"สําหรับกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งครั้งนี้ก็พูดได้คําเดียวว่าเป็นที่ใฝ่ฝันของนักข่าวทุก ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักข่าวในส่วนของประเทศไทยซึ่งต้องบอกก่อนว่าการเข้่าไปทํางานโอลิมปิกครั้งนี้ การที่ได้เอดีการ์ดสําหรับเมืองไทยยากมาก นักข่าวที่ไปช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นคนโชคดี ประเทศจีนเป็นแหล่งอารยธรรมมานานเป็นพันๆปี ทุกคนก็อยากเข้ามาดู หนึ่งมาดูกีฬาด้วย แล้วหลังจากนั้นก็ไปท่องเที่ยวดู เอดีการ์ดเที่ยวนี้อย่างกับทองเลย"

คณะนักกีฬาไทยมีนักกีฬา 51 คน จะเข้าร่วมการแข่งขัน เช่นยกนํ้าหนัก มวยสากล เทควันโด ว่ายนํ้าและแบดมินตันเป็นต้น นายธนา ชัยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยกล่าวว่า

"คณะนักกีฬาไทยเข้าร่วมงานกีฬาโอลิมปิกด้วยความคิดที่ถือมิตรภาพเป็นอันดับแรก พยายามเพิ่มพูนมิตรภาพระหว่างไทยกับจีนตลอดจนไทยกับประเทศต่าง ๆ ในโลก เราจะใช้ความพยายามมากที่สุด ให้ได้รับเหรียญทอง 1 หรือ 2 เหรียญให้ได้"

เมื่อเดือนมิถุนายน นายธนา ชัยประสิทธิ์ได้ไปดูงานที่หอกีฬาต่าง ๆ ของปักกิ่ง เขารู้สึกพอใจอาสาสมัครมากที่สุดในงานกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ โดยเฉพาะมีอาสาสมัครหลายภาษา สําหรับเรื่องนี้พณฯรัฐกิจ มานะทัตเอกอัครราชทูตไทยประจําประเทศจีนได้แสดงบทบาทสําคัญ ท่านทูตได้รับเชิญจากรัฐบาลจีนให้เข้าร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกในฐานะเป็นเอกอัครราชทูต ได้ใช้เงื่อนไขของสถานทูต หาโอกาสให้คนไทยเข้าร่วมงานกีฬาโอลิมปิกมากยิ่งขึ้น ท่านกล่าวว่า

"สําหรับโอลิมปิกครั้งนี้กับคนไทยมีความหมายพิเศษ คืออยากจะมาอยากจะร่วมพิธีเปิด มันมากกว่าโอลิมปิกครั้งไหนเท่าที่ผ่านมา ผมตั้งใจจะให้โอลิมปิกกระจายสู่เด็ก ๆ ด้วย เพราะฉะนั้น มีนักเรียนไทยในปักกิ่งในเมือง มณฑลต่างๆมาช่วยงานของนักกีฬาไทยก็ดีของคณะไทยก็ดี ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหา เพราะคนสมัครมากกว่าที่เราต้องการ มากเหลือเกิน"