เกาลัดหรือเชสท์นัท (chestnut) เป็นไม้ยืนต้นที่ขึ้นอยู่ในแทบจะทุกแถบถิ่นของโลกที่มีอากาศเย็น เป็นพืชพื้นถิ่นทั้งในอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ในบ้านเราก็มี คนไทยเรียกชื่อตามภาษาถิ่นว่า 'ลูกก่อ'

สำหรับเกาลัด ถึงจะเปลือกแข็ง ก็เป็นนัทประเภทเดียวที่ทางโภชนาการถือว่าเป็นผัก เพราะมันมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และน้ำมันมีนิดเดียวและเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว อุดมด้วยวิตามินบี คนโบราณเขาว่าเกาลัดเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

ตำรายาจีนแนะนำว่า หากกินเกาลัดดิบจะแก้อาการ กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้สูงอายุ และถ้าหากเคี้ยวดิบ ๆ ค่อย ๆ ซึมซับเอาน้ำเกาลัดเข้าไปจะแก้คออักเสบ หากเอาเกาลัด 7 ลูกไปต้มกับข้าวกล้อง ใส่เซ่งจี๊ จะช่วยแก้อาการปวดหลัง ถ้าท้องเสีย โดยเฉพาะในเด็ก ให้เอาเกาลัดมาบดเป็นแป้งแล้วต้มกับพลับแห้ง จนเป็นแป้งเปียก กินไปจนกว่าอาการท้องเสียจะทุเลาลง ถ้าใครที่ร่างกายอ่อนแอและกำลังฟื้นไข้จะใช้สูตรนี้เปียกเกาลัดกิน สุขภาพก็จะฟื้นเร็วยิ่งขึ้น

ปกติเกาลัดจะออกมาในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และก็จะมีไปจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนมีนาคมค่ะ ราคาก็ถูกมากคะ กิโลละ เจ็ดสิบ ถึงแปดสิบบาท

สรรพคุณของเกาลัดมีการบอกเล่ามาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังหรือประมาณเมื่อพันกว่าปีที่แล้วค่ะว่าเกาลัดเป็นอาหารธาตุอุ่น มีรสเค็ม ช่วยในการบำรุงไต โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว และก็ยังช่วยลดอาการปวดข้อด้วย เพราะว่าการทำงานของไต กับกระดูก ข้อเอ็นมีความสัมพันธ์กัน

เกาลัด เป็นภาษาจีนใช้คำว่า ลี่ เป็นที่นิยมกันมาก ในงานแต่งงาน ถ้าหากจะเอาเกาลัดมาพร้อมพุทรา เกาลัดและพุทรา พุทรานั้นภาษาจีนกลางเรียกว่า เจ่า เป็นภาษาแต้จิ๋วเรียกว่า จ้อ เจ่านี่เป็นภาษาจีนกลางแปลว่า พุทรา แต่ถ้าแต้จิ๋วเรียกว่า จ้อ ถ้านำเอาลูกเกาลัดมาพร้อมกันในงานแต่งงาน จัดเอาไว้ ก็มีความหมายว่าขอให้มีบุตร-ลี่ ในเร็ววัน-เจ่า

เกาลัดคั่วที่เห็นกันมาก ๆ ในแถวเยาวราช มักจะมีเม็ดสีดำเล็ก ๆ คั่วรวมอยู่ด้วย บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเมล็ดกาแฟจริง ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่

เกาลัดเสริมสุขภาพ

เม็ดทรายขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เป็นทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง หรือที่เห็นตามตู้ปลาสีออกน้ำตาล พ่อค้าหรือแม่ค้าจะนำเอาทรายแห้งใส่ลงไปในกระบะใบใหญ่ พอทรายร้อนระอุได้ที่จนเป็นสีดำ ก็จะนำเอาลูกเกาลัดใส่ลงไป บางร้านเติมน้ำตาลทรายคั่วรวมกันให้ได้รสหวาน บางร้านเพิ่มกลิ่นหอมด้วยการใส่เมล็ดกาแฟคั่วรวมไป