China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2006-06-13 14:33:28    
เยว่เฟย (Yue Fei) หรืองักฮุย วีรบุรุษผู้รักชาติสมัยราชวงศ์ซ่งของจีน

cri

งักฮุยเป็นวีรบุรุษที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนจีน วีรกรรมอันมีเกียรติเกี่ยวกับความรักชาติของเขาเป็นที่ยกย่องเทิดทูนของบรรดาชาวจีนที่รักชาติ

งักฮุยเกิดในปีคริสต์ศักราช 1103 ในครอบครัวชาวนา บิดาของเขาพอรู้หนังสือบ้าง ซึ่งสั่งสอนให้งักฮุยพอรู้หนังสือเล็กน้อย เนื่องจากงักฮุยมีรูปร่างใหญ่โตมีพลกำลังมาก ชอบกังฟูหรือวิทยายุทธเป็นพิเศษ อีกทั้งยังฝึกการยิงธนูได้แม่นยำ นอกจากนี้ เขายังชอบศึกษาตำราพิชัยสงครามด้วย

ยุคสมัยของงักฮุยเป็นช่วงปลายของราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ซ่งถูกอาณาจักรจินชนเผ่าหนี่เจินที่อยู่ทางเหนือรุกรานเรื่อยๆ เมื่อข้าศึกยกทัพเข้ามาใกล้ พระจักรพรรดิซ่งฮุยจงทรงตกพระทัยจนประกาศสละพระราชสมบัติ มกุฎราชกุมารจึงสืบพระราชสมบัติขึ้นเป็นพระจักรพรรดิซ่งชินจง ปีคริสต์ศักราช 1127 กองทัพของอาณาจักรจินตีเปี้ยนเหลียง (คือเมืองไคเฟิงในปัจจุบัน) พระราชธานีของราชวงศ์ซ่งแตก และอัญเชิญพระจักรพรรดิซ่งฮุยจงและพระจักรพรรดิซ่งชินจงไปเป็นเชลย นับเป็นเรื่องอัปยศของราชวงศ์ซ่ง ต่อมา เจ้าโก้ว พระราชโอรสอีกองค์หนึ่งของพระจักรพรรดิซ่งฮุยจงได้ขึ้นครองราชย์ และย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองหังโจวที่อยู่ทางใต้ของลุ่มแม่น้ำแยงซี ราชวงศ์ซ่งหลังการย้ายเมืองในครั้งนี้เรียกว่า "หนานซ่ง" แปลว่า "ซ่งใต้"

เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ งักฮุยก็สมัครเข้าเป็นทหารเพื่อปกป้องราชอาณาจักร มีนิทานเรื่องหนึ่งที่รู้จักกันดีทุกเพศทุกวัยว่า เพื่อให้กำลังใจแก่งักฮุยในการปกป้องบ้านเมือง มารดาของงักฮุยได้สักตัวหนังสือ 4 ตัวไว้บนหลังของงักฮุยว่า "จิง---จง---เป้า---กั๋ว" แปลว่า "ใจ---ซื่อ---ตอบแทน---บ้านเมือง" (หรือ "แทนคุณชาติด้วยใจภักดี")

ระหว่างต้านข้าศึก ด้วยความสามารถด้านการทหารและความองอาจกล้าหาญ งักฮุยชนะศึกหลายครั้ง และได้เลื่อนยศขึ้นเป็นนายพล ประชาชนเรียกกองทัพที่อยู่ภายใต้การบัญชาของงักฮุยตามแซ่ของเขาว่า "กองทัพตระกูลงัก" ซึ่งมีนายและพลทหารประมาณ 3 หมื่นนาย

แต่ว่าพระจักรพรรดิเจ้าโก้วมีแนวพระราชดำริให้เปิดการเจรจาสันติภาพกับอาณาจักรจินแทนการทำศึก เพราะว่าไม่ต้องการเชิญเสด็จพระจักรพรรดิซ่งฮุยจงและพระจักรพรรดิซ่งชินจงกลับมา ซึ่งจะทำให้พระองค์หมดสิทธิ์เป็นพระจักรพรรดิได้อีกต่อไป ปีคริสต์ศักราช 1140 อาณาจักรจินรุกรานราชวงศ์ซ่งอีกครั้ง ระหว่างการทำศึกครั้งนี้ "กองทัพตระกูลงัก" เอาชนะข้าศึกได้อย่างราบคาบ จนกองทัพของอาณาจักรจินรำพึงด้วยความสิ้นหวังว่า "สั่นไหวภูเขานั้นง่าย สั่นไหวกองทัพตระกูลงักนั้นยาก" (หรือ "เอาชนะกองทัพงักฮุยยากกว่าย้ายภูเขาเสียอีก") แต่ในขณะที่งักฮุยกำลังเตรียมที่จะไล่ต้อนข้าศึกและกอบกู้นครหลวงเก่าที่สูญเสียไปให้กลับคืนมานั้น กลับได้รับพระบรมราชโองการให้ "ถอนทหารกลับ" 12 ฉบับภายในวันเดียว งักฮุยก็จำต้องรับสนองพระบรมราชโองการด้วยการถอนทัพกลับไปยังเมืองหังโจวพระราชธานีใหม่

หลังจากนั้นไม่นาน ราชวงศ์ซ่งกับอาณาจักรจินก็เปิดการเจรจา งักฮุยจึงกลายเป็น "หนามยอกอก" ของทั้งสองฝ่าย ฉินฮุ่ย อัครมหาเสนาบดีผู้เป็นที่โปรดปรานของพระจักรพรรดิเจ้าโก้วสร้างข่าวลือว่า งักฮุย "ก่อการกบฏ" งักฮุยจึงถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิต เมื่ออายุเพียง 39 ปีเท่านั้น

ศพของงักฮุยถูกนำไปฝังไว้ที่ภูเขาชีเสียหลิ่งริมทะเลสาปซีหูเมืองหังโจวมณฑลเจ๊อะเจียง ปีคริสต์ศักราช 1221 มีผู้มาสร้างสุสานงักฮุยและศาลเจ้างักฮุยที่นั่น และดูแลรักษาไว้อย่างดีหลายชั่วอายุคนตราบเท่าทุกวันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า ผู้คนนับถือและยกย่องจิตใจรักชาติของงักฮุยตลอดมา