|

จูหยวนจังเกิดที่เฟิ่งหยางมณฑลอันฮุยในคริสต์ศักราชปี 1328 เขากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ฐานะครอบครัวยากจนค่นแค้น เมื่อเข้าเรียนไม่กี่เดือนก็จำต้องยุติการเรียนเนื่องจากจนปัญญาจ่ายค่าเล่าเรียน จึงต้องไปรับจ้างเป็นเด็กเลี้ยงวัวให้กับบ้านอื่น คริสต์ศักราชปี 1344 บ้านเกิดของจูหยวนจังเกิดภัยตั๊กแตนครั้งร้ายแรง เป็นเหตุให้พืชพันธุ์ธัญญาหารในท้องนาถูกตั๊กแตนกินไปหมด เกษตรกรไม่มีผลเก็บเกี่ยวแม้สักเมล็ดเดียว มีผู้อดตายจำนวนมาก จูหยวนจังในวัย 16 ปีจึงเหลือทางเดียว คือ ไปบวชที่วัด ประทังชีพไปวันๆ ด้วยการขอทาน และร่อนเร่พเนจรไปตามท้องที่ต่างๆ ประสบการณ์เช่นนี้ทำให้เขามีสายตากว้างไกล ขณะเดียวกันก็บ่มเพาะให้เขามีจิตใจเข้มแข็งและมีความทรหดอดทน
ในเวลานั้นเป็นช่วงปลายของสมัยราชวงศ์หยวน ซึ่งมีการลุกขึ้นสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า จูหยวนจังอายุได้ 24 ปี ก็ไปสมัครเข้ากองทหารลุกขึ้นสู้กองหนึ่ง เนื่องจากเขาเป็นคนมีใจกล้าและมีความปราดเปรียว อีกทั้งมีความห้าวหาญระหว่างการทำศึก ในช่วงไม่นานนัก จูหยวนจังก็ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถมีกองกำลังทหารของตนเองขึ้นมาได้โดยไม่ต้องขึ้นต่อใครอื่น เท่ากับเป็นการเริ่มเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของจีนตั้งแต่นั้นมา
เล่ากันว่าจูหยวนจังเป็นคนใจกว้างกล้าได้กล้าเสีย มีคุณธรรม และชอบคบหาสมาคม ฉะนั้น จึงมีอัจฉริยบุคคลจำนวนมากไปสวามิภักดิ์กับเขา เมื่อเขามีอายุ 39 ปี อิทธิพลของเขาก็แผ่ขยายไปถึงทั่วค่อนครึ่งอาณาจักร คริสต์ศักราชปี 1368 จูหยวนจังสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระจักรพรรดิที่จินหลิง (คือนครนานกิงในปัจจุบัน) ตั้งชื่อพระราชอาณาจักรว่า "ราชวงศ์หมิง" ปีเดียวกัน กองทัพของเขาตีนครต้าตู (คือกรุงปักกิ่งในปัจจุบัน) เมืองหลวงของราชวงศ์หยวนแตก เป็นการอวสานของราชวงศ์หยวน

จูหยวนจังมาจากชั้นต่ำสุดของสังคม รับรู้ความทุกข์ยากของสังคม ดังนั้น ภายหลังขึ้นครองราชย์แล้ว เขาก็รณรงค์ความประหยัดมัธยัสถ์และการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย บันทึกประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งมีว่า มีขุนนางท้องถิ่นผู้หนึ่ง ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเตียงแกะสลักทองเตียงหนึ่งเป็นการพิเศษเพื่อเอาใจพระจักรพรรดิ คาดไม่ถึงเลยว่า จูหยวนจังโกรธมาก สั่งให้ทำลายเตียงทองดังกล่าวเสีย เขาไม่เพียงแต่ทำตนประหยัดเท่านั้น หากยังเรียกร้องให้ผู้อื่นก็ต้องประหยัดอย่างเคร่งครัดด้วย มีอยู่วันหนึ่ง เขาเห็นองครักษ์นายหนึ่งสวมรองเท้าคู่ใหม่ออกไปเดินกลางสายฝน ก็สั่งให้เรียกตัวมาตำหนิเสียพักใหญ่ ยังมีอีกครั้งหนึ่งที่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้หนึ่งใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ดูหรูหรา เมื่อได้ยินว่าราคาของเสื้อผ้าดังกล่าวแทบจะเท่ากับค่าใช้จ่ายในรอบหนึ่งปีของเกษตรกรผู้หนึ่ง จูหยวนจังก็มีความโกรธมาก ด้วยเหตุนี้ ขุนนางทั่วราชอาณาจักรจึงอยู่ในความพอเพียงตามแนวพระราชดำริของจูหยวนจัง พร้อมกันนี้ จูหยวนจังยังบัญญัติกฎหมายเศรษฐกิจภาคการเกษตรที่เหมาะกับการดำรงชีพของเกษตรกร ยังผลให้ราชอาณาจักรเข้าสู่ยุคที่มีความเจริญเติบโตอย่างสันติ
จูหยวนจัง ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิงทรงครองสิริราชสมบัติเป็นเวลา 31 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อเจริญพระชนมพรรษา 71 ชันษา ราชวงศ์หมิงที่เขาสถาปนาขึ้นนี้อยู่ได้เป็นเวลากว่า 270 ปี ราชวงศ์หมิงเป็นหนึ่งในยุคที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุดของจีน โดยผลการพัฒนาทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมล้วนเคยอยู่ในระดับสูงพอสมควร ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้น อย่างเช่นเจิ้งเหอ นักเดินเรือเดินทางรอบโลกถึง 7 ครั้ง และวรรณคดีโบราณเล่มอมตะอย่างเรื่องสามก๊ก เรื่องไซอิ๋วและเรื่องซ้องกั๋ง เป็นต้นล้วนเป็นผลงานของนักเขียนสมัยราชวงศ์หมิงทั้งสิ้น
|