China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2008-01-07 14:33:07    
ไปเที่ยวมาเก๊า
รายการพาเที่ยวจีน

cri

วัดมาเก๋อ

ท่านผู้ฟังคะ เมื่อเดินตามถนนเล็กซอยน้อยของมาเก๊า ไปเยี่ยมชมโบสถ์ วัดวาอาราม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร ท่านจะได้เห็นสไตล์การก่อสร้างที่แตกต่างกัน ซาบซึ้งถึงการ นับถือศาสนาที่ต่างกันและประเพณีด้านอาหารการกินที่ต่างกัน... สิ่งเหล่านี้ล้วนหลอมรวมอย่างกลมกลืนกันในเมืองทางภาคใต้ของจีนแห่งนี้ ในรายการพาเที่ยวจีนวันนี้ ดิฉันขอพาท่านไปเที่ยวมาเก๊าคะ

เดิมที มาเก๊าเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งเท่านั้น ชื่อ เรียก"มาเก๊า"มาจากชื่อของเทพยดา "มาจู่" เล่ากันว่า หลายร้อยปีก่อนโน้น ในขณะที่เรือประมงลำหนึ่งกำลังเดินเรือ ในทะเลที่คลื่นลมสงบอยู่นั้น ทันใดนั้นได้เกิดพายุฝน คลื่นลมแรง ในช่วงเวลานั้น หญิงสาวผู้หนึ่งบนเรือได้ลุกขึ้น ยืน ออกคำสั่งให้พายุฝนหยุดลง พายุฝนก็หยุดลงจริงๆ ทะเลกลับคืนสู่ความสงบ เรือประมงเดินทางถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ เมื่อขึ้นฝั่งแล้ว หญิงสาวคนนี้ไม่พูดไม่จากับใคร เดินตรงไปยังภูเขาลูกหนึ่งที่ชื่อ "มาเก๋อ" ได้เกิดรัศมีสาดส่องต้องตัวหญิงสาวฉับพลัน เธอได้กลายเป็นกลุ่มควัน ลอยหายไป ต่อมา ผู้คนจึงได้สร้างวัดแห่งหนึ่งในสถานที่ ขึ้นฝั่งของเธอและตั้งชื่อว่า "วัดมาเก๋อ"เพื่อเป็นสถานที่บูชาหญิงสาว ที่นำความเงียบสงบและความเป็นสิริมงคลแก่ชาวประมง เมื่อกลาง ศตวรรษที่16 ในขณะที่ชาวโปรตุเกสรุ่นแรกเดินทางถึงมาเก๊าและ ถามถึงชื่อเรียกจากชาวท้องถิ่น ชาวบ้านในท้องที่นั้นเข้าใจผิดว่า พวกเขาถามถึงชื่อเรียก ของวัดแห่งนี้ จึงตอบว่า "มาเก๋อ" ชาวโปรตุเกสจึงเรียก "มาเก๊า"ตามการออกเสียงของชาวท้องถิ่น เทพยดา "มาจู่"เป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตาปราณี ภราดรภาพ สันติภาพ ความสงบสุขและสิริมงคล ด้วยเหตุนี้ วัด "มาเก๋อ"จึงมีผู้คนไปกราบไหว้กันไม่ขาดสาย เมื่อถึงวันเทศกาลต่างๆ ยิ่งเต็มไปด้วยผู้ที่ไปท่องเที่ยวหรือมาคารวะ นักท่องเที่ยวที่ นับถือ"มาจู่"เมื่อมาถึงมาเก๊าแล้ว ล้วนไปจุดธูป เทียนกล่าวบนบานต่อรูปปั้นเทพยดา "มาจู่"

มาเก๊าไม่เพียงแต่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยลักษณะพิเศษทางวัฒน ธรรมเก่าแก่ของจีนที่เข้มข้นเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่ที่มีมีวิถีชีวิตของชาวต่างประเทศด้วย ในช่วงระยะเวลากว่า 400 ปีที่ผ่านมาวัฒนธรรมทั้งตะวันตกและตะวันออกได้ผสมผสานหลอมรวมเข้าไว้ ด้วยกัน จึงก่อให้เกิดมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากมาย

ประตูโค้งอนุสาวรีย์"ต้าซานปา"ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อ เสียงแห่งหนึ่งในมาเก๊า เพราะสิ่งปลูกสร้างแห่งนี้ได้หลอมรวมสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมทั้งของจีนและยุโรปเข้าไว้ด้วยกันเป็น อย่า่งดี ประตูโค้งอนุสาวรีย์ "ต้าซานปา" ได้สร้าง ขึ้นในสถานที่เดิมของที่ตั้งโบถส์เซ็น เปาโลในศตวรรษที่ 17 ออกแบบ โดยบาทหลวงชาวอิตาเลี่ยนคนหนึ่ง นับได้ว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกเมื่อปีค.ศ. 1835 โบสถ์เซ็น เปาโลถูกไฟไหม้เผาทำลาย เหลือแต่กำแพงด้านหน้าอย่างที่เห็นใน ปัจจุบันเท่านั้น เนื่องจากรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับประตูโค้งที่สร้าง ขึ้นเพื่อระลึกถึงบุคคลที่มีความเมตตา มีความ จงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินในสมัยโบราณของจีน จึงได้ตั้งชื่อ เรียกว่า"ต้า ซานปา"บนประตูโค้งมีภาพแกะสลักที่มีฝีมือละเอียด ประณีต ไม่ว่าไม้กางเขนที่อยู่บนยอดประตูโค้งหรือรูปแกะสลัก พระโอรสแห่งพระผู้เป็นเจ้าและรูปปั้นพระแม่เจ้าที่ล้อมรอบด้วยเทวทูตและดอกไม้ ล้วนเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศทางศาสนาที่เข้มข้น ส่วนรูปแกะสลักหัวสิงโตของจีน กล่าวได้ว่า เป็นผลงานยอดเยี่ยมที่ ผสมผสานทั้งศิลปกรรมทางศาสนาของตะวันตกกับศิลปกรรมแกะสลักหินที่มีมาแต่ดั้งเดิมของจีน

1 2