปรากฏ บึงน้ำ ทะเลสาบ น้ำตกและโตรกธารมากมาย สายน้ำสีเขียวใสเลี้ยวลดอยู่ ระหว่างแมกไม้ราวกับสายสร้อยมรกตที่ประดับอยู่บนอาภรณ์แห่งป่าเขาลำ เนาไพร ทำให้ผู้คนที่มาเยือนไม่อาจละสายตาได้

ในหมู่บ้านละแวกจิ่วไจ้โกวมีตำนานหรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ่วไจ้โกวไว้ มากมาย เล่ากันว่า ในสมัยโบราณที่นานแสนนานแล้ว คนรักของนางฟ้า"โว่โน่"ที่ชื่อ"ตาเกอ"ได้มอบกระจกวิเศษบานหนึ่งให้เธอ แต่เธอดีใจจนทำให้กระจกวิเศษบานนี้พลาดจากมือหล่นลงแตกเป็น108ชิ้น และแปลงเป็นทะเลสาบสี108แห่ง

ในบรรดาทะเลสาบ108แห่งเหล่านี้ "ซีหนิวไห่" หรือ ทะเลสาบตัวแรดมีลักษณะโดดเด่นที่สุด ซีหนิวไห่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตรและลึก18เมตร อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ2400เมตร นับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วไจ้โกวและก็เป็นทะเลสาบที่ทิวทัศน์มีการ เปลี่ยนแปลงมากที่สุดแห่งหนึ่ง เล่ากันว่า มีพระลามะสูงอายุรูปหนึ่งอาพาธ หนักแทบจะไม่รอดแล้ว มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อพระรูปนี้ขี่แรดเดินผ่านบริเวณนี้ เกิดคอแห้งก็ดักน้ำจากทะเลสาบนี้มาดื่ม ไม่น่าเชื่อเลยว่า อาการอาพาธของพระรูปนี้ได้หายเป็นปลิดทิ้งเป็นที่น่าประหลาดใจ หลังจากนั้น พระรูปนี้จึงไม่ยอมจากที่นี่ไปและได้ขี่แรดไปตั้งหลักแหล่ง อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ ทะเลสาบแห่งนี้จึงถูกเรียกว่า"ทะเลสาบ ตัวแรด"หรือซีหนิวไห่

น้ำตกของจิ่วไจ้โกวก็มีชื่อเสียงโด่งดัง น้ำตกทั้งใหญ่และเล็ก15แห่ง กระจัดกระจายอยู่ตามยอดเขา หน้าผา หุบเขาและป่าไม้

นอกจากความงามของทะเลสาบและน้ำตกแล้ว ภูเขาของจิ่วไจ้โกวก็ สวยงามตระการตา ภูเขาที่นี้ปกคลุมด้วยป่าดึกดำบรรพ์ที่ เขียวขจี ไม้ดอกและต้นหญ้านานาพันธุ์ประดับอยู่บนภูเขา มวลหมอกหรือหิมะได้ สร้างภาพงามวิจิตรโดยมีภูเขาสองลูกเป็นที่เคารพนับถือของชาวทิเบตที่อาศัยอยู่ในบริเวณจิ่วไจ้โกว คือเขา"ตาเกอ"กับเขา"ซื่อโม่" เขา"ตาเกอ"ที่เป็นชายตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนเขา"ซื่อโม่"ที่เป็น หญิงตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ภูเขาสองลูกนี้หันหน้าเข้าหากัน เล่ากันว่า "ตาเกอ"กับ"ซื่อโม"เป็นคนรักคู่หนึ่งในหมู่บ้านจิ่วไจ้ มีอยู่ปีหนึ่ง เจ้าครองเขาหิมะได้ทำลายภูเขา ป่าไม้และทะเลสาบของจิ่วไจ้โกว "ตาเกอ"ซึ่งเป็นชายกล้าหาญตั้งใจเดิน ทางไปภูเขาหิมะเพื่อตามหามรกตที่มีอิทธฤทธิในการสร้างป่าไม้และ ทะเลสาบ แต่เจ้าครองภูเขาหิมะแอบเอา ยาเสน่ห์ที่ทำให้เคลิบเคลิ้มให้เขากิน จนหนุ่ม"ตาเกอ"ลืมสาว"ซื่อโม"ที่ เป็นคนรักแล้วเดิม กลับไปรักพระธิดา"เป่าสูว์"ของเจ้าครอง เขาหิมะ แต่ในที่สุด สาว"ซื่อโม"ได้ปลุกให้หนุ่มตาเกอตื่นจากความเคลิบเคลิ้มด้วย น้ำตาของนางและทำให้ธิดา"เป่าสูว์"รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เจ้าครองเขาหิมะโกรธมาก จึงไปตามล่าทั้งสองคน หนุ่ม"ตาเกอ"กับสาว"ซื่อโม"กลืนมรกตลงไปในท้องและแปลงตัวเป็นภูเขาสองลูก เหมือนเป็นฉากกำบังการทำร้ายของเจ้าครองเขาหิมะ ตั้งแต่นั้นมา ภูเขาสองลูกที่แปลงกายจากคนรักคู่หนึ่งก็ร่วมกันพิทักษ์รักษา ป่าไม้และทะเลสาบของจิ่วไจ้โกว ทำให้ภาพสวยงามของจิ่วไจ้โกวอยู่เคียง คู่กับมนุษย์อย่างยั่งยืนสถาพร

ความงามของจิ่วไจ้โกวสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือมหัศจรรย์ของธรรมชาติ หากมีโอกาส เชิญไปเที่ยวดินแดนงามวิจิตรแห่งนี้ค่ะ

ท่านผู้ฟังค่ะ รายการพาเที่ยวจีนวันนี้ ขอยุติลงเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ