เนื่องจากเด็กปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นลูกโทน ได้รับความรักมากเกินไป ทำให้อ่อนแอทั้งในด้านชีวิตความเป็นอยู่และประสบการณ์ทางสังคม

กองทุนซ่งชิ่งหลิงจึงจัดกิจกรรมผจญภัยช่วงปิดเทอมหน้าร้อน รับสมัครเยาวชนออกเดินทางไปทุ่งหญ้ามองโกเลียใน ทุกคนต้องแบกกระเป๋าหนักกว่า 10 กิโลกรัมเดินทางวันละกว่า 10 กิโลเมตร และต้องหุงต้มอาหารเอง น้ำดื่มน้ำใช้ก็มีจำกัด ทำให้เด็กๆที่เติบโตในตัวเมืองได้รับการฝึกฝนไม่น้อย

เด็กชายหยูนจงกับหยูนเป้ยเป็นพี่น้องฝาแฝด อายุ 11 ขวบ ปีที่แล้ว พี่น้องสองคนได้ไปเข้าร่วมกิจกิจกรรมผจญภัยช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เมื่อกลับมา หน้าดำ ผิวหนังลอกเพราะตากแดด ฝ่าเท้าก็เกิดตุ่มพองใส แต่สองพี่น้องรู้สึกสนุกสนานกับกิจกรรมเช่นนี้ หยูนจงกล่าวว่า

"เราไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้ แต่ก่อน เราเอาแต่สบายๆเท่านั้น ขี้เกียจทำการบ้าน กิจกรรมครั้งนี้ได้ฝึกฝนให้เรารู้จักช่วยตัวเอง นอกจากนี้ประทับใจอย่างยิ่งที่ทุ่งหญ้ามีทิวทัศน์สวยมาก "

กองทุนซ่งชิ่งหลิงให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตของเด็กๆในเขตยากจนและชนบท โดยได้ดำเนินโครงการเสริมสุขภาพสตรีและเด็กในภาคตะวันตกของจีนเป็นเวลาหลายปี เพื่อตรวจสุขภาพและรักษาโรคให้สตรีและเด็กในเขตทุรกันดารฟรี และเปิดโครงการอบรมครูบาอาจารย์ทางภาคตะวันตก เพื่อให้ครูบาอาจารย์ในเขตยากจนมีโอกาสเข้าอบรมฟรีและยกคุณภาพการเรียนการสอนให้สูงขึ้น

นอกจากนี้ กองทุนซ่งชิ่งหลิงยังเน้นจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับลูกหลานของแรงงานที่ไปรับจ้างในเมืองต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปทำข่าวที่หอวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็ก ได้รู้จักเด็กหญิงที่มาจากชนบทอันฮุยคนหนึ่ง ชื่อหลิวอิง เมื่อสองปีก่อน หลิวอิงติดตามพ่อแม่ที่ไปรับจ้างในกรุงปักกิ่ง มาเรียนหนังสือในกรุงปักกิ่ง วันนั้น เธอไปเข้าร่วมการฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรถจำลองพลังแสงอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวได้เห็นว่า เมื่อเอารถจำลองขนาดเครื่องเล่นที่หลิวอิงประกอบเอง วางไว้ใต้แสงอาทิตย์ รถจำลองก็สามารถวิ่งได้ตามการควบคุม เธอบอกกับผู้สื่อข่าวว่า

"กิจกรรมเช่นนี้สนุกมาก และเพิ่มความรู้ใหม่ๆมากขึ้น ทำให้ได้เปิดหูเปิดตากว้างขึ้น"

คุณหลี่หนิงเล่าให้ฟังว่า แม้ว่ากองทุนซ่งชิ่งหลิงได้ทำโครงการหลากหลาย จัดกิจกรรมมากมาย และช่วยเหลือเด็กและสตรีจำนวนมหาศาล แต่เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ การพัฒนาไม่สมดุลกัน ต่อไปกองทุนจะเน้นช่วยเหลือเด็กในเขตชนบทและเขตยากจน

"ในเขตชนบทหลายพื้นที่ ยังมีปัญหาที่เด็กแยกกันอยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ไปหางานทำที่ต่างถิ่น และบางพื้นที่ระบบรักษาพยาบาลยังล้าหลังมาก เราต้องใช้ความพยายามต่อไปเพื่อให้เด็กทั้งหลายเจริญเติบโตอย่างมีความสุข"

รายการ"มองสังคม"ครั้งนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้