ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา ราคาข้าวในตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางประเทศเกิดความกังวลและแย่งกันซื้อข้าว จนกระทั่งเกิดความวุ่นวายต่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะเป็นแหล่งส่งออกข้าวสำคัญ ต่างพากันใช้มาตรการรับมือ ใช้ความพยายามเพื่อแก้ไขวิกฤติธัญญาหารของโลก

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับแรกของโลก ปีที่แล้วได้ส่งออกข้าว 9 ล้าน 5 แสน 5 หมื่นตัน สร้างรายได้ 3,592 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมาตลาดโลกมีความต้องการ ข้าวอย่างมาก ทำให้ราคาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การส่งออกข้าวของไทยมีความคึกคัก กระทรวงพาณิชย์ไทยระบุสถิติเมื่อเร็วๆนี้ว่า สี่เดือนแรกของปีนี้ ไทยได้ส่งออกข้าว 4 ล้าน 7 หมื่นตัน เพิ่มมากขึ้น 74%เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้มากขึ้น 61% เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวที่กรุงเทพฯว่า ในวาระที่โลกขาดแคลนธัญญาหาร ประเทศไทยจะไม่ห้ามส่งออกข้าว

เวียดนามเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับที่สองของโลก เนื่องจากประสบภัยธรรมชาติ ปีนี้ เวียดนามผลิตธัญญาหารน้อยลง แต่สามารถสนองความต้องการได้เพียงพอ เมื่อปลายเดือนเมษายน เมืองบางแห่งของเวียดนามเคยเกิดสภาพที่แย่งกันซื้อข้าว สำหรับเรื่องนี้ รัฐบาลเวียดนามตักเตือนว่า ถ้าพ่อค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาธัญญาหาร จะถูกลงโทษอย่างหนัก เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา นายเหงียน ตัน ดุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามมีธัญญาหารสำรองพอเพียง สามารถสนองความต้องการทั้งในและต่างประเทศได้ คาดว่า ปีนี้ เวียดนามจะส่งออกข้าวมากถึง 3 ล้าน 5 แสนตัน

กัมพูชาก็เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวเช่นกัน ปีที่แล้วได้ส่งออกข้าวประมาณ 1 ล้าน 5 แสนต้น เมื่อเร็วๆนี้ นายเคียว กัญญฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชาแถลงว่า ถ้าปล่อยให้มีการขึ้นราคาข้าวตามอำเภอใจ ย่อมจะเกิดสงครามราคาธัญญาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศทั้งหลาย สำหรับแนวคิดการจัดตั้งองค์การประเทศผู้ส่งออกข้าวระหว่างประเทศผลิตธัญญาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น กัมพูชาสนับสนุน นายเคียว กัญญฤทธิ์กล่าวว่า ประเทศผู้ส่งออกข้าวต้องมีความสามัคคี มิฉะนั้น วิกฤติราคาข้าวในตลาดโลกนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น

เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทยและพลเอกเทียน เซน นายกรัฐมนตรีพม่าได้เสนอขณะจัดการเจรจาว่า ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาวและพม่า ที่เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสามารถจัดตั้งองค์การประเทศผู้ส่งออกข้าวเช่นเดียวกับองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน เพื่อรวมพลังส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดโลก แต่นายคูโรดา ฮารูฮิโกะ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียคัดค้านการจัดตั้งองค์การฯดังกล่าว เขาเห็นว่า การจัดตั้งองค์การนั้น ไม่เพียงแต่จะกระทบถึงผลประโยชน์ของประเทศผู้นำเข้าข้าวเท่านั้น หากยังไม่มีส่วนช่วยต่อประเทศส่งออกข้าวอีกด้วย ฟิลิปปินส์ก็คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์เห็นว่า แนวคิดดังกล่าวจะบรรลุผลเป็นจริงหรือไม่ ยังยากที่จะคาดหมายได้