ปัจจุบัน อุตสาหกรรมของเวียดนามยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเจริญเติบโตและมีกำลังการแข่งขันมากที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
เกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อสูงนั้น นายเฉาหยูนหัวเห็นว่า ปัจจุบัน รัฐบาลประเทศต่างๆล้วนดำเนินการต่อสู้กับสภาวะเงินเฟ้อสูง เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่า จะเป็นธัญญาหาร ผลิตผลการเกษตรในเขตโซนร้อน และการประมงเป็นต้น นอกจากจะสอดรับกับความต้องการภายในประเทศของตน ยังสามารถส่งออกได้มาก ด้วยเหตุนี้ การที่เวียดนามมีเงินเฟ้อนั้น ยังไม่นำความยากลำบากมาสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามโดยตรงมากนัก
เกี่ยวกับสถานการณ์ของสถาบันการเงินในเวียดนามนั้น เนื่องจากกิจการการเงินของเวียดนามยังไม่ได้เปิดสู่ภายนอกทั้งหมด ปัจจุบัน เวียดนามกำลังดำเนินการปฏิรูปเศนษฐกิจการตลาดแห่งสังคมนิยมก็ตาม แต่รัฐบาลยังควบคุมกลไกในระดับมหภาคมากมาย ดังนั้น สภาพทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังอยู่ใต้การควบคุม นอกจากนั้น เวียดนามยังเป็นประเทศเกษตรกรรม และปัจจุบัน เพิ่งก้าวเข้าสู่การดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรม เศรษฐกิจที่ไม่ใช่ของจริงในเวียดนามมีสัดส่วนไม่มากในเศรษฐกิจประชาชาติของเวียดนาม ดังนั้น ถ้าการผลิตภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมไม่เกิดปัญหาอะไรแล้ว เศรษฐกิจเวียดนามยังจะคงรักษาแนวโน้มการเติบโตด้วยดีต่อไป
และถ้าหากการลงทุนจากต่างประเทศยังสามารถหลั่งไหลไปลงทุนในเวียดนามต่อไป การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะคงรักษาการเติบโตที่รวดเร็วต่อไป แหล่งข่าวรายงานว่า ครึ่งแรกปีนี้ มีเงินทุนต่างประเทศ 33000 ล้านเหรียญสหรัฐลงทุนในเวียดนาม เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2007 เพิ่มขึ้น 65%
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า เวียดนามยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่เต็มไปด้วยพลัง และความยากลำบากทางเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นเพียงภาวะชั่วคราว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามได้ 1 2
|