|
 หลิน: ตั้งแต่นครขอนแก่นกับเมืองหนานหนิงสร้างความสัมพันธ์เป็นมิตรภาพเป็นต้นมา ก็มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ในด้านการศึกษาก็มีการส่งครูบาอาจารย์มาสอน ท่านคิดอย่างยังไงที่เชิญชวนอาจารย์คนจีนมาสอนที่นี่ครับ
"ในนามของจังหวัดขอนแก่นนะครับ ก็ต้องขอบสื่อมวลชนจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือเฉพาะจากมณฑลกวางสี จากฮ่องกง แล้วก็จากไปหลายที่นะครับ ในความสัมพันธ์ของเรานั้นตั้งแต่ 15 ปีที่ผ่านมา ก็พัฒนาตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน เราได้มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องการส่งอาจารย์มาสอนภาษาจีนที่นี่ แล้วก็มีคนไทยเราไปเรียนที่โน่น ผมอยากจะยืนยันอย่างนี้ครับว่า ปัจจุบันนี้ ในประเทศเรา เรามีความตื่นตัวในการศึกษาภาษาจีนเป็นอย่างมาก ในทุกหลักสูตรในมหาวิทยาลัย ก็จะมีการเรียนการสอนภาษาจีน เพราะเราทราบดีและเข้าใจดีว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมากที่สุดในโลก การติดต่อสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การวัฒนธรรม ถ้ามีอุปสรรคทางด้านภาษา มันก็จะทำให้ล่าช้าไป แต่ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจ ก็จะสามารถจะสื่อกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน เมื่อเดือนที่แล้ว ผมเพิ่งไปนครปักกิ่ง ก็ดีใจมากที่ได้พบไกต์คนหนึ่งนะครับ เขาถามผมว่ามาจากเมืองไทยมาจากที่ไหน ผมก็บอกว่าผมมาจากขอนแก่น เขาก็ว่า มาจากขอนแก่น รู้จักดี ผมก็ถามว่าทำไมถึงรู้จักขอนแก่น เขาบอกว่าเขาเป็นคนหนานหนิง ขอนแก่นกับหนานหนิงรู้จักกันดีมากเลย ไกด์คนนั้นเคยมาเมืองไทยเรียนภาษาไทยสองสามเดือน เขาพูดได้เก่ง ก็ชื่นชมยินดีที่เรามีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม"
หลิน: ท่านเคยไปร่วมงานเอสโปมาแล้วใช่ไหมครับ ท่านคิดว่างานเอสโปมีบทบาทอะไรบบ้างที่ทำให้ฐานะหรือว่าชื่อเสียงของขอนแก่นเพิ่มสูงขึ้น
"ในด้านการค้านนะครับ เราไปเราก็เอาสินค้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นของพื้นบ้าน เป็นพวกยาสมุนไพร หรือว่าอาหาร เมืองไทยเราเรียกสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลที่มีชื่อเสียง เราเอาไปแสดงและมียอดจำหน่าย มีคนสนใจและซื้อเยอะนะครับ อันที่สองคือ เราได้นำการสาธารณสุข คือ การนวดแผนไทย นวดแผนโบราณ เมืองจีนมีชื่อเสียงในทางด้านฝังเขมใช่ไหมครับ ของไทยเราก็มีชื่อเสียงในทางด้านการนวดแผนโบราณ ซึ่งก็เป็นการรักษาโรค สุขภาพอีกแบบหนึ่งนะครับ แล้วก็อีกประการหนึ่งคือ ปัจจุบันนี้ ขอนแก่นเราเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในถนนอิสต์เวสต์นะครับ ถนนเส้นนี้ตัดผ่านจากประเทศพม่า แล้วก็เป็นเส้นตรงผ่านจังหวัดขอนแก่น แล้วก็ไปสิ้นสุดที่เวียดนาม จากจุดตรงนี้ ทำให้ที่ตั้งของขอนแก่นเราเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การที่จะขึ้นไปค้าขายกับทางประเทศจีนก็สะดวกนะครับ จะขึ้นไปทางประเทศลาวก็ได้ ประเทศเวียดนามก็ได้ ได้ไปเห็นตรงนั้นก็ทำให้พ่อค้าพ่อขายเมืองไทยเราได้มองเห็นช่องทางที่จะต้องเปิดตลาด รวมทั้งหนานหนิงเองก็ดี ก็ได้เห็นช่องทางที่จะคิดการลงทุนในประเทศไทย"
หลิน: เกี่ยวกับเรื่องการสอนภาษาจีน ท่านมีนโยบายอะไรที่จะส่งเสริมการเรียนภาษาจีนในขอนแก่นนะครับ
"เรามีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นในขณะนี้ก็เปิดหลักสูตร เราเรียกว่าสถาบันภาษา เดิมทีเรามีภาษาที่สอนอยู่ไม่กี่ภาษา มีภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน แต่ในปัจจุบันนี้ ในหนึ่งในคณะของสถาบันภาษาก็คือ สอนภาษาจีน ซึ่งก็มีผู้ที่ให้ความสนใจ อย่างที่ผมพูดตั้งแต่แรกว่า ปัจจุบันนี้ คนไทยให้ความสนใจในการที่ศึกษาภาษาจีนมาก"
1 2
|
