China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2006-10-31 15:13:42    
นูร์ฮาชู ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ชิงของจีน
รายการ"วัฒนธรรมจีน"

cri

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟังที่เคารพ ชนชาติแมนจู (Manchu)อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำเฮยหลงเจียงและแม่น้ำซงฮวาเจียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ปีคริสต์ศักราช 1644 แมนจูได้สถาปนาราชวงศ์ชิงขึ้นมา ทั้งนี้เป็นผลจากนูร์ฮาชู (Nurhachu, ค.ศ. 1559-1626) ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นผู้วางรากฐานให้แก่ราชวงศ์ รายการวันนี้ดิฉันขอแนะนำนูร์ฮาชูให้ท่านฟังค่ะ

นูร์ฮาชูเกิดที่มณฑลเหลียวหนิงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อปีคริสต์ศักราช 1559 เป็นตระกูลผู้ดีชนชาติจูร์เชิน (Jurchen) ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นชนชาติแมนจู ปู่และพ่อของเขาเป็นขุนพลราชวงศ์หมิงประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวเขากำพร้ามารดาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ต่อมาจึงย้ายไปอยู่กับตายาย เล่ากันว่าเขามีความเป็นนักรบอยู่ในสายเลือด ฝึกขี่ม้าและยิงธนูตั้งแต่เด็กจนเชี่ยวชาญวิทยายุทธ์ในการรบ กลยุทธ์ที่เขายึดถือคือ รบชนะด้วยปัญญา ดังนั้น เขาจึงมักเอาชนะฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่าด้วยกำลังที่อ่อนกว่าเสมอ

ในตอนนั้นชนชาติจูร์เชินแตกเป็นสามเผ่า ต่างแย่งยึดพื้นที่และปล้นสะดมกันและกัน ปู่และพ่อของนูร์ฮาชูเสียชีวิตในสงคราม นูร์ฮาชูจึงเข้าเฝ้ากษัตริย์ราชวงศ์หมิงขอให้แก้แค้นให้กับตัวเอง แต่ถูกปฏิเสธ ปีคริสต์ศักราช 1583 นูร์ฮาชูในวัย 24 ปีจึงจัดตั้งกองทัพของตัวเองขึ้นเพื่อรวบรวมเผ่าต่างๆ ของชนชาติจูร์เชินเข้าด้วยกัน นโยบายของเขาก็คือ ปรองดองกับชนชาติมองโกลและชนชาติเกาหลีที่อยู่รอบข้าง และสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์หมิง บันทึกทางประวัติศาสตร์เขียนไว้ว่า นูร์ฮาชูเคยส่งบรรณาการไปจิ้มก้องกษัตริย์ราชวงศ์หมิงรวม 7 ครั้ง แล้วในที่สุด ด้วยการสู้รบกันเป็นเวลากว่า 30 ปี ปีคริสต์ศักราช 1616 นูร์ฮาชูก็สามารถสถาปนาอาณาจักร "ต้าจิน" (Da Jin) ขึ้น หรือที่ประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า "โฮ่วจิน" (Hou Jin) จากนั้นมา อาณาจักรของเขาก็มีความเป็นอิสระและเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ต้องขึ้นต่อราชวงศ์หมิงอีกต่อไป

ประชาชนในอาณาจักร "โฮ่วจิน" ของนูร์ฮาชูเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตจากเดิมที่เคยเลี้ยงสัตว์มาพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในทุกด้าน โดยเอาแบบอย่างจากประชาชนใน "ที่ราบภาคกลาง" คือ เขตของพวกชนชาติฮั่น เช่น หันมาทำอาชีพขุดเจาะเหมืองถ่านหิน ถลุงโลหะ บุกเบิกที่ดินเพาะปลูก เลี้ยงไหมและปลูกฝ้าย เป็นต้น ส่วนวัฒนธรรมด้านภาษานั้น แต่ก่อนชนชาติจูร์เชินไม่มีตัวหนังสือ มีเพียงแต่ภาษาพูดเท่านั้น แต่นูร์ฮาชูรู้ทั้งภาษาจีนและภาษามองโกล เขาจึงสั่งการให้นำตัวหนังสือภาษามองโกลและภาษาพูดจูร์เชินมาผสมกัน แล้วประดิษฐ์ตัวหนังสือภาษาจูร์เชินขึ้นมาใหม่ ต่อมาก็คือ ตัวหนังสือแมนจูนั่นเอง

เมื่ออาณาจักร "โฮ่วจิน" มีกำลังเข้มแข็งเกรียงไกรขึ้นอีก นูร์ฮาชูก็เริ่มทำสงครามกับราชวงศ์หมิง ปีคริสต์ศักราช 1622 เขายกทัพไปตีเมืองต่างๆ จนแตกติดต่อกัน 40 เมือง ระหว่างทำสงคราม นูร์ฮาชูก็ยังคงไม่ละเลยที่จะเสริมสร้างอำนาจการปกครองของตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ประกาศใช้นโยบายเกี่ยวกับที่ดินและการเก็บสรรพสามิตเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ จึงได้รับความสนับสนุนจากชาวนามาก

ปีคริสต์ศักราช 1626 นูร์ฮาชูยาตราทัพไปตีเมืองหนิงหย่วนภายใต้ราชวงศ์หมิงด้วยตนเอง แต่ครั้งนี้เขาประสบความพ่ายแพ้ ซึ่งเล่ากันว่า เป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิตของเขา จากนั้นไม่นานเขาก็ล้มป่วยและเสียชีวิตในขณะที่มีอายุ 68 ปี

เมื่อนูร์ฮาชูสวรรคตไปแล้ว หวงไท่จี๋ (Huangtaiji) พระราชโอรสได้สืบราชสมบัติต่อ และเปลี่ยนชื่ออาณาจักรว่า "ชิง" และนั่นก็คือการเริ่มต้นของราชวงศ์ชิง ในปีคริสต์ศักราช 1644 แผ่นดินราชวงศ์หมิงผลัดเปลี่ยนมาเป็นราชวงศ์ชิง และเมืองหลวงของชิงจึงย้ายจากเสิ่นหยางไปอยู่ที่ปักกิ่ง