China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2006-11-02 21:10:06    
บริษัทและสถาบันการศึกษาของไทยที่มาเข้าร่วมงานมหกรรมจีน-อาเซี่ยน

cri

สวัสดีครับท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการพิเศษจีนกับอาเซี่ยน ผมจางตาน จัดรายการจากเมืองหนานหนิงครับ

ท่านผู้ฟังครับ เวลานี้ งานมหกรรมจีน-อาเซี่ยนหรือ Caexpo กำลังจัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง วันนี้เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ผมขอแนะนำส่วนที่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยใน Caexpo ครั้งนี้ให้ท่านผู้ฟังทราบนะครับ

พอเดินเข้าสู่ห้องจัด Caexpo ครั้งนี้ ก็จะเห็นพื้นที่จัดกิจกรรม"เมืองแห่งมนตร์เสน่ห์" ซึ่งมีบู๊ธของเมืองจากประเทศจีน ประเทศอาเซี่ยน 11 เมือง ประเทศละเมือง เช่น นครเซี่ยงไฮ้ของจีน จังหวัดขอนแก่นของไทย เมืองโฮจิมินห์ของเวียดนามเป็นต้น แต่ละประเทศก็มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นเอกลักษณ์ของตน นำอาหาร การแสดงศิลปะ ผลไม้ สิ่งของเครื่องใช้หรือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของตนมาวางแสดง เพื่อทำให้ผู้ชมได้รู้จักและเกิดความประทับใจ สำหรับเมืองไทย ปีที่แล้วที่มาแสดงในงานคือเมืองเชียงไหม่ ปีนี้เป็นจังหวัดขอนแก่น ต่อไปนี้ขอเชิญคุณสรายุทธ์ มีมั่ง ผู้ออกแบบบู๊ธของเมืองไทยปีนี้มาคุยให้ฟังหน่อยว่า บู๊ธจังหวัดขอนแก่นสร้างขึ้นด้วยแนวความคิดอย่างไรบ้าง

"เราแบ่งพื้นที่ในบู๊ธออกเป็น 5 ส่วน ส่วนที่ 1 ก็เป็นส่วนที่มี Information นะครับ ส่วนที่ 2 ก็คือส่วนการแสดงบน Stage นะครับ ส่วนที่ 3 ก็คือส่วนของ Spa ส่วนที่ 4 คือการศึกษาแล้วก็การลงทุนนะครับ ส่วนที่ 5 ก็คือส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศนะครับ เราต้องการจำลองหมู่บ้านของจังหวัดขอนแก่น โดยที่หมู่บ้านในที่นี้ เราดึงความเป็นอิสาน ใช้รูปแบบสถาปัตย์ด้านเรือนไทย สร้าง Image ให้ออกมาในลักษณะของความเป็นเนื้อแท้ของชีวิตของคนในจังหวัดขอนแก่น"

ออกจากบู๊ธของจังหวัดขอนแก่นแล้ว ผมขอนำท่านผู้ฟังไปสู่ห้องแสดงสินค้าของไทย ซึ่งอยู่ในห้องแสดงสินค้าที่ 6 พอเข้าประตูห้องแสดง พื้นที่บู๊ธของบริษัท CP ก็เข้าสู่สายตาเราทันที บริษัท CP ได้เช่าทั้งหมด 10 บู๊ธโดยเสียค่าเช่าบู๊ธ 150,000 บาท นับเป็นพื้นที่แสดงที่กว้างขวางที่สุดในห้องนี้ และอยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด

จริง ๆ แล้ว ในฐานะที่ผมเป็นคนจีน เท่าที่ผมทราบ บริษัท CP เลื่องชื่อลือนามในประเทศจีนมานานแล้ว ทำไมยังจะต้องมาเช่าบู๊ธแสดงที่นี่ล่ะครับ ผมเลยไปสัมภาษณ์นายปรีชา พโรดม ผู้จัดการฝ่ายบุคลากรประจำสำนักประธานกรรมการด้วยคำถามเช่นนี้ เขาตอบว่า

"ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เราก็ได้มีการเข้าร่วมทุกครั้งทุกปี มีวัตถุประสงค์ก็คือจะสร้างภาพพจน์นะครับ แล้วก็สร้างชื่อเสียง เพราะเราถือว่า ทาง CP เป็นบริษัทของคนไทยที่มาลงทุนในเมืองจีน เพราะฉะนั้น เราก็ควรจะมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของทางประเทศไทย"

ส่วนสิ่งที่คนจีนอยากทราบมากก็คือ ปีนี้ บริษัท CP ของไทยนำสินค้าดี ๆ อะไรบ้างมาเสนอให้กับคนจีน นายปรีชา พโรดมบอกว่า

"ยกตัวอย่างเช่น Motorcycle ที่เรามีการร่วมทุนผลิตในประเทศจีนนะครับ ใช้ยี่ห้อว่า Dayang อันที่ 2 ก็มีทางด้านสายของเกษตร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ BIO และเครื่องจักรนะครับ ยาสัตว์ อาหารเสริมในอาหารสัตว์ เครื่องจักรการก่อสร้างโรงเรือน เครื่องจักรต่างๆ อันต่อไปก็เป็นธุรกิจทางด้านของเจียไต๋ Produce อันนั้นจะเป็นพวกเมล็ดพันธุ์พืชแล้วก็เมล็ดพันธุ์ผัก ผลไม้นะครับ อันต่อไปก็คือ บริษัท CP Intertrade ครับ ซึ่งก็มีร่วมทั้ง3ครั้งเหมือนกัน เขาก็มีสินค้าหลักส่วนใหญ่เป็นข้าว ข้าวหอมมะลิครับ แล้วก็มีผลิตภัณฑ์ของ CP Intertrade อยู่หลายอย่างด้วยกัน เรื่องของเครื่องกระป๋องนะครับ เรื่องของผลิตภัณฑ์อาหารแห้งแปรรูปนะครับ อีกอันสุดท้ายที่ผมจะกล่าวก็มีพืชครบวงจร ในนี้ก็จะประกอบด้วยใบชา ไวน์นะครับ"

นับได้ว่ามีสินค้าครบถ้วนและเป็นสินค้าที่มีคุณค่าสูงทั้งนั้นเลยครับ

ออกจากบู้ธของบริษัท CP แล้ว ผมได้ไปชมบู๊ธของบริษัทไทยอีกหลาย ๆ บู๊ธ พบว่ามีบริษัทไทยทั้งหมด 53 บริษัท เช่าบู้ธแสดงทั้งหมด 70 บู๊ธ เป็นธุรกิจเกี่ยวพันกับ ด้านอาหาร ผลิตผลการเกษตร เครื่องจักร สมุนไพรไทย เครื่องประดับและการศึกษาเป็นต้น

พูดถึงการศึกษา บู้ธที่ผมรู้สึกว่ามีความแตกต่างกับบู้ธอื่น ๆ บู๊ธหนึ่ง ก็คือบู๊ธของมหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งมีท่านศาสตราจารย์ รังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัย ควบตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติไทยเป็นหัวหน้าคณะ ผมสังสัยจริง ๆ ว่า ผู้ที่เข้าร่วม Caexpo ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจนักลงทุน บุคคลในวงการศึกษาจะมาทำไมในงานนี้ ท่านอธิการบดีตอบคำถามข้อนี้ว่า

"พวกคุณที่สามารถพูดไทยได้ ก็เรียนเป็นภาษาไทยนะครับ หรือถ้าหากว่าพูดจีน เราก็จัดสอนโดยใช้ภาษาจีนสอน เป็นการสอนทางรัฐศาสตร์หรือรัฐประสาสนศาสตร์นะครับ หรือไม่ก็สอนทางการค้าโดยตรงคือ หลักสูตรปริญาโททางบริหารธุรกิจ เราเปิดไม่ใช่เปิดเฉพาะในไทยนะครับ เปิดในจีนด้วย จะมีสนามสอบให้ อะไรให้ แล้วมหาวิทยาลัยรำคำแหงก็เป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล ที่สำคัญคือ ทางรัฐบาลจีนได้เคยลงนามรับรองซึ่งกันและกัน"

การแลกเปลี่ยนทางการศึกษา ความร่วมมือทางสติปัญญานั้น นับว่ามีคุณค่าสูง ยิ่งกว่าการค้าขายสินค้าเสียอีก ก็ต้องขอขอบคุณท่านศาสตราจารย์ รังสรรค์ แสงสุขที่ได้นำเสนอโครงการร่วมมือที่ดีเช่นนี้ให้กับคนจีน

รายการจีนกับอาเซี่ยนครั้งนี้ผมต้องขอจบลงเพียงแค่นี้ละครับ พบกับท่านผู้ฟังใหม่ในวันพรุ่งนี้ สวัสดีครับ