China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2007-10-17 15:01:23    
นายแพทย์สามคนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 17

cri

"ทำงานด้านนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนักหน่วง แต่เมื่อคิดถึงผู้ป่วย เราก็ไม่รู้สึกยากลำบาก "

ปี 1989 องค์การอนามัยโลกจัดการประมูลโครงการศึกษาวิจัยป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ในตับในประเทศเนเธอแลนด์ บทวิจัยของหลี่โย่เซิงได้รับรางวัล นับเป็นครั้งแรกที่ผู้เชี่ยวชาญคนจีนปรากฎตัวในการประชุมฟอรั่มว่าด้วยการป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ในตับระหว่างประเทศ หลังจากนั้นไม่นาน หลี่โย่เซิงได้รับทุนจากองค์การอนามัยโลกไปร่วมมือศึกษาวิจัยที่สถาบันวิจัยแพทย์ศาสตร์ควินส์แลนด์(Queensland)ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลาสี่ปี เมื่อเสร็จสิ้นการศึกษาวิจัย และได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยควินส์แลนด์แล้ว หลี่โย่เซิงได้สละตำแหน่งงานที่ออสเตรเลียเดินทางกลับประเทศไปทำงานในสถานบันวิจัยโรคพยาธิใบไม้ในตับของมณฑลหูหนานทางภาคกลางของจีน หลายคนไม่เข้าใจการกระทำของเขา หลี่โย่เซิงกล่าวว่า

"ผมเป็นห่วงชาวบ้านที่ติดโรคพยาธิใบไม้ในตับ"

แพทย์คนที่สามคือ จ้านเสิ้งจูน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซินฟาเจิ้นเมืองฮาร์ปินของมณฑลเฮยหลงเจียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในอำเภอเมือง ไม่เหมือนโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในตัวเมืองและไม่ได้แบ่งแยกเป็นแผนกต่างๆ แต่คนไข้ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชนบทมักจะเป็นโรคชนิดต่างๆไม่แพ้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ จ้านเสิ้งจูนได้ศึกษาด้วยตนเองจนเรียนรู้วิธีและเทคนิครักษาโรคกระดูก โรคสตรีและโรคเด็ก เรียกได้ว่ารักษาได้เกือบทุกโรค และมีฝีมือยอดเยี่ยมด้วย ผู้ป่วยพากันมาหา มากที่สุด เขาเคยผ่าตัด 13 รายภายในวันเดียว

จ้านเสิ้งจูนไม่เพียงแต่มีฝีมือยอดเยี่ยม ยังมีจรรยาบรรณในวิชาชีพที่สูงส่ง เมื่อพบคนไข้ที่ยากจน จ้านเสิ้งจูนก็พยายามช่วยเหลือ นางเว่ยซูเสีย หญิงชาวบ้านบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อสี่ปีก่อน เธอเสียเลือดมากจนหมดสติ ช่วงนั้น ทางบ้านยากจน ได้รวบรวมเงินมาได้เพียง 700 หยวน แต่ค่าผ่าตัดและค่ารักษาต้องใช้ 3,500 หยวน จ้านเสิ้งจูนตัดสินใจช่วยชีวิตคนไข้ก่อน แล้วค่อยปรึกษากัน ดังนั้น เว่ยซูเสียจึงได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ปี 1987 จ้านเสิ้งจูนเริ่มเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลซินฟาเจิ้น ตอนนั้น โรงพยาบาลขาดเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆและมีหนี้สินกว่าแสนหยวน แต่ปัจจุบัน จ้านเสิ้งจูนไม่เพียงแต่ปลดหนี้ให้หมดสิ้นเท่านั้น หากยังทำให้ทรัพย์สินของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นหยวน ได้ซื้ออุปกรณ์ทันสมัยต่างๆที่มีมูลค่ากว่า 1ล้าน 5 แสนหยวน การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ อาศัยเคล็ดลับอะไร

"เราประหยัดมาก และพยายามยกระดับเทคนิคการรักษาและบริการให้สูงขึ้น พยายามตอบสนองความต้องการของคนไข้ทุกประการ"

ท่านผู้ฟังค่ะ นายแพทย์ทั้งสามคนดังกล่าวเชี่ยวชาญกันคนละด้าน แต่ทั้งสามคนมีความเชื่อที่ตรงกันก็คือ การปลดปล่อยความเดือดร้อนของคนไข้เป็นความสุขมากที่สุดของตนเอง

รายการ"มองสังคม"ครั้งนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้


1 2